คนร้ายอาศัยจังหวะชาวบ้านรวมตัวลุ้นหวย ย่องเงียบฉกกระเป๋าเงิดเชิด1หมื่่นบาทหนีลอยนวล

คนร้ายอาศัยจังหวะชาวบ้านรวมตัวลุ้นหวย ย่องเงียบฉกกระเป๋าเงิดเชิด1หมื่่นบาทหนีลอยนวล





ad1

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ธ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 120 บ.หนองม่วง ม.2 ต.ทางขวาง อ.แวงน้อยจ.ขอนแก่น โดยพบกับนาง เอ็มออน ช่วยนา อายุ 61 ปี ซึ่งถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุขโมยกระเป๋าสะพายไป 1 ใบพร้อมกับเงินสดประมาณ 5,000 บาทโดยนางเอ็มออน ได้พาผู้สื่อข่าวดูร่องรอยที่ขอบหน้าต่างข้างบ้าน จุดที่วางกระเป๋าสะพายเอาไว้บริเวณข้างที่นอนติดริมหน้าต่าง แต่ไม่พบร่องรอยลายนิ้วมือของคนร้าย

นางเอ็มออน กล่าวว่า  เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ธ.ค.2565 เป็นช่วงที่กำลังประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 ขณะที่ตนเองพร้อมทั้งญาติๆและชาวบ้าน ต่างพากันมาลุ้นหวยที่บ้านของลูกสาว ซึ่ง ภายหลังจากกองสลากประกาศผลรางวัลก็ได้ยินเสียงชาวบ้านที่อยู่บริเวณหน้าบ้านส่งเสียงเฮขึ้นมา คิดว่ามีคนถูกรางวัลที่หนึ่ง จึงพากันวิ่งออกไปดูที่หน้าบ้าน เพื่อจะไปดูว่าใครเป็นผู้โชคดีถูกหวยงวดนี้ ซึ่งก็มีชาวบ้านถูกเล็กน้อย จังหวะนั้นผ่านไปประมาณ 5 นาที ก็นึกขึ้นได้ว่า เผลอวางกระเป๋าสะพายใส่เงินสดไว้ 2 ใบ ซึ่งเป็นเงินจากการขายของร้านของชำที่ตั้งอยู่หน้าบ้านลูกสาว วางเอาไว้อยู่ข้างที่นอน จึงรีบกลับไปดูพบว่าเหลือเพียงกระเป๋าสะพาย 1 ใบ ในสภาพถูกเปิดออก และเงินสดกว่า 5,000 บาทหายไป และกระเป๋าสะพายอีกใบใส่เงินไว้ประมาณ 5,000 บาทเหมือนกัน เอาไปทั้งกระเป๋าแล้วหลบหนีไปอย่างลอยนวล

"หลังเกิดเหตุก็ได้แจ้งตำรวจ สภ.แวงน้อย ให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว โดยทางตำรวจได้ลงพื้นที่มาเก็บหลักฐานหาลายนิ้วมือแฝงแล้วแต่ไม่พบ แต่พบรอยเท้าอยู่บริเวณหลังบ้านคาดว่าจะเป็นรอยเท้าคนร้ายที่มาก่อเหตุและใช้จุดนี้ในการหลบหนีไป ซึ่ง หลังเกิดเหตุผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง ทราบว่ามีชาวบ้านตะโกนร้องเรียกให้ช่วยกันจับบุคคลต้องสงสัยแปลกหน้า เข้ามาภายในบ้านของชาวบ้านที่อยู่ห่างจากบ้านตนเองประมาณ 300 เมตร บอกว่าเป็นคนตัวเล็กๆ ลักษณะเหมือนผู้หญิงหรือสาวประเภทสอง ผมยาว แต่ไม่มีใครวิ่งตามจับได้ทัน ซึ่งเหตุการณ์ที่มีโจรขโมยเกิดขึ้นในพื้นที่นั้น ไม่ทราบว่าจะเป็นรายเดียวกันกับที่ก่อเหตุขโมยทองต่อเนื่องอยุ่ใยขณะนี้หรือไม่ เพราะทางตำรวจยังไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ ตอนนี้ชาวบ้านต่างกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำๆต่อเนื่องไปอีก อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุที่อื่นอีก"

พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของชาวบ้านที่พบบุคคลต้องสงสัยดังกล่าว โดยได้พบกับ นางคำไข เกิดทรัพย์ อายุ 85 ปีและ น.ส. ศรีไพร เกิดทรัพย์ อายุ 50 ปี สองแม่ลูกเจ้าของบ้านเลขที่ 58 ม.2 อยู่ห่างจากบ้านหลังที่ถูกขโมยประมาณ 300 เมตร โดยสองแม่ลูกพาผู้สื่อข่าวดูจุดที่พบบุคคลต้องสงสัยคาดว่าจะเป็นขโมย ยืนอยู่ข้างบ้าน

นางคำไข กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ นั่งเล่นอยู่หลังบ้าน จังหวะนั้นหันมาเห็นเป็นผู้หญิงสูงประมาณ 150 ซม. ผมยาวถึงกลางหลัง สวมเสื้อสีครีม กางเกงขาสั้นสีเทา ยืนก้มเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างบ้าน ตนเองก็มองเพื่อให้แน่ชัดว่าเป็นใคร พอไม่คุ้นหน้าจึงตะโกนถามไปว่า นั่นใคร มายืนอยู่ตรงนั้น ก่อนที่คนร้ายจะได้ยินแล้วเดินไปที่หน้าบ้าน ตนเองนั่งดูไม่กล้าเข้าไปจึงบอกลูกสาวไปดู เพราะเห็นเข้าไปไม่ออกมา ทีแรกคิดว่าผี พอเดินไปเห็นผู้หญิงดังกล่าวออกมาจากหน้าบ้าน แล้ววิ่งไปทางหน้าบ้าน ลูกสาวจึงเดินหาและสอบถามชาวบ้านบอกอีกว่าเห็นมีผู้หญิงมายืนอยู่ที่บริเวณโอ่งแดงหน้าบ้าน แต่ชาวบ้านก็ไม่เห็นว่าไปไหนเพราะไม่ได้เอะใจ ก่อนที่ลูกสาวจะเดินหารอบบ้าน และไปพบว่าแอบอยู่ข้างกำแพง ซึ่งปีนข้ามไปภายในรั้วบ้านของเพื่อนบ้านที่อยุ่ติดกัน ซึ่งมองเห็นเป็นตัวเล็กๆเห็นแต่หัวยืนแอบอยู่ ตนเองจึงถามไปว่านั่นใคร ผู้หญิงคนนั้นจึงวิ่งหนีทันที ตนเองก็ตกใจเรียกให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้มาช่วย แต่ไม่มีใครวิ่งตามจับทัน

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าที่บ้านหนองม่วง หมู่ 2 ต.ทางขวาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่นแห่งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่เคยเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.แวงน้อยไว้หลายราย ซึ่งต่างผวา กินไม่ได้นอนไม่หลับ แจ้งความไปแล้วแต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายที่มาก่อเหตุได้ โดยพฤติการณ์ของคนร้ายนั้น ก่อเหตุมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.แวงน้อย ทั้งหมด 9 ราย ได้ทองคำรูปพรรณไปทั้งหมดน้ำหนักรวมกว่า 30 บาท โดยเป็นการก่อเหตุหลายหลังหลายครั้งหลายวันโดยไม่เลือกช่วงเวลา แต่จะเลือกบ้านที่มีคนแก่อาศัยอยู่และเน้นเฉพาะทองคำรูปพรรณเท่านั้น ซึ่งภายหลังชาวบ้านเข้าแจ้งความทางตำรวจและฝ่ายปกครองก็มีการนำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งตามแยกภายในหมู่บ้าน รวมทั้งชาวบ้านเองก็พากันซื้อกล้องวงจรปิดมาติดที่บ้านของใครของมัน จนคนร้ายหายไปช่วงหนึ่ง ก่อนจะกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง และลงมือวิธีการเดิมเลือกเหยื่อที่เป็นคนแก่เหมือนเดิม แล้วเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินแต่ครั้งนี้ไม่ได้เอาเพียงแค่ทองคำ

แต่เลือกเอาเงินสดไปด้วยทั้งหมด โดยก่อเหตุต่อเนื่องช่วงล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2565 ที่บ้านของนางบัวลอง ด้วงจุมพล อายุ 46 ปี เวลา 13.00น. คนร้ายได้สร้อยข้อมือหนัก 1 บาทและเงินสด 8,000 บาท และรายสุดท้าย รายที่ 11 นางบุญจิตร โพธิ์ศรีขาม อายุ 63 ปี เหตุเกิดวันที่ 9 ธ.ค.65 เวลา 10.30น. คนร้ายได้เงินสดไปกว่า 10,000 บาท และมายังผู้เสียหายรายล่าสุดได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดไปกว่า 10,000 บาท แต่พบเบาะแสล่าสุดของคนต้องสงสัยเป็นหญิงรูปร่างเล็กผมยาว ผอม สูงประมาณ 150 ซม.