คนร้ายฆ่าโหดหนุ่มเมียนมาลากศพฝังดินสวนปาล์มที่สิชล

ชาวบ้านพบศพหนุ่มเมียนมาถูกฝังขึ้นอืดปริศนาหมกสวนปาล์มน้ำมัน คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตรวจค้นบ้านเช่าของผู้ตาย พบรอยถูกลาก-คล้ายการต่อสู้ ผญบ.เผยก่อนพบศพ มีพยานเห็นผู้ตายนั่งก๊งเหล้าขาวกับเพื่อนร่วมชาติ สันนิษฐานเมาทะเลาะฆ่ากันตาย เบื้องต้น ตร.เร่งติดตามตัวเพื่อนร่วมชาติทั้ง 2 มาสอบปากคำแล้ว   

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 4 ก.ค. 67 ร.ต.อ.วีรศักดิ์ มะลิทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.สิชล รับแจ้งเหตุพบศพเสียชีวิตปริศนาไม่ทราบสาเหตุ ในสวนปาล์มน้ำมัน ซอยนาหัน 2 ม.3 ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.บุญเชิญ ลิ้มประจวบพงษ์ ผกก.สภ.สิชล พ.ต.ท.ปรุฬชัย เหมกัง รอง ผกก.(สอบสวน) แพทย์เวร รพ.สิชล และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษมนครศรีธรรมราช (สิชล)

ที่เกิดเหตุพบศพผู้ตายเป็นชาย สภาพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ มีกองดินกลบร่างท่อนบน ตั้งแต่เอวไปจนถึงลำคอ นอกจากนี้ ยังมีเศษทางมะพร้าว ปาล์ม และหญ้าปิดคลุมทับศพไว้อีกชั้น จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบผู้เสียชีวิตชื่อ นายโจว เซเวน อายุประมาณ 35-40 ปี เป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า มาทำงานก่อสร้างในพื้นที่ อ.สิชล และพื้นที่ใกล้เคียงนานหลายเดือนแล้ว โดยเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนคนงาน 2 คน ซึ่งเป็นชาวเมียนมาเช่นกัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบร่องรอยบาดแผลบนศพชัดเจน เนื่องจากศพมีสภาพขึ้นอืด เสียชีวิตมาหลายวันแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ รพ.สิชล เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ คาดจะทราบผลเร็วๆ นี้

ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ตายเช่าอยู่กับเพื่อนชาวเมียนมา 2 คน แต่ไม่พบทั้งสองอยู่ที่บ้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวเพื่อนทั้ง 2 มาสอบปากแล้ว นอกจากนี้ บริเวณใต้ถุนบ้าน ยังพบร่องรอยการลาก คล้ายร่องรอยการต่อสู้ และพบเคสโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ทราบว่า ผู้ตายและเพื่อนชาวเมียนมาทั้ง 2 คน ทำงานก่อสร้างด้วยกัน ได้เบิกเงินค่าจ้างจากนายจ้างเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และพอวันอาทิตย์มีพยานเห็นผู้ตายขี่รถจักรยานไปซื้อเหล้าขาว ที่ร้านค้าในหมู่บ้านมานั่งกินที่บ้านเช่ากับเพื่อนชาวพม่าทั้งสอง สันนิษฐานว่าน่าจะเมาทะเลาะกัน และฆ่ากันตายช่วงค่ำวันนั้นเลย แล้วลากศพมาทิ้งในร่องดินสวนปาล์มน้ำมันห่างบ้านเช่า 100 เมตร โดยใช้ดินกลบร่างครึ่งตัว แล้วเอาทางมะพร้าว ปาล์ม และหญ้า มาปิดทับอีกชั้น แล้วหลบหนีไป ก่อนมีชาวบ้านมาพบศพดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรอผลชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง หากเป็นการฆาตกรรมจริง จะเร่งติดตามตัวเพื่อนทั้ง 2 มาสอบปากคำ เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป