ทลายพ่อค้าขายซากเสือยึดของกลาง 500 รายการ

ทลายพ่อค้าขายซากเสือยึดของกลาง 500 รายการ





ad1

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม(บก.ปทส.) ได้ร่วมกันจับกุม นายกานต์ฯ อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดแพร่ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ค้าและมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่จับกุม บ้านพักแห่งหนึ่งใน ต.บ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ของกลาง (รวม 500 รายการ) ดังนี้ 1.ซากเสือโคร่งจำนวน 163 รายการ 2.ซากเสือดาว จำนวน 108 รายการ 3.ซากเสือดำ 133 รายการ 4.ซากเสือลายเมฆ 77 รายการ และ
5.ซากเสือไฟ จำนวน 19 รายการ

พฤติการณ์ เมื่อเดือน มกราคม 2566 ชุดสืบสวนของ กก.1 บก.ปทส. จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 รายค้าซากเสือไฟ ขายสายมู พร้อมของกลาง ซากเสือไฟ ได้ที่บ้านพักย่านจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ซึ่งต่อมาได้ขยายผลจากเครือข่ายค้าซากสัตว์ออนไลน์พบว่ามี เฟซบุ๊ก ชื่อ “แมวโพง อีกแล้ว”มีพฤติการณ์ค้าซากหนังเสือโคร่งออนไลน์ จึงทำการสืบสวนและขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายกานต์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 และ กก.2 บก.ปทส. ได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของ นายกานต์ฯ จากการตรวจค้นสามารถจับกุม นายกานต์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ พร้อมด้วย ตรวจยึดของกลางซึ่งเป็นซากเสือโคร่ง, เสือดำ, เสือไฟ, เสือดาว, เสือลายเมฆ ได้จำนวนมาก จากการสอบถามผู้ต้องรับสารภาพว่า เป็นเจ้าของเฟซบุ๊กที่ค้าเสือโคร่ง โดยสั่งซากเสือมาจากเฟซบุ๊ก ไม่ทราบว่าต้นทางมาจากใหน

โดยนายกานต์ฯ ค้าซากเสือ มาประมาณ 2 ปี จะสั่งซื้อซากเสือมาเป็นตัวแล้วตัดแบ่งขาย โดยในการจับกุมครั้งนี้ตรวจยึดซากเสือไฟ,ซากเสือลายเมฆ, ซากเสือดาว, ซากเสือดำ และซากเสือโคร่ง โดยรับซื้อซากเสือโคร่ง 1 ตัวในราคาประมาณ 40,000 – 50,000 บาท ส่วนชิ้นส่วนของเสือโคร่งต่างๆ เช่น หัวโคร่งจะขายราคาหัวละ 10,000 -20,000 บาทลำตัว ขาย 12,000 บาท และส่วนต่างๆ ส่วนกลุ่มลูกค้าจะเป็นนักสะสม หรือ ไว้เป็นเครื่องรางของขลัง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป