ปิดล้อมระทึก!มือปืนคลั่งกระหน่ำยิงบัสโดยสารภูเก็ต-พัทลุง เจ็บ2 คนร้ายยังซ่อนตัวเงียบบนรถ

ปิดล้อมระทึก!มือปืนคลั่งกระหน่ำยิงบัสโดยสารภูเก็ต-พัทลุง เจ็บ2 คนร้ายยังซ่อนตัวเงียบบนรถ





ad1

ภูเก็ต-คนร้ายคลั่งยิงผู้โดยสารภายในรถบัส สายภูเก็ต-พัทลุง เจ็บ 2 ด้านผู้การภูเก็ต ต้องนำกำลังตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ เข้าทำการปิดถนน ก่อนเร่งเจรจาคนร้าย

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 ก.พ. 66 พ.ต.ท.สุชาติ หมีลำพอง สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุคนร้ายยิงผู้โดยสารที่นั่งอยู่ภายในรถบัสสายภูเก็ต-พัทลุง ขณะรถกำลังแล่นผ่านบริเวณโค้งควนดินแดง ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง มีผู้บาดเจ็บจำนวน 2 รายและคนร้ายยังซ่อนตัวอยู่ภายในรถ ขอรถพยาบาลรับคนเจ็บและขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเจรจาและจับกุมคนร้าย จากนั้น พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต นำกำลังสายตรวจ-นปพ.ภ.จว.ภูเก็ต กว่า 30 นายอาวุธครบมือรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนนสายหลักเข้าออกตัวเมืองภูเก็ต บริเวณทางโค้งหักศอก ซึ่งเป็นถนนขาออกนอกเมือง พบรถบัสสีชมพู-ขาว รถโดยสารประจำทางสายภูเก็ต-พัทลุง ทะเบียนป้ายเหลือง 10-2160 ภูเก็ตจอดสตาร์ตเครื่องอยู่ริมถนน ภายในรถไม่พบผู้โดยสาร มีเพียงชายต้องสงสัยจำนวน 1 คนอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องปิดถนนขาออกตั้งแต่สามแยกไฟแดงควนดินแดง-บ้านสะปำ ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนพร้อมกับให้ทีมเจรจาเข้าพูดคุยกับชายดังกล่าวที่อยู่ภายในรถ เบื้องต้นได้รับแจ้งจากนายสมยศ บัวแก้ว อายุ 42 ปี คนขับรถโดยสารคันดังกล่าวว่า มีผู้โดยสารจำนวน 2 คน ชาย 1 หญิง 1 คนถูกชายดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.มิชชั่นภูเก็ตแล้ว

นายสมยศ เล่าเหตุการณ์ว่า ได้ขับรถออกจาก บขส.2 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง ตามปกติเพื่อจะมุ่งหน้าไปยัง จ.พัทลุง และเมื่อขับรถใกล้จะถึงสามแยกไฟแดงควนดินแดง ถ.เทพกระษัตรี ซึ่งห่างจาก บขส. ไม่ถึง 1 กม. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากนั้นมีน้องผู้หญิงที่นั่งมาในรถวิ่งมาบอกตนเอง "ช่วยด้วยๆ ถูกยิง" ตนจึงขับรถแอบข้างถนน ทันใดนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด ถูกผู้โดยสารเป็นชายอีก 1 คนได้รับบาดเจ็บ โดยขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารเพียง 9 คน จากนั้นได้จอดรถแล้วเปิดประตูออกมา ขณะเดียวกันผู้โดยสารต่างหนีตายออกจากรถกันได้ทั้งหมด โดยคนร้ายยังอยู่ภายในรถเพียงลำพัง ซึ่งไม่ทราบสาเหตุที่คนร้ายก่อเหตุดังกล่าว