ระทึก!ไฟไหม้ตลาดชายแดนช่องจอมวอด พ่อค้าแม่ค้าขาดทุนยับ

ระทึก!ไฟไหม้ตลาดชายแดนช่องจอมวอด พ่อค้าแม่ค้าขาดทุนยับ





ad1

สุรินทร์-ไฟไหม้ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา ด่านถาวรช่องจอม พ่อค้าแม่ค้าขนของหนีตายอลหม่าน เจ้าหน้าที่เร่งดับเพลิงโกลาหล

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ตลาดช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จึงได้ระดมรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงระดมฉีดป้องกันไฟลุกลาม ขณะนี้ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ เนื่องจากร้านต่างๆเป็นที่นอน ไม้ เฟอนิเจอร์และพลาสติก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ยากต่อการควบคุมเพลิง

ชาวกัมพูชาที่อยู่ในที่เกิดเหตุเผยว่า ขณะนั้นกำลังนั่งเย็บผ้าม่านอยู่ ก่อนเกิดเหตุพบว่าหลอดไฟติดๆ ดับๆ ก่อนจะมีเพลิงไหม้มาจากบริเวณซอย 9 ของตลาด โดยต้นเพลิงอยู่บริเวณซอย 9 ร้านด้านทิศเหนือของตลาด เพลิงเริ่มโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากร้านค้าหลายร้านเป็นเพิงไม้มุงสังกะสี ประกอบกับสินค้าภายในร้านแต่ละร้านมีทั้งเสื้อผ้า ชุดกีฬา กระเป๋า รองเท้า สินค้าทั่วไปและสินค้าจักสาน จึงเป็นเชื้อเพลงอย่างดี รวมทั้งมีลมที่พัดมาเป็นระยะทำให้ไฟลุกลามไปยังที่อื่นอย่างไว ขณะที่ชาวกัมพูชาและชาวไทยต่างพากันขนสินค้าออกจากร้าน บางคนถึงกับยืนร้องไห้ที่ต้องหมดเนื้อประดาตัว

ขณะที่รถดับเพลิงทั้งจาก อบต.ด่าน, เทศบาลกาบเชิง อบต.ตะเคียน และ อบต.ใกล้เคียนต่างเร่งระดมเข้ามาฉีดสกัดเพลิงนับสิบคัน ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถล้อมเพลิงเอาไว้ได้ แต่เพลิงยังคงลุกครุกรุ่นควันขโมงอยู่ ส่วนร้านค้านับร้อยร้านถูกเพลิงไหม้เป็นตอตะโก ท่ามกลางชาวกัมพูชาและชาวไทยที่มาค้าขายมายืนมุงดูจำนวนมาก

ย้อนไปเมื่อปี 2553ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้วอดทั้งตลาดมาแล้วร้านค้าหลายร้อยร้านค้าเสียหายวอดประมาณ 70% ต้นเพลิงเกิดจากถังแก๊สลุกลามภายในร้านดับไม่ทัน และรถดับเพลิงเข้าไปฉีดสกัดในซอยไม่ได้ เนื่องจากมีการต่อหลังคาบังแดดเชื่อมโยงกัน ทำให้พื้นที่แคบ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้

ล่าสุดตลาดชายแดนช่องจอมเพิ่งมีการปรับปรุงใหม่ โดยการสร้างอาคารถาวรมั่นคงปลอดภัย อยู่ระหว่างกำลังก่อสร้าง แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้ให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าขยับย้ายร้านไปด้านหลังทางทิศเหนือของตลาดเป็นการชั่วคราว โดยต่อเติมเป็นเพิงไม้สังกะสีเช่นเดิม แต่ก็มาโดนเพลิงไหม้ก่อนความเสียหายของจำนวนร้านที่ถูกเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ยังถือว่าน้อยกว่าปี 53 มาก เนื่องจากมีการขยายพื้นที่ก่อสร้าง จำนวนร้านจึงน้อยลง และอยู่เป็นโซนๆ

ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหรือไม่ จนกว่าสถานการณ์เพลิงจะสงบลงถึงจะเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุหาสาเหตุเพลิงไหม้อย่างละเอียดได้

ขอบคุณภาพจาก ภูสิงห์บ้านเฮา