ปิดโครงการคนชัยภูมิร่วมสร้างสุขโดยสสส.ขอร่วมกันเต้นโชว์ฟ้อนรำสวยงามสนุก

ปิดโครงการคนชัยภูมิร่วมสร้างสุขโดยสสส.ขอร่วมกันเต้นโชว์ฟ้อนรำสวยงามสนุก





ad1

เมื่อวันที่ 29 เม.ย.67 ที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุข จ.ชัยภูมิ ได้มีการปิดโครงการ คนชัยภูมิ ร่วมสร้างสุข ด้วยวิธีชุมชน คนชัยภูมิ นางปริยากร ชาลีพรหม หัวหน้าจัดการ สสส.Node จ.ชัยภูมิ นำโครงการสนับสนุนโดย สสส.สู่พื้นที่ จ.ชัยภูมิ ทั้ง 16 อำเภอ กว่า 160 คน ในการที่จะขับเคลื่อนกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดีครบ 4 ด้าน ทั้งกาย จิต ปัญญา และร่วมสร้างประเทศให้น่าอยู่ มีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูวิถีชีวิตชุมชนคนชัยภูมิ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสังคมอย่างมีความสุข เชื่อมพลังเครือข่ายการเมืองภาคพลเมือง 

มีเป้าหมายสำคัญ 6 ด้านคือ การลด ละ เลิก การดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน  การกำจัดขยะ ส่งเสริมการบริโภคผัก ผลไม้ และลดโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียน มีการทำการเกษตรอินทรีย์ ปลูกผักปลอดสารพิษ ใช้สารธรรมชาติกำจัดศัตรูพืช ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก สารชีวภาพ ในการบำรุงดิน ทำให้สุขภาพของเกษตรกรมีสุขภาพดีขึ้น ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันคิด ร่วมกันแลกเปลี่ยนบทเรียนประสบการณ์ ร่วมกันหาทางออก ร่วมกันปฏิบัติ และร่วมกันหาหนทางส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชน และท้องถิ่น นำไปสู่ภาวะชีวิตสาธารณะที่ดี และการจัดการจุดเสี่ยงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในชุมชน ซึ่งก่อนปิดโครงการ ผู้ร่วมโครงการทั้ง 16 อำเภอ 160 คน ได้ร่วมแสดงความสามารถการแสดงออกของผู้นำชุมชน และการแสดงเต้นออกกำลังกายตามจังหวะ ได้ให้ทุกคนได้ทดสอบสมรรถภาพความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยให้เต้นเข้าจังหวะด้วยความสนุกสนาน ต่อด้วยการรำอวยพรของผู้สูงอายุจากอำเภอบ้านแท่น ที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยความอ่อนช้อยและสนุกสนานด้วย

นางปริยากร ชาลีพรหม หัวหน้าจัดการ สสส.Node จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า โครงการคนชัยภูมิ ร่วมสร้างสุข ด้วยวิธีชุมชน คนชัยภูมิ เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปี 2567 ด้วยงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท มีทั้งเรื่องผู้สูงอายุ เรื่องจัดการขยะ การลด ละ เลิก การดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชน เลิกบุหรี่ ส่งเสริมการบริโภคผัก ผลไม้ และลดโภชนาการของนักเรียนในโรงเรียน มีการทำการเกษตรอินทรีย์ ปลูกผักปลอดสารพิษ ใช้สารธรรมชาติกำจัดศัตรูพืช ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก สารชีวภาพ ในการบำรุงดิน ทำให้สุขภาพของเกษตรกรมีสุขภาพดีขึ้น ทำให้คนชัยภูมิจัดการตัวเองได้ ซึ่งจะมีการติดตามผลการดำเนินงานในทุกๆปีต่อไปด้วย รวมถึงปี68 จะได้มีการขยายโครงการต่อไปอีก ชาวบ้านบอกว่าเป็นโครงการที่ดี และชาวบ้านพึ่งตนเองได้.