คณะทูตชาติมุสลิม 10 ประเทศเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน

คณะทูตชาติมุสลิม 10 ประเทศเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน





ad1

นราธิวาส-เลขาฯ ศอ.บต. นำคณะทูตกลุ่มประเทศมุสลิม 10 ประเทศเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน สร้างความเข้าใจด้านการสนับสนุนของรัฐบาลต่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ที่ พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัล-กุรอาน  ม.6 ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำคณะเอกอัครราชทูต และอุปทูต 10 ประเทศ  ซึ่งเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อร่วมกิจกรรมการทูตเชิงรุก และสร้างความเข้าใจ การรับรู้อันดีเกี่ยวกับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แก่นานาชาติ โดยมีเอกอัครราชทูตจากประเทศมาเลเซีย คูเวต โอมาน อียิปต์ อินโดนีเซีย ตุรกี โมร็อกโก ซาอุดีอาระเบีย อุปทูตจากสถานเอกอัครราชทูตกาตาร์ และปากีสถาน  เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน เพื่อให้คณะทูตได้รับทราบถึงความเข้มแข็งของชุมชนและการสนับสนุนของรัฐบาลต่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวัฒนธรรมต่อเยาวชนรุ่นใหม่และการพัฒนาไปสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ เยาวชนนักเรียนและประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ

ในการนี้ คณะทูตได้รับฟังบรรยายถึงการขับเคลื่อนพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัล-กุรอาน พร้อมเยี่ยมชมห้องพิพิธภัณฑ์อาคารใหม่ และชมคัมภีร์อัล-กุรอานโบราณ สำหรับพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัล-กุรอาน ตั้งอยู่ที่โรงเรียนสมานมิตรวิทยา ชุมชนบ้านศาลาลูกไก่ ม.6 ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 โดยมีการรวบรวมประเภทคัมภีร์อัล-กุรอานโบราณที่คัดด้วยลายมือที่เป็นมรดกทางศิลปะวัฒนธรรมอิสลามที่ตกทอดมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยพิพิธภัณฑ์ได้รวบรวมคัมภีร์อัล-กุรอาน จำนวน 79 เล่ม คัมภีร์ดังกล่าวส่วนมากได้มาจากคาบสมุทร แหลมมลายูนูซันตาราและบางประเทศในโลกมุสลิมที่เคยมาติดต่อกับประเทศไทยในอดีต ซึ่งเริ่มชำรุดจากสภาพอากาศที่มีความชื้นและไม่ได้ดูแลอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงจำเป็นที่จะต้องส่งไปดำเนินการซ่อมแซมที่หอสมุด สุไลมานียะห์ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี

 โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ของประเทศไทยในการช่วยดำเนินการซ่อมแซมโดยใช้กระบวนการวิทยาศาสตร์เชิงอนุรักษ์ นอกจากประเภทคัมภีร์อัล-กุรอานแล้ว ทางพิพิธภัณฑ์ได้รวบรวมประเภทเอกสารและอุปกรณ์โบราณ ภาพเขียนโบราณ เรือกอและจำลอง และภาพการแสดงการทำเรือกอและ ภาพบุคคลสำคัญในศาสนาอิสลาม รวมถึงหุ่นจำลองของมัสยิด 300 ปี อย่างไรก็ตามทางกรมศิลปากรได้ทำการต่อยอด เข้ามาขึ้นทะเบียนคัมภีร์และเอกสารโบราณเหล่านี้ พร้อมๆกับเข้ามาช่วยทางโรงเรียนในการเก็บรักษา บูรณะ ซ่อมแซม ตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง นอกจากนี้ทางภาครัฐยังอนุมัติงบประมาณให้กรมศิลป์ ดำเนินการจัดสร้าง "พิพิธภัณฑ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมและศูนย์การเรียนรู้อัล-กุรอาน" ขึ้นใหม่ ณ บริเวณด้านหน้าโรงเรียนสมานมิตรวิทยา งบประมาณทั้งสิ้น 220 ล้านบาท ปัจจุบันตัวอาคารสร้างเสร็จแล้ว เหลือแค่การปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยกำหนดเปิดต้นปี 2567

อย่างไรก็ตาม "พิพิธภัณฑ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมและศูนย์การเรียนรู้อัล-กุรอาน" แห่งนี้จะเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ ในการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคัมภีร์อัล-กุรอาน และมรดกวัฒนธรรมอิสลาม และเสริมสร้างจิตสำนึกให้คนท้องถิ่นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นคุณค่าความสำคัญ เกิดความรู้สึกหวงแหน ภาคภูมิใจในมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอิสลามที่มีอยู่ในท้องถิ่นของตน รวมทั้งทำให้เกิดผลดีทางด้านเศรษฐกิจและสังคม จากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยนักท่องเที่ยวจากทั้งในและทั่วโลก สอดคล้องกับนโยบายชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ สร้างเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็งได้อย่างยั่งยืนต่อไป

โดย...แวดาโอ๊ะ หะไร  จ.นราธิวาส