ผู้ว่าฯพัทลุงสั่งคุมเข้มหลอกขายทุเรียนอ่อน มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับเงิน 6 หมื่นบาท

ผู้ว่าฯพัทลุงสั่งคุมเข้มหลอกขายทุเรียนอ่อน มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับเงิน 6 หมื่นบาท





ad1

พัทลุงเข้ม “ทุเรียน” ทั้งเกษตร คนกลางคนซื้อ คนตัดทุเรียน เด็ดขาดถึงคุก ป้องกันซื้อขายทุเรียนด้อยคุณภาพ หรือทุเรียนอ่อน หวั่นเสียชื่อเสียง “ทุเรียนไทย” ส่งผลต่อเกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศ 

รายงานข่าวจากจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า นางนิศากร วิศิษฎ์สรอรรถ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้ลงนามออกประกาศมาตรการเรื่องทุเรียนลงวันที่ 23 มิถุนายน 2566 เรื่องมาตรการในการควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนอ่อน ที่จะออกสู่ตลาด จ.พัทลุง ปี 2566 โดยมีการกำหนดวันเก็บเกี่ยวทุเรียน

ทั้งนี้  ด้วยว่าจะมีปัญหาในการเก็บเกี่ยวทุเรียนที่ด้อยคุณภาพ หรือทุเรียนอ่อน  ที่ว่าจะมีแนวโน้มเกิดขึ้นมากขึ้นทุกปี  จะส่งผลให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ผู้ผู้รับซื้อ เกษตรกร และผู้มีอาชีพตัดเก็บเกี่ยวทุเรียน ก่อนถึงระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยวตัดทุเรียน และจะทำให้ทุเรียนไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะมีผลต่อการสุกและคุณภาพเนื้อทุเรียน ที่ผู้บริโภคจะได้รับและจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งส่งออกต่างประเทศและภายในประเทศในที่สุด โดยเฉพาะเกี่ยวกับความเป็นหนึ่งทุเรียนไทย ในอนาคตด้วยและรวมถึงผลเสียทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่จะเกิดขึ้น และความเป็นอยู่ของเกษตรกร

ทั้งนี้เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนอ่อนที่ออกสู่ตลาดในปี  2566  ทาง จ.พัทลุง จึงได้ออกประกาศในการเก็บเกี่ยวทุเรียน ปี 2566  เป็นวันที่ 25 มิถุนายน 2566 โดยหากมีการตรวจพบในการเก็บเกี่ยวทุเรียนอ่อนก่อนวันประกาศ ก็จะมีการพิจารณาพักใบรับรอง GAP  กับเกษตรกรและจะพัก GMP สำหรับสถานประกอบการหรือล้งและประกาศ จ.พัทลุง ได้ขอความร่วมมือกับเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้จำหน่าย ไม่ซื้อและจำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพ

สำหรับทุเรียน จ.พัทลุง ในปี 2566 มีปริมาณจะออกสู่ตลาดประมาณ 3,627 ตัน โดยผลผลิตจะออกมามากในเดือนสิงหาคม จนถึงต้นกลางเดือนตุลาคม 2566 สู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศและจากทุเรียนที่มีราคาสูง จึงเป็นเหตุเกิดแรงจูงใจให้มีการเก็บเกี่ยวทุเรียนในระยะที่ไม่เหมาะสมออกมาจำหน่าย ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภค และเกษตรกรเอง

ทาง จ.พัทลุง จึงเห็นว่า เพื่อเป็นการป้องกันทุเรียนด้อยคุณภาพทุเรียนอ่อนที่จะออกสู่ตลาด อีกทั้งจะเป็นการรักษาชื่อเสียงทุเรียนของ จ.พัทลุงด้วย จึงได้ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้ผลิตทุเรียน เก็บเกี่ยวทุเรียนที่สุกแก่ที่ได้ระยะเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าทุเรียนไม่ให้มีการซื้อขายทุเรียนอ่อน และทั้งผู้บริโภคเองก็ควรระมัดระวังในการเลือกซื้อด้วย

ทั้งนี้หากว่ามีผู้ฝ่าฝืน และจำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพทุเรียนอ่อน ก็จะเข้าข่ายความผิดตามพรบคุ้มครองผู้บริโภค พศ. 2522  มาตรา 47  ซึ่งจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตามประมวลกฎหมายมอาญา  มาตรา 271  ผู้ใดขายโดยหลอกลวง ฯ  ผู้กระทำผิดจะต้องถูกจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ  และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341  ผู้ใดโดยทุจริหลอกลวงผู้อื่น ฯลฯ  ก็จะถูกจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343  ถ้าทำความผิด ตามมาตรา 341 จะถูกจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและตาม พรบ. กำหนดระดับทุเรียนสุกตามมาตรฐาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาตรฐานสินค้าเกษตร พศ.2551 มาตรฐานเลขที่ มกษ 3-2556  ซึ่งมีเกณฑ์น้ำหนักเนื้อแห้งของผลทุเรียนของแต่ละพันธุ์ 1.พันธ์กระดุมทองเนื้อแห้งขั้นต่ำ 22  %  พันธุ์ชะนี 30 %  พันธุ์หมอนทอง 32 % และ 4 พันธุ์พวงมณี 30 %

ดังนั้นเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน พ่อค้าคนกลาง หรือผู้มีอาชีพตัดทุเรียน ผู้ใดจำหน่ายทุเรียนด้อยคุณภาพจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา  271  ผู้ใดขายของหลอกลวงด้วยกระการใด ฯลฯ  จะถูกจำคุกไม่เกิน 3 ปี  หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พศ. 2522 มาตรา  47  ผู้ใดโดยเจตนาก่อนให้เกิดความเข้าใจผิด ในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ฯลฯ  จะถูกจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำปรับ

แหล่งข่าวจากงวงการค้าทุเรียน เปิดเผยว่า ทุเรียน จ.พัทลุงมีผลผลิตมาสู่ตลาดประมาณ  3 รุ่นแรกได้ตัดออกสู่ตลาดแล้วเมือประมาณค้นเดือนมิถุนายน 2566  ที่ผ่านมา จากผลผลิตที่ออกมาถึง 3 รุ่น ภายในต้นเดียวย่อมมีผลผลิตปะปนกันและเกิดการตัดเก็บเกี่ยวทุเรียนที่ไม่ได้ผลที่เหมาะสมเข้าไปปะปนกับทุเรียนได้ที่คุณภาพตามกำหนด ดังนั้นจึงเกิดผลเสียต่อภาพพจน์ทุเรียน จ.พัทลุงแต่การตัดทุเรียนนั้นโดยทุเรียนที่ไม่ได้คุณภาพจะมีอยู่จริงแต่จะเกิดขึ้นเป็นส่วนน้อย  ดังนั้นจะต้องตรวจสอบอย่างรอบในการตัดทุเรียนที่ให้ได้ตามคุณภาพ อย่าตัดทุเรียนที่ไม่ได้ตามคุณภาพปะปนเข้าไปบรรจุในตู้เดียวกัน แม้ว่าจะเป็นส่วนน้อยก็ตาม เพราะจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในภาพพจน์

“ที่ผ่านมีอยู่จริงที่ตัดทุเรียนไม่ได้คุณภาพเข้าไปปะปนกับทุเรียนที่ได้คุณภาพตามกำหนด แต่เกิดขึ้นเป็นส่วนน้อยมาก” แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ขณะนี้ จ.พัทลุง อยู่ระหว่างกำลังตัดทุเรียนรุ่นที่ 2 ซึ่งขณะนี้ล้งที่ไปรับซื้อทุเรียนและบริหารจัดการด้วยตนเองจะรับซื้อที่หน้าสวนราคาประมาณ 120 บาท / กก.

โดย...อัสวิน ภักฆวรรณ