“ภูมิธรรม”ลุยลดราคาสินค้าทั้งประเทศ สั่งเตรียมร้านค้ารองรับใช้เงินดิจิทัล

“ภูมิธรรม”ลุยลดราคาสินค้าทั้งประเทศ สั่งเตรียมร้านค้ารองรับใช้เงินดิจิทัล





Image
ad1

“ภูมิธรรม”มอบนโยบายเร่งด่วน ประกาศลดราคาสินค้าพร้อมกันทั้งประเทศ ภายใน 15 วัน พร้อมเดินหน้าดูแลต้นทุน เพิ่มช่องทางตลาดให้เกษตรกร เตรียมเพิ่มช่องทางซื้อขายสินค้าให้ประชาชนที่จะได้รับเงินดิจิทัล วอลเล็ต สั่งปั๊มส่งออกและลุย Soft Power มอบพาณิชย์จังหวัด-ทูตพาณิชย์ หาตลาด ช่วย SMEs ลุยเจรจา FTA และเตรียมตัวรับกฎ กติกาการค้าใหม่ พร้อมแก้ไขกฎ ระเบียบ ที่ล้าสมัย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงนโยบายและทิศทางการทำงานสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ภายหลังร่วมประชุมหารือกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ทั่วโลก ว่า ได้มอบนโยบายเร่งด่วนให้ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ไปดำเนินการ โดยเรื่องที่สำคัญเรื่องแรกที่จะต้องทำทันทีตามนโยบายรัฐบาล คือ การดูแลและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการลดภาระต้นทุน ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ลงมาแล้ว มีผลให้ต้นทุนสินค้าลดลง ถือเป็นต้นทางนำไปสู่การพูดคุยกับผู้ประกอบการ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปหารือ และทำความเข้าใจในสิ่งที่ประชาชนต้องการ มีระยะเวลา 15 วัน ที่จะมาแจ้งว่าอะไรได้ อะไรไม่ได้ มีสินค้าอะไรบ้าง โดยตั้งเป้าต้องทำให้ได้

ส่วนการดูแลเกษตรกร จะบริหารจัดการสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยสร้างหลักประกันว่าผลผลิตจะต้องขายได้ในราคาที่เหมาะสม มีการจัดช่องทางการจำหน่ายและกระจายผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการลดต้นทุน เช่น ปุ๋ยเคมี ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าเครื่องจักร และผลักดันให้มีการแปรรูป ใช้นวัตกรรม และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต

ทั้งนี้ ในเรื่องเงินดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลมีเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ได้มอบหมายให้หน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์นำไปคิดว่าจะเชื่อมโยงกับนโยบายได้อย่างไร เพราะมีข้อท้วงติงจากประชาชนว่ารัศมี 4 กิโลเมตร อาจจะไม่เข้าถึงในบางพื้นที่ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สามารถเข้าไปช่วยได้ เช่น เชื่อมโยงฐานข้อมูลช่องทางการตลาดที่กระทรวงพาณิชย์ส่งเสริม เช่น ร้านค้าธงฟ้า ร้านอาหารธงฟ้า ตลาดต้องชม Farm Outlet หมู่บ้านทำมาค้าขาย เพื่อให้การใช้งานของประชาชนสะดวกมากยิ่งขึ้น และให้เตรียมอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสินค้าของประชาชนซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่มีเงื่อนไขข้อจำกัดในการใช้งาน เช่น จัดรถพุ่มพวงเข้าไปจำหน่ายสินค้า เป็นต้น

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องการส่งออก ขอให้เร่งขยายและผลักดันการส่งออกให้เปลี่ยนจากตัวเลขติดลบเป็นบวก โดยมีนโยบายอย่างน้อยที่สุดให้รักษาเป้าการส่งออกที่ตั้งไว้ 1-2% ให้ได้ และมีนโยบายให้สร้างกระแส โดยใช้ประโยชน์จาก Soft Power ของไทย และสร้างเรื่องราวให้กับสินค้าและบริการไทยเชื่อมโยงกับภาคบริการ เช่น ร้านอาหาร วัฒนธรรม ภาพยนตร์ แอนิเมชั่น และการท่องเที่ยว ต้องวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดทั่วโลก แก้ปัญหาอุปสรรคการค้าชายแดน และยกระดับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ของไทย

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ วางแผนยุทธศาสตร์หรือแผนบริหารจัดการสินค้าอย่างครบวงจรร่วมกัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อ “รักษาตลาดเดิม เสริมตลาดใหม่” และเพิ่มบทบาท “พาณิชย์คู่คิด SME” ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กให้สามารถส่งออกได้ และพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีข้อมูลทั้งในด้านสินค้าศักยภาพของไทยและความต้องการสินค้าจากต่างประเทศที่ครบวงจรและเป็นปัจจุบัน

ส่วนการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ผลักดันให้มีการเจรจา FTA ที่อยู่ระหว่างการเจรจาให้สำเร็จโดยเร็ว และเริ่มเจรจา FTA ฉบับใหม่ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้กับไทย และผลักดันการใช้ประโยชน์จาก FTA และช่วยในการปรับตัว โดยสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายเล็ก และเตรียมความพร้อมให้ดำเนินธุรกิจสอดรับกับกฎกติกาใหม่ ๆ ของโลก เช่น Carbon Credit / BCG / SDGs

ขณะเดียวกัน ให้หน่วยงานต่าง ๆ พิจารณาแก้ไข ปรับปรุงกฎหมายเก่าที่ล้าสมัย เป็นอุปสรรคทางการค้า เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ โดยสร้าง และบัญญัติกฎหมายใหม่ ๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก เช่น ด้านการผลิตการค้าในรูปแบบใหม่ ๆ โดยเฉพาะกฎหมายเพื่อให้เท่าทันกับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งการพัฒนาของเทคโนโลยี AI