ตำรวจตามจับกุม "แอ๊ด เซนโบลต์" ก่อเหตุตระเวนลักสายไฟทั่วกรุง

ตำรวจตามจับกุม "แอ๊ด เซนโบลต์" ก่อเหตุตระเวนลักสายไฟทั่วกรุง





Image
ad1

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ทำการจับกุมตัว นายวรวุฒิ อายุ 29 ปี ที่อยู่ 89 หมู่ 10 ต.กฤษณา อ.ขุขันธ์ จว.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 3 หมายจับ คือดังนี้

1. หมายจับศาลอาญาที่ 321/2567 ลงวันที่ 23 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและพกพาอาวุธปืน ติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” (สน.บางซื่อ)
2. หมายจับศาลอาญาที่ 4203/2566 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”(สน.พญาไท)
3. หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 28/2567 ลงวันที่ 25 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ฯ,พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ.”

พร้อมตรวจยึดของกลางส่ง สน.ลาดพร้าวดังนี้
1.อาวุธปืนพกสั้น ดัดแปลง สีดำ จำนวน 1 กระบอก
2.ซองบรรจุกระสุนปืนพกสั้น จำนวน 1 ซอง 
3.เครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 ออโต้ จำนวน 4 นัด

โดยพฤติการณ์ในการก่อเหตุ ผู้ต้องหาจะตระเวนลักสายเคเบิลและสายไฟตามจุดที่ไม่ค่อยมีผู้คนอาศัย พื้นที่กรุงเทพ ลักษณะการก่อเหตุจะตัดสายเคเบิลตามระยะที่ต้องการและเมื่อตัดเสร็จแล้วจะนำสายเคเบิลไปผูกกับท้ายรถกระบะ ของตนเองแล้วขับลากไปให้สายเคเบิลนั้นหลุดออกมา สาเหตุที่กระทำแบบนี้เพราะเพื่อนผู้ร่วมกระทำความผิดเมื่อก่อนโดนจับกุมหมดแล้วเหลือแต่เพียงตนที่ยังไม่ถูกจับ จึงต้องใช้รถกระบะของตนเป็นเครื่องทุ่นแรง เมื่อนำสายเคเบิลมาได้แล้วตนจะนำสายเคเบิลไปเผาไฟเพื่อนำเอาทองแดงไปขายแต่เนื่องจากสายเคเบิลที่ตนเองลัก มานั้นมีจำนวนมาก จึงต้องนำสายเคเบิลเหล่านี้ไปเผาบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำในกรุงเทพจำนวนหลายจุดในแต่ละจุดจะไม่ซ้ำกันเมื่อเผาสายเคเบิล ได้แล้วจึงนำทองแดง ไป ทยอยขายให้กับ ซาเล้งรถรับซื้อของเก่า แต่ตนจะไม่นำทองแดงทั้งหมดไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าเพราะว่าจะทำให้ เกิดเป็นที่สงสัย รายได้จากการก่อเหตุละครั้ง ประมาณ 30,000 - 40,000 บาท จำนำไปใช้จ่ายในครอบครัว 
 
ผู้ต้องหาให้การว่า 3 หมายจับที่ตามจับไม่ได้ เพราะว่าเมื่อตอนผู้ต้องหาอยู่ ม.2 เคยเป็นนักกีฬาวิ่ง 4x100 ตัวโรงเรียน เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ต้องหาจะสวมวิญญาณนักวิ่งลมกรด อดีตตัวแทนโรงเรียนหลายสมัย วิ่งหนีการจับกุมตามหมายจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลายครั้ง จึงทำให้รอดพ้นจากการจับกุมมาได้ทุกครั้ง 

จากการตรวจสอบ พบนายวรวุฒิ เคยก่อคดี ดังนี้
1. สภ.รัตนาธิเบศร์ ภ.จว.นนทบุรี ภ.1 ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ
2. สน.สายไหม เล่นการพนันตามบัญชี ข. หมายเลข 5-15(2)
3. สน.สายไหม เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1
4. สน.สายไหม เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1
5. สน.สายไหม ตัวการในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1
6. สน.ดินแดง ร่วมกันในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
7. สน.สายไหม เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1
8. สน.คันนายาว ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1,ผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษฯ
9. สน.ยานนาวา ร่วมกันในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน


10. สน.บางซื่อ ร่วมกันในข้อหาลักทรัพย์โดยมีอาวุธ หรือร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคน,ร่วมกันในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน,ร่วมกันในข้อหามี ซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ,ร่วมกันในข้อหาลักทรัพย์ โดยแต่งเครื่องแบบทหารหรือตำรวจ หรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตำรวจ หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
11. สน.พญาไท ร่วมกันในข้อหาลักทรัพย์โดยมีอาวุธ หรือร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคน จากนั้นได้ตัวส่ง สน.บางซื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป