นาทีหนีตาย!ช้างป่าเขาอ่างฤาไนตกใจเสียงปิงปองไล่ตื๊บจิตรอาสาวิ่งหนีป่าราบ

นาทีหนีตาย!ช้างป่าเขาอ่างฤาไนตกใจเสียงปิงปองไล่ตื๊บจิตรอาสาวิ่งหนีป่าราบ





ad1

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรยงานว่า  ได้รับแจ้งเหตุจากชุดจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่า ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชุดจิตอาสาได้รับแจ้งว่าพบโขลงช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่งฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา  (ป่าลุ่มต่ำผืนสุดท้ายของไทยในเขตป่ารอยต่อ5จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี ,จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี) พากันอพยพย้ายถิ่นหากินข้ามฝั่งจาก จ.ฉะเชิงเทรา ข้ามมาหากินไกลถึง ในฝั่งของพื้นที่ ตำบลวังท่าช้าง ,ตำบลเขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และมีแนวโน้มเป็นสัตว์ประจำถิ่น 

ในขณะนี้ได้ฝั่งเข้ามาหากินในพื้นที่ ม.14 หมู่โนนสมบูรณ์ ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี   จิตอาสาจึงมาตรวจสอบและจุดประทัดไล่ช้างป่าออกจากไร่อ้อย ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีบ้านประชาชนอยู่บริเวณนั้น 2 หลัง หลังจากทราบตำแหน่งว่าช้างอยู่ทิศทางใด จึงใช้โดรนบินดูและแบ่งเป็นสองชุดทั้งสองชุด   ต่างได้จุดประทัดเพื่อผลักดันช้างป่าให้ข้ามทางออกไปยังเขามะก่อง ห่างจากไร่อ้อยที่พบช้างอยู่ 300 เมตร 

ขณะที่จิตอาสาจุดประทัดไร่ช้างให้ออกจากป่าอ้อยมุ่งหน้าไปยังเขามะก่องนั้น โดรนบินพบช้างป่าตัวใหญ่มีงาอยู่ในป่าอ้อยและกำลังวิ่งไปทางทิศใต้ ระหว่างนั้นพบว่ามีรถจักรยานยนต์ของจิตอาสาอยู่บริเวณนั้นทราบชื่อต่มาคือนายธนเกียรติ ไชยราช  จึงวิทยุเรียกบอกไป ช้างป่าวิ่งมาที่ขอบไร่อ้อยซึ่งมีจิตอาสาอยู่ห่างกันแค่ 3เมตร    และ  จุดประทัดขว้างใส่ช้างซึ่งไม่รู้ว่าช้างอยู่ตรงหน้า 

ช้างป่าตกใจหมุนกลับและตกใจเสียงประทัดที่จุดไล่มาทางด้านทิศเหนือ ช้างป่า   จึงวิ่งออกมาตรงจิตอาสาที่อยู่ตรงหน้า ขณะที่จิตอาสาคนหนึ่งที่จุดประทัดไล่อยู่ตรงหน้าไม่รู้ว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับช้างในระยะกระชั้นชิด    ช้างวิ่งออกจากป่าอ้อยโผล่ออกมาตรงที่จิตอาสาอยู่ตรงหน้า วินาทีนั้นจิตอาสาได้วิ่งหนีออกมาทันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น 

และช้างป่าตัวดังกล่าวมุ่งหน้าขึ้นไปทางด้านทิศตะวันออกไปหลบอยู่ในป่ารอยต่อบ้านวังมะกรูด ขณะจุดประทับผลักดันช้างป่าอยู่นั้นได้เปิดไฟไม่ไร่อ้อย เปลวไฟเกิดจากสะเก็ดประทัดปลิวติดใบอ้อยแห้ง จึงนำรถไถออกมาดันเป็นวงกลมเพื่อไม่ให้ไฟไม่ป่าอ้อยเสียหายไปมากกว่านี้

นายธนเกียรติ ไชยราช จิตอาสาที่วิ่งหนีช้างเล่าว่า เมื่อเช้าได้รับแจ้งว่าช้างมาอยู่ในป่าอ้อยของตนเอง จึงแจ้งชุดจิตอาสาและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ใกล้ชิด ให้มาช่วยผลักดันช้างออกจากป่าอ้อย ต่อมาจิตอาสา3นายเดินทางมาถึงจึงแบ่งออกเป็น 2 ชุดจุดประทัดไล่ช้าง ซึ่งพบว่ามีช้างป่าอยู่ 3 ตัว    2 ตัวออกจากป่าอ้อยไปแล้ว    ยังเหลืออีก 1 ตัว   หลบอยู่ในป่าอ้อย จึงช่วยกันจุดประทัดผลักดันช้างออกจากป่าอ้อยให้ไปอยู่ที่เขามะก่อง ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของช้าง 

อย่างไรก็ตามระหว่างนั้นตนเองจะเดินมาเอารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่บนถนน และได้จุดประทัดไปด้วยเพื่อความปลอดภัย ขณะที่จุดประทัดเข้าไปในป่าอ้อยเพื่อผลักดันช้างไม่รู้ว่าช้างอยู่ตรงหน้าในระยะประชิด อึดใจเดียวช้างวิ่งออกมาหาตนในระยะ3เมตร ทั้งคนทั้งช้างต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด ที่ผ่านมาตนเองเคยถูกช้างทำร้ายมาแล้วครั้งหนึ่ง

นายคำภีร์ บุลานลม ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 กล่าวว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังจากได้รับแจ้งจากนายธนเกียรติ จึงเข้ามาช่วยผลักดันช้างป่า ซึ่งตนเองอยู่คนละจุดกับนายธนเกียรติ ระหว่างนั้นรับแจ้งว่าพบเห็นช้างอยู่บริเวณทางด้านทิศใต้อยู่ตรงหน้านายธนเกียรติ จึงวิทยุให้นายธนเกียรติรู้และให้หนีออกมา แต่ระหว่างนั้นคาดว่านายธนเกียรติจุดประทัดไร่ช้างซึ่งกำลังจะเดินไปเอารถจักรยานยนต์ออกมา

 นับว่าโชคดีที่นายธนเกียรติวิ่งหนีช้างป่าออกมาได้โดยไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายใดๆ ขณะนี้ช้างอยู่ห่างจากบริเวณป่าอ้อยนี้ประมาณ 300 เมตร ซึ่งมีแหล่งน้ำและป่าเป็นที่หลบซ่อนตัว ช่วงเย็นของวันนี้จะประสานเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ ทำการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน

โดย... มานิตย์    สนับบุญ -ข่าว /ทองสุข  สิงห์พิมพ์ – ภาพ  /  ปราจีนบุรี