ประธานชมรมรักษ์พระพุทธศาสน์นานาชาติชี้เตรียมทุบทิ้งมัสยิดก่อสร้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ประธานชมรมรักษ์พระพุทธศาสน์นานาชาติชี้เตรียมทุบทิ้งมัสยิดก่อสร้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย





ad1

อำนาจเจริญ-ประธานชมรมรักษ์พระพุทธศาสน์นานาชาติชี้เตรียมทุบทิ้งมัสยิดนอกแถวก่อสร้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย แฉสร้างให้ครบ3แห่งในจังหวัดเพื่อได้รับเงินเดือนมหาดไทยคนละหมื่นเศษๆและได้ตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการการจังหวัดนั้นๆอีกด้วย

วันที่ 3 มิถุนายน 2565 เวลา 15:00 น นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ ชินวัตรนุวงค์ ประธานชมรมรักษ์พระพุทธศาสน์นานาชาติและคณะได้เดินทางไปดูแหล่งที่ตั้งมัสยิดและได้ร่วมพูดคุยกับประชาชนและชุมชนต่างๆในจังหวัดต่างๆ กับการก่อสร้างมัสยิดว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งนางสาวอิงค์ ณภัจฉร์ ก็ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการสร้างมัสยิดซึ่งจะต้องมีการขออนุญาตกรรมการอิสลามซึ่งรวมไปถึงการขออนุญาตเรื่องแบบแปลนและที่สำคัญที่สุดในเรื่องของการประชาคมหรือสอบถามประชาชนในพื้นที่ซึ่งตามประสบการณ์ที่เห็นมาจะพบเจอกับมัสยิดที่สร้างขึ้นมาแล้วไม่มีศาสนิก หรือชาวมุสลิมอยู่เลยมีอีกหลายแห่งที่จะต้องได้ทำการตรวจสอบการสร้างขึ้นมาเพื่อให้ครบตามกำหนด 3 แห่งเพื่อที่จะขอจัดตั้งคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและได้เงินเดือนจากกระทรวงมหาดไทยและได้นั่งเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าอันนี้ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเอาการศาสนาไปอยู่กับการปกครองซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้อย่างชัดเจนอย่างลึกซึ้งซึ่งการลักลั่นออกกฎหมายมาประชาชนไม่ทราบและได้มีการบังคับใช้มาตั้งแต่พุทธศักราช 2524

จากนี้เป็นต้นไปตำแหน่งที่ว่ามาหรือกฎกระทรวงที่ออกมาที่ไม่เกิดประโยชน์ที่เกิดความไม่เท่าเทียมที่เกิดความแตกแยกจะต้องได้ถูกยกเลิกเพิกถอนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่งผลต่อศาสนาหลักซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนับถือ ซึ่งตอนนี้ถูกลุกลามเข้าไปถึงเรื่องข้อกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย การสั่งการทางปกครองเพราะฉะนั้นประชาชนคนไทยและชาวพุทธจะได้มาตรวจสอบการใช้เงินภาษีของแผ่นดินตรวจสอบการ คุกคามพระพุทธศาสนาตรวจสอบการออกกฎหมายโดยไม่ชอบรวมไปถึงร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ทุกกระทรวงทบวงกรมที่เอื้อต่อการกระทำผิดโดยอ้างข้อกฎหมายซึ่งกฎหมาย

มีอีกหลายส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้องฉะนั้นจะต้องดูกันเป็นรายๆไป และจะต้องดำเนินการทุกแห่งทุกที่ประชาชนสำคัญที่สุด เพราะหากว่าไปรบกวนและคุกคามวิถีชีวิตและวัฒนธรรมเก่าๆเดิมๆที่เขาเคยอยู่นั่นคือผลที่จะต้องเกิดขึ้นในเรื่องของความขัดแย้งในทุกๆชุมชนที่กำลังเป็นระเบิดเวลาอยู่ตอนนี้
แล้วตอนนี้ก็มี มัสยิด หลายที่ที่ได้รื้อถอนไป ตามคำสั่งศาลฉะนั้นจากนี้ต่อไปเบื้องหน้าก็คงจะได้ตรวจสอบทั้งทางกระบวนการกฎหมายที่มารวมไปถึงงบประมาณฉะนั้น จะต้องมีการตรวจสอบทุกแห่งที่ได้รับการร้องเรียนร้องขอร้องทุกข์

นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ยังได้กล่าวอีกว่า. ไม่ว่าชนชาติใดหรือคนไทยเองก็ตามอยู่แผ่นดินสยามอย่าเนรคุณต่อแผ่นดินสยามและคนสยามแผ่นดินสุดท้ายที่บรรพบุรุษรักษาไว้แผ่นดินพุทธศาสนารักษาให้ดีที่สุดส่วนในเรื่องของการคุกคามในด้านต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ 3 สถาบันหลักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ที่ถูกคุกคามอย่างหนักในขณะนี้ ก็ ให้ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าได้ออกมาปกป้องรักษา 3 สถาบันหลักของชาตินี้ไว้

นางสาวอิงค์ณภัจฉร์ ได้แสดงถึงความกังวลใจในเรื่อง ข้อกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมไม่ถูกต้องและข้อกฎหมายที่ขัดแย้งกันเองซึ่งจะทำให้เกิดการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมและผลที่ออกมา ก็คงไม่ต่างกันเพราะมีฎีกาออกมาแล้วอย่าลืมว่ายังมีกฎหมายอีกหลายตัวที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ภาพข่าว/นายทิพกร   หวานอ่อน  ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด อำนาจเจริญ  รายงาน