"พล.อ.ประวิตร"ยืนยัน รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินต่อเนื่องครอบคลุมทั่วไทย

"พล.อ.ประวิตร"รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลและสคทช. เดินหน้าแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ชูผลงานทำให้ประชาชนมีที่ดินทำกินเลี้ยงชีพได้แล้ว 78,109 ราย ครอบคลุมใน 70 จังหวัด

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2566  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานและปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจภารกิจและผลการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา สคทช. ครบ 2 ปี ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพค เมืองทองธานี โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สคทช. เป็นองค์กรที่มีภารกิจสำคัญด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ ที่จะบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งการมีส่วนร่วมประชาชนและชุมชน จะทำให้การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัดมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สูงสุดสมดุล เป็นธรรมและยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนได้มีสิทธิทำกินและอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ การดำเนินการของ คทช. ประสบความสำเร็จและก้าวหน้ามาเป็นลำดับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายไปแล้ว 1,491 พื้นที่ เนื้อที่ประมาณ 5.7 ล้านไร่ ครอบคลุม 70 จังหวัด สามารถจัดคนเข้าใช้ประโยชน์ให้มีที่อยู่อาศัย มีที่ดินทำกินเลี้ยงชีพได้แล้ว 78,109 ราย การขับเคลื่อนนโยบายของ คทช. ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีเรื่องสำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการพัฒนา และยกระดับการทำงานอีกเป็นจำนวนมาก ได้แก่ การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 การขับเคลื่อนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ หรือ การแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องแนวเขตที่ดินระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชน และการสร้างมูลค่าที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชน เพื่อช่วยให้เกษตรกรและผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินจากหน่วยงานรัฐ สามารถนำเอกสาร หรือ สมุดประจำตัว ไปใช้เป็นหลักประกันการเข้าถึงแหล่งทุนสำหรับการประกอบอาชีพ เพื่อยกระดับรายได้

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายสำคัญที่สุดของนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ประสบความสำเร็จและเพื่อให้การดำเนินงานของทุกภาคส่วนมุ่งสู่การบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินอย่างสมดุลและยั่งยืนในอนาคต รัฐบาลได้กำหนดนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินประเทศ (พ.ศ. 2566-2580) เพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางนโยบายระยะ 15 ปี ที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ ตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติอีกด้วย.