เอ็นจีโอยกเคสรถชนช้างป่าเขาอ่างฤาไนตัวสุดท้าย จี้รัฐบาลแก้ปัญหาช้างกับคนจริงจัง

เอ็นจีโอยกเคสรถชนช้างป่าเขาอ่างฤาไนตัวสุดท้าย จี้รัฐบาลแก้ปัญหาช้างกับคนจริงจัง





ad1

ปราจีนบุรี–เจ้าหน้าที่ค้นหาช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนแปดริ้วบุกมาหากินปราจีนฯถูกรถชนเจ็บหนีเตลิดเข้าป่าไร้ร่องรอย   ด้านNGO. อยากให้กรณีรถชนช้างป่า    ช้างป่าถูกรถชนครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย    ขอให้เอาจริงเอาจังป้องกันดูแลซ่อมแซมรั้วหรือกันช้างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนแปดริ้ว  เพิ่มประสิทธิภาพในการผลักดันช้าง รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือ ขอให้จัดหาให้ครบ เพื่อลดความสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน   รวมถึง ให้รัฐบาล  พิจารณาจัดตั้ง  คณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาช้างป่าทั่วประเทศด้วย  

เมื่อเวลา 14.10 น.วันนี้  7 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้า  กรณีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน  ในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยในป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา ,จ.สระแก้ว ,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี)ที่ข้ามฝั่งจาก อ.สนามชัยเขตเข้ามาหากินในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ขณะนำโขลงช้างรวม4 -5 ตัว ข้ามถนนสายสระแก้วตัดใหม่ พนมสารคาม – สระแก้ว ) หรือ สาย 359 ก่อนถึงสี่แยกเพ็ชรกระจ่าง  ก.ม.46 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพื่อกลับคืนพื้นที่อยู่หลังหากินเสร็จ

ถูกรถกระบะโตโยต้า สีขาว ขนปลานิลสด จาก อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี มาเต็มคัน  เพื่อนำไปขายที่ จ.จันทบุรี สภาพรถด้านฝากระโปรงหน้า – หลังคาพังยับเยิน   พบผู้บาดเจ็บเป็น 3 ราย เป็นชาย 2 หญิง 1 หน่วยกู้ภัยรีบช่วยเหลือนำตัวส่งรพ.กบินทร์บุรี  ส่วนช้างถูกรถชนได้รับบาดเจ็บเตลิดหนีไปในราวป่าข้างทาง    ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วก่อนหน้าโดยละเอียด  แล้ว นั้น

 ความคืบหน้าล่าสุด   ได้มีการจัดชุดติดตามช้างป่าที่ถูกรถชนกลางดึก  แต่ ยังไม่พบช้างป่าถูกรถชนโดยมีเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว (อบต.)  และ   ทีมจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่า ต.เขาไม้แก้ว   ลงตรวจสอบพื้นที่ติดตามร่วมกัน  พร้อมใช้โดรนบินสำรวจ ตามไร่อ้อย 2 ฟากถนน   ที่มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 10,000 ไร่เศษ  

พบว่าในที่เกิดเหตุใกล้จุดทางช้างข้าม  หรือชาวบ้านเรียก “บ้านทนาย”  เนื่องจากฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักทนายความ  พบปลานิลตัวใหญ่ที่กระเด็นจากถังใส่ปลาบนหลังรถกระบะขน  มีปลาตายอยู่ในพงหญ้า4 ตัว   และได้บิโดรนสำรวจร่องรอยช้างแต่ไม่พบตัวช้าง   ที่ถูกรถชนเมื่อคืนกลางดึกที่ผ่านมา   

 คาดว่าขณะเกิดเหตุช้างกำลังจะเดินข้ามถนนกลับถิ่นเดิม    ขณะนั้นรถกระบะคันดังกล่าววิ่งมาบนถนนในระยะกระชั้นชิด เป็นเหตุให้ชนช้างเสียหลักตกลงไปอยู่กลางท้องร่อง   คนขับรถกระบะและผู้โดยสารที่นั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บ 3 รายดังกล่าว

นายสุนทร คมคาย ชุดจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่า ต.เขาไม้แก้ว อดีตผู้สมัคร สส.ปราจีนบุรี และNGO. ปราจีนบุรี   กล่าวว่า อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมอุทยานฯ ปภ.หรือหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง    ขอฝากให้เอาจริงเอาจังในการป้องกันไม่ให้ช้างออกจากป่า   

 รวมถึงเพิ่มศักยภาพทีมผลักดันช้างให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้    เพราะว่าบริเวณนี้ห่างจากป่า30-40 กม.บริเวณที่เกิดเหตุรถชนช้างอยู่บ่อยครั้ง     ถนนสาย 359 หรือสายสระแก้วตัดใหม่ (พนมสารคาม – สระแก้ว)    เส้นนี้เป็นถนนสายซุปเปอร์ไฮเวย์   เชื่อมระหว่างภาคตะวันออกสู่ อิสานตอนล่าง และ ประเทศเพื่อนบ้าน(กัมพูชา)  และ สู่ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง   ไม่น่าจะมีช้างป่ามาเดินบนถนน

ขณะNGO. อยากให้กรณีรถชนช้างป่า    ช้างป่าถูกรถชนครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย    ขอให้เอาจริงเอาจังป้องกันดูแลซ่อมแซมรั้วหรือกันช้างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนแปดริ้ว   เพิ่มประสิทธิภาพในการผลักดันช้าง รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือ ขอให้จัดหาให้ครบ เพื่อลดความสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน   รวมถึง ให้รัฐบาล  พิจารณาจัดตั้ง  คณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาช้างป่าทั่วประเทศด้วย  

โดย...มานิตย์  สนับบุญ / ปราจีนบุรี