จ่อเคาะราคาน้ำตาลหน้าโรงงานขึ้น 2 บาท 10 พ.ย.นี้

จ่อเคาะราคาน้ำตาลหน้าโรงงานขึ้น 2 บาท 10 พ.ย.นี้





ad1

คณะบริการอ้อย-น้ำตาล จ่อเคาะราคาหน้าโรงงานขึ้น 2 บาท 10 พ.ย. นี้ ชาวไร่ลุ้นข่าวดีหลังแบกต้นทุนสูงมานาน ปุ๋ยแพง 44% – น้ำมันพุ่ง 39%

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2566  รายงานข่าวจาก คณะทำงานบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล แจ้งว่า วันที่ 10 พ.ย. นี้ คาดคณะทำงานฯ จะหารือและได้ข้อสรุปเกี่ยวกับข้อเท็จจริงสถานการณ์อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล โดยเฉพาะประเด็นต้นทุนการผลิตอ้อยที่สะท้อนราคาน้ำตาล โดยพบว่าต้นทุนการผลิตอ้อยปีนี้สูงมาก(ฤดูการผลิต 2565/66) เฉลี่ย 12,000-13,000 บาทต่อไร่ด้วยสาเหตุโดยเฉพาะปุ๋ย และราคาน้ำมัน ประกอบกับผลจากราคาน้ำตาลตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นไประดับ 27-28 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ยังจูงใจให้เกิดการส่งออกมากกว่าขายในประเทศ อาจทำให้ตลาดในประเทศตึงตัว
“ด้วยต้นทุนที่ชาวไร่กำลังประสบ ทำให้คณะทำงานฯ ได้รับข้อมูลรอบด้าน เกิดความเข้าใจเบื้องต้นคาดว่าจะอนุมัติให้ราคาน้ำตาลหน้าโรงงานปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 2 บาทต่อกก. เป็นระดับ 21-22 บาทต่อกก. ขณะที่ราคาขายปลีกน่าจะยังควบคุม ส่วนจะอยู่ระดับใด คณะทำงานฯจะพิจารณาราคาที่เหมาะสมอีกครั้ง”รายงานข่าว กล่าว

ด้าน นายนราธิป อนันตสุข ผู้จัดการสำนักงานสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 7 กล่าวว่าคงต้องติดตามผลการประชุมคณะทำงานบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลวันที่ 10 พ.ย.นี้ ที่มีตัวแทนชาวไร่อ้อยร่วมประชุมด้วย 4 คน ว่าจะมีแนวทางการปรับราคาอ้อยหน้าโรงงานขึ้น 2 บาท/กก.อย่างไร โดยที่ยังควบคุมราคาขายปลีกได้อยู่ เพราะโดยกลไกของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลแล้ว หากมีการปรับขึ้นก็คงต้องกันขึ้นทั้งระบบ รวมถึงราคาจำหน่ายที่ออกจากโรงงานสู่ตลาด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนว่าคณะทำงานฯ จะดำเนินการอย่างไร

รายงานข่าวแจ้งว่า จากเดิมมติคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) ให้ปรับราคาขึ้นแบ่งเป็น 2 ส่วนคือสะท้อนไปยังราคาหน้าโรงงานจริงกก.ละ 2 บาท และการเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย กก.ละ 2 บาท เพื่อนำไปจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ปลูกอ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานน้ำตาลตามนโยบายลดฝุ่น PM 2.5