กระบี่ (ไร้เทียมทาน)

กำลังเตรียมตัวจัดกระเป๋าเพื่อเดินทางไปกระบี่ ตามคำเชิญของเจ้าของพื้นที่ ททท.สำนักงานกระบี่ นึกถึงซีรีย์เรื่องนี้ขึ้นมาได้เลยขอยืมมาใช้เป็นชื่อทริปนี้ก็แล้วกัน

เราทุกคนพร้อมกันเวลาเช้าตรู่ 05.00 น. ที่เคาน์เตอร์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ (สุวรรณภูมิ) หลังจบขั้นตอนตรงนี้ทุกคนในทริปเริ่มตรงไปที่ห้องรับรองผู้โดยสารของสายการบินบางกอกแอร์เวย์  เริ่มต้นจาก ขนมปัง  แซนวิช  ครัวซอง น้ำชา กาแฟ  เครื่องดื่มร้อน เย็น ครบ และที่ขาดไม่ได้ “ข้าวต้มมัด”  ของอร่อยที่ทุกคนต้องลอง  ท่ามกลางการต้อนรับอย่างอบอุ่นของพนักงานทุกคน อิ่มจนพุงเริ่มป่อง  ได้เวลาไปขึ้นเครื่อง เหินฟ้าไปกระบี่  ปรากฏว่าบนเครื่อง แอร์คนสวยนำอาหารเข้าร้อนๆ มาเสริฟอีกรอบ  มีหรือที่ชาวคณะจะปฏิเสธ

อิ่ม...อร่อย  จนตัวแทบปริ  เราก็เดินทางมาถึงเมืองกระบี่  เมืองในฝันของหลายๆ คน ที่สนามบินรถบัส 40 ที่นั่ง จากท่านประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (คุณชำนาญ  ศรีสวัสดิ์ หรือ โกจง ) พร้อมพนักงาน มาจอดรอรับชาวคณะอยู่แล้ว 

วันนี้ ท่านประธานฯ (คุณชำนาญ  ศรีสวัสดิ์ หรือ โกจง )  มาพบชาวคณะไม่ได้ เนื่องจากมีงานด่วนทางกรุงเทพฯ  แต่ได้ส่งเลขาคนสวยมาเป็นตัวแทน ในการอำนวยความสะดวก

เราเริ่มเดินทาง เพื่อตรงไปสระมรกต สถานที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ จากนั้นตรงไปแช่น้ำพุร้อนเค็ม ซึ่งมีที่เดียวในประเทศไทย ใครที่ปวดขา เมื่อยล้า  ลองแช่ ครู่เดียว อาการดีขึ้นเห็นๆ

หลังอาหารมื้อกลางวัน เราตรงไปอ่างเก็บน้ำคอลงแห้ง ของกรมชลประทานไปฟังบรรยายสรุปเรื่อง การบริหารจัดการน้ำในแล้งที่ผ่านมาว่าทำอย่างไร ประชาชนถึงมีน้ำอุปโภค บริโภค ไม่ขาดแคลน

และเมื่อได้เวลาเราตรงไปพิพิธภัณฑ์ลูกปัด ที่ถูกขุดพบที่ อ.คลองท่อม จ.กระบี่  ที่นี่มีลูกปัดมากมายมีอายุเป็นร้อยปี  ที่น่าแปลกใจคือลูกปัดทั้งหมดอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก

เมื่อช่วงเวลาอาหารเย็นมาถึง  ชาวคณะแต่งตัวประชันขันแข่งชนิดไม่มีใครยอมใคร เพื่อคว้ารางวัลของ ททท.กลับบ้าน

ผอ.ททท.สำนักงานกระบี่ (ผอ.อะหมาน  หมัดอดัมส์) กล่าวเปิดงานต้อนรับ  แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดที่อยากให้เราได้ไปเที่ยว  แถมท้ายด้วยเพลงเพราะๆ จาก ผอ. ที่ตั้งใจร้องเพื่อพวกเราจริงๆ

อิ่มจนพุงปริ ก่อนจะกลับไปหลับฝันดีในคืนแรกที่โรงแรมอ่าวนางปริ๊นวิลล์  ห้องสวยจนไม่อยากกลับบ้าน

วันที่สอง  เราทุกคนตื่นแต่เช้า แต่งตัวเตรียมลงทะเลเต็มที่  เพราะวันนี้เราชาวคณะจะชมความงามของทะเลแหวกว่า สวยขนาดไหน  เรือสปีดโบท  เรือสามเครื่องยนต์ขนาดจุ 40 คน พร้อมเจ้าหน้าที่ พาเราทุกคนตรงไปทะเลแหวก ผ่านเกาะไก่  เกาะทับ  และเกาะหม้อ

ทะเลแหวกของกระบี่ สวยสมคำร่ำลือ ทุกคนสนุกกับการลงทะเล  ถ่ายรูปและส่งเสียงอย่างสนุกสนาน

จากนั้นตรงไปไร่เลย์  ก่อนจะกลับขึ้นฝั่งทานอาหารกลางวัน เปลี่ยนชุดและสนุกกันต่อจนถึงเวลาอาหารเย็นที่ ผอ.กรมชลประทานกระบี่ จัดเลี้ยง อาหารอร่อยจนหลายคนลืมอ้วน

เช้าวันที่สาม เราตรงไปวัดมหาธาตุวชิรมงคล หรือที่ชาวบ้านเรียกขานว่าวัดบางโทง  ที่นี่เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมงดงามมาก ถ้ามากระบี่อย่าลืมแวะไป

ยังมีสถานที่ ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น อนุสาวรีย์ปูดำ ทีใครมาเป็นต้องไปยืนถ่ายรูปกับปูก้ามใหญ่สีดำ  เกาะพีพี  เกาะมาหยา  ที่ขึ้นชื่อขอให้นักท่องเที่ยวมาเยือน

เราและชาวคณะโบกมือลากระบี่ ก่อนจะบอกว่า   จะกลับมาในอีกไม่ช้า  รถตู้ 5 คัน  มารอรับเพื่อจะเดินทางต่อไปยังภูเก็ต

ภูเก็ตวันนี้ ยังคงคลาคล่ำด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ  สี่แยกชาร์เตอร์ ยังคงเป็นเซ็นเตอร์ที่ใครๆ ต้องมายืนถ่ายรูป เช่นเดียวกับเมืองเก่า ตึกแบบซิโนโปรตุกีส  ยังคงมีมนต์ขลัง   ถนนรมณีย์ยา เป็นถนนที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดสายหนึ่งของโลก  วัดฉลอง ยังคงมีเสียงประทัดดังกึกก้องเกือบทั้งวัน  จากผู้ที่คนที่ศรัทธามากราบไหว้  ขอพร จากหลวงพ่อแช่ม  เมื่อสมความปรารถนาก็มาจุดประทัดถวาย  หาดกระรน  หาดกะตะ  แหลมพรหมเทพ ยังมีเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน และที่พักริมหาดป่าตองที่โรงแรมเดอะรอยัลพาราไดซ์ รีสอร์ทแอนด์สปา ก็ยังคงรอต้อนรับทุกคน

อยากบอกว่า...เที่ยวเมืองไทยดีกว่า เพราะเมืองไทย ที่ไหนก็สวย (เรื่องจริง) 

ขอขอบคุณ ท่าประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (คุณชำนาญ  ศรีสวัสดิ์)  ททท.สำนักงานกระบี่  กรมชลประทาน(กระบี่)  สายการบินบางกอกแอร์เวย์  โรงแรมอ่าวนางปริ๊นวิลล์ และโรงแรมเดอะรอยัล ภูเก็ตพราราไดซ์ รีสอร์ทแอนด์สปา  รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางไปทำสารคดี “กระบี่  (ไร้เทียมทาน)”  ครั้งนี้