คนสงขลาเชื่อ"เพื่อไทย"ตกอยู่ภาวะ"ผู้ยอมจำนน"เพราะต้องผ่าทางตันการเมือง

คนสงขลาเชื่อ"เพื่อไทย"ตกอยู่ภาวะ"ผู้ยอมจำนน"เพราะต้องผ่าทางตันการเมือง





ad1

สงขลา-ชาวบ้านเมืองสงขลาเชื่อ “พรรคเพื่อไทย” ต้องตกอยู่ในภาวะ “ผู้ยอมจำนน” เพราะต้องผ่าทางตัน เชื่อพรรคก้าวไกลเข้าใจ แต่แฟนคลับยังไม่เข้าใจ   แฟนคลับการเมือง ผวา จะวนเวียนเข้าสู่การเมืองเก่าที่ถึงจุดอิ่มตัว

ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่สงขลา เปิดเผยว่า การจัดตั้งรัฐบาลที่ยืดเยื้อมาร่วม 3 เดือนเศษ ๆ สำหรับธุรกิจการค้า การท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด เพราะนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ไม่ได้มองเรื่องอุปสรรคทางการเมืองภายในประเทศไทยยังเดินทางท่องเที่ยวตามปกติ กิน เที่ยว ช๊อป

“ส่วนจะจัดตั้งรัฐบาลจะช้าหรือเร็วตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ แต่ว่าหากยืดเยื้อออกอีกยาว ๆ ก็จะส่งผลกระทบเรื่องการสนับสนุนกิจกรรมใหม่ ๆ นโยบายใหม่ ๆ ที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจภายใน”

ทางด้าน ข้าราชการบำนาญทางด้านการข่าวความมั่นคง จ.สงขลา ให้ความเห็นว่าจากการพูดคุยกับแฟนคลับการเมืองต่างมีความเข้าใจพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลร่วม 8 พรรคเอ็มโอยูที่ต่อจากพรรคก้าวไกลจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่หนักกว่าพรรคก้าวไกลหนแรกที่เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล เพราะถึงทางตันและไม่มีทางออกเช่นกันหากไม่ดำเนินกลยุทธใดกลยุทธใด ๆ  ดังนั้นมีทางออกคือจึงจะต้องจำยอมที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองหลายฝ่ายที่เคยอยู่กันคนละฝั่ง

“ไม่มีทางอออกจริง ๆ หรือจะรอยาวนานตามที่พูด ๆ กันก็เกิดความเสียหายต่อภาพรวมของประเทศหลายด้าน ฯลฯ เมื่อพิจารณาอย่างรอบด้านแล้วก็น่าเห็นใจพรรคเพื่อไทยเวลานี้” เขา กล่าว

ข้าราชการคนดังกล่าว ยังระบุต่อว่า  เชื่อว่า 8 พรรคเอ็มโอยู ได้ทำการหารือในรายละเอียดกันแล้ว โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลน่ามีความเข้าใจสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ที่ไม่ได้ต่างกับพรรคก้าวไกลที่เผชิญเหตุมาก่อน แต่มีประเด็นสำคัญคือแฟนคลับทั้งพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย จะมีความเข้าใจในรายละเอียดหรือไม่ แต่มั่นใจว่าต้องใช้ระยะเวลาแล้วจะมีความเข้าใจ

“มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะเดินไปได้ โดยเชื่อว่าจะบริหารจัดการเศรษฐกิจเรื่องปากท้องเป็นประสำคัญอันดับแรก และอนาคตเชื่อว่าจะทำให้แฟนคลับเข้าใจได้กันทุก ๆ ฝ่าย”

นอกจากนี้ยังระบุต่อว่า สถานการณ์การเมืองจากการพูดคุยกันต่างมีความเห็นไปทิศทางว่า  สำหรับการเมืองใหม่คนรุ่นใหม่ปัจจุบันและอนาคตได้มีการตื่นตัวที่สูงมาก และจะส่งผลอนาคตการเมืองต่อไปอย่างขนานใหญ่

ส่วนบางพรรคกรณีที่จะโดนยุบหรือไม่ เชื่อว่าต้องมีพรรคและบุคลากรสำรองพร้อม และจะเห็นว่าที่ผ่านมาพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบอยู่ที่คะแนนกว่า 6 ล้าน เมื่อมาเป็นพรรคก้าวไกล ก็ปรับตัวขึ้น 14 ล้านกว่าเสียง และหากเมื่อเป็นพรรคที่ 3 ก็จะเพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะอนาคตคนรุ่นใหม่ยุวชน เยาวชน ที่กำลังเติบโตอยู่จำนวนหลายล้านคน

ข้าราชการบำนาญทางด้านการข่าว ยังกล่าวต่ออีกว่า กรณีที่พรรคก้าวไกล จะมาเป็นฝ่ายค้านตามที่กระแสออกมาเป็นระยะ ๆ มีความเชื่อมั่นหากจะเป็นพรรคฝ่ายค้านที ก็มีศักยภาพสูงมาก ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล และสามารถทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติได้ดีด้วยและอีกประการสำคัญในฐานะที่มีเสียงข้างมากเป็นอันดับ 1 ของสภา ก็จะได้ตำแหน่งสำคัญ คือคณะกรรมธิการ (กมธ.) สัดส่วนที่มากเช่นกัน 

“กรรมาธิการเป็นบุคคลที่สภาแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อกระทำกิจการ พิจารณาสอบสวนศึกษาเรื่องใด และสามารถติดตามผลการบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหาร  กรรมาธิการจึงเป็นกลไกสำคัญ และเป็นโอกาส แสดงผลงาน”
ส่วนทางด้านแฟนคลับพรรคการเมืองเก่าจำนวนหลายราย ต่างมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกัน  โดยระบุว่า พรรคก้าวไกล มีบางนโยบายที่แรงมากและเชื่อมั่นว่าจะทำไม่ได้  ไม่สามารถปฏิบัติและดำเนินการได้ จึงได้รับการต่อต้านไม่ได้รับแรงสนับสนุนให้เป็นรัฐบาลได้ ดังนั้นจะต้องค่อยเป็นค่อยไป

ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ได้ให้ความเห็นว่า จากการหารือร่วมหลายคนต่างระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า จากการได้สัมผัสการเมืองเก่ามาระยะ 8-9 ปี ได้ถึงจุดอิ่มตัว  ต่างต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง โดยที่ต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างแรกคือเรื่องยาเสพติด จากที่ผ่านมามีภาพชัดที่เป็นภัยร้ายแรงต่อครอบครัวแวดล้อมชุมชนสังคมพบกับความเสียหายมากจะส่งผลถึงประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในหลายพื้นที่

ผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาดังล่าว ยังกล่าวอีกว่า แฟนคลับการเมืองเก่าจำนวนไม่น้อย จึงต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อยากให้วนเวียนกลับเข้ารอยเดิม และตอนนี้กลับกังวลว่าการเมืองเก่าจะกลับเข้าวนเวียนเก่าและอาจจะหนักกว่าเดิม

“สำหรับตัวผมเองเป็นข้าราชการ จึงน่าจะยินดีกับการเมืองเก่าเพราะอยู่ดีมีอนาคต แต่กลับกังวลเพราะภาวะแวดล้อมต่างมีผลกระทบกับปัญหาความเดือดร้อนกันมากหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปากท้อง ก็สำคัญยิ่งกว่า”.

โดย...อัสวิน ภักฆวรรณ