เอกชนร้องผ่านสื่อกรณีล่าช้าการลงนามของ กฝผ. ทำให้เสียโอกาศการลงทุ่นสร้างอาชีพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกระทรวงพลังงานได้มีการจัดดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศษรฐกิจฐานราก(โครงการนำร่อง)ทั่วประเทศ ในส่วนของพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ บริษัทที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือก จำนวนสามโรง และเจ้าหน้าที่รัฐได้เรียกทางบริษัทให้มีการลงนามเมื่อวันที่15มีนาคม2564ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ทางบริษัทฯไม่สามารถดำเนินการของโรงงานได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคยังไม่ได้ลงนาม เลื่อนมาตลอดถึงห้าครั้ง ให้เรออีก90วัน ซึ่งทำให้ทางบริษัทได้รับความเสียหาย จากการล่าช้า ขาดโอกาศของการลงทุน เสียโอกาศการลงทุนในพื้นที่ ที่จำทำให้มีการสร้างงานจ้างงานให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นที่เปราะบาง ที่อาจมองว่ารัฐคาดความจริงใจในการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
นายชาญศักดิ์ สีดาธนะะพัฒน์ ตัวแทนผู้ประกอบการที่ได้รับพิจารณาคัดเลือกสร้างโรงไฟฟ้าชีวภาพในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เปิดเผยว่าลงทุนโรงไฟฟ้า ชุมชน เพื่อเศษรฐกิจ ฐานราก โรงไฟฟ้าที่ได้ประโยชน์สำหรับชาวบ้าน สร้างพลังงานส่งโรงไฟฟ้า ชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม จากการปลูกพืชพลังงานส่งให้โรงโรงไฟฟ้าตามราคาที่โรงำฟฟ้สอย่างยุติธรรม รับประกันของการรับซื้อ อย่างน้อย20ปีตามสัญญา
ปัญหาอุปสรรค์ตอนนี้ทีีผ่านมา เราทำตามประกาศข้อกำหนดของภาครัฐ จนเราได้รับประกาศคัดเลือก ซึ่งเราได้รับประกาศคัดเลือก 3โรงงาน ซึ่งที่ปัตตานี ปะนาเระ-ส่ยบุรี ที่ยะหาาของยะลา ที่อำเภอตากใบ ที่เกาะสะท้อน ของนีาธิวาส
สิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้คือหลังจากเราได้ประกาศคัดเลือกแล้ว ปรากฎว่าภาครัฐเองได้เรียกเราบริษัทเอกชนไปลงนามฝั่งของเอกชนไปแล้ว
ส่วนของภาครัฐการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเองเลื่อนการลงนามรอบนี้เป็นรอบที่ห้าแล้ว นี่ไม่รวมค่าเสียหายจากดอกงอกจากเงินกู้เพื่อการลงทุน ถ้ากรณีหากบริษัทมีการกู้เงินเพื่อมาลงทุน
ด้านนายสะมะแอ สาอะ หรือ ยีแอ ท่าน้ำ อดีตแกนนำพูโลPULOในฐานะผู้ประสานงานในพื้นที่ ได้เผยกับทีมสื่อว่านับเป็นเรื่องยินดีที่จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าชีวภาพ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีอาชีพ มีการจ้างงาน เกษตกรจะได้มีรายได้จากการปลูกหญ้าเนเปียขายให้กับโรงไฟฟ้า และยังสามารถนำยอดใบหญ้าเนเปียตัดให้วัว ส่วนลำต้นเราก็สามารถนำไปขายให้กับโรงไฟฟ้า ในอนาคตข้างหน้าประชาชนในพื้นที่จะได้เลี้ยงปศุสัตว์วัว ควาย แพะมากขึ้นจะทำให้ในพื้นที่มีการผลิตวัว ความมากขึ้น ้ป็นสร้างงาน สร้างอาชีพมีรายได้มั่นคงยั่งยื่น จึงอยากให้รัฐบาล กระทรวงพลังงานรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จ ไม่ใช่เลื่อนลอย เหมือนที่เป็นอยู่เพราะจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของแก้ไขปัญหาความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะปัญหาการว่างงาน ขาดรายได้เป็นส่วนหนึ่งของรากเง้าของปัญหาในพื้นที่
