ไพบูลย์’ ชู ‘ประวิตร’ มีประสบการณ์สูงสุดในประเทศ เชื่อบริหารได้ต่อเนื่องไร้ปัญหา ขอประชาชนมั่นใจ อย่าหลงเชื่อคนปลุกปั่น

ไพบูลย์’ ชู ‘ประวิตร’ มีประสบการณ์สูงสุดในประเทศ

ไพบูลย์’ ชู ‘ประวิตร’ มีประสบการณ์สูงสุดในประเทศ เชื่อบริหารได้ต่อเนื่องไร้ปัญหา ขอประชาชนมั่นใจ อย่าหลงเชื่อคนปลุกปั่น





ad1

วันนี้ (25 ส.ค. 65) ที่อาคารรัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวินิจฉัยการสิ้นสุดลงของวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมทั้งมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

นายไพบูลย์ กล่าวว่า จากคำสั่งดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นกลไกที่เป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว กลไกทางกฎหมายที่พรรคพลังประชารัฐได้ศึกษาไว้ พบว่าไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ก็เป็นรองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 ซึ่งตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ในหมวด 6 ว่าด้วยการรักษาราชการแทน มาตรา 41 บัญญัติชัดเจนกรณีที่นายกฯ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้รองนายกฯรักษาราชการแทน นั่นคือ พล.อ.ประวิตร 

ขณะเดียวกัน มาตรา 48 วรรคหนึ่ง ระบุว่า ให้ผู้รักษาราชการแทน ตามความใน พ.ร.บ. นี้ มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกันกับผู้ที่ได้รับการรักษาการแทน หมายความว่า รักษาการแทนนายกฯ มีอำนาจเช่นเดียวกับนายกฯ ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ภารกิจของพรรคพลังประชารัฐก็ยังดูแลการบริหารราชการแผ่นดิน ในฐานะพรรคแกนนำต่อไปได้อย่างไม่มีข้อสะดุด สิ่งเหล่านี้เป็นกระบวนการซึ่งบัญญัติไว้ชัดเจนตามกฎหมาย เป็นหลักการในการรักษาเสถียรภาพรัฐบาล ซึ่งเป็นหน้าที่ของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะหัวหน้าพรรค จึงขอให้ทุกท่านมั่นใจว่าการปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกฯ จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติเหมือนที่ผ่านมา
  
“พรรคน้อมรับคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ตอนนี้รอกระบวนการวินิจฉัยของศาล แต่ไม่ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาประการใด พรรคยังสามารถขับเคลื่อนในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล บริหารราชการแผ่นดินไปได้ตลอดจนกวาจะครบวาระของสภาฯ ซึ่งจะครบช่วงเดือน มี.ค. 2566 ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรห่วงใยทุกข์สุขประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ดังนั้น ไม่ว่าท่านจะทำงานในฐานะใด ทางพรรคขอให้ความมั่นใจได้ว่า การบริหารราชการแผ่นดิน ความมั่นคงของประเทศจะเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีปัญหาเหมือนที่หลายคนปลุกปั่น การดำเนินการทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย และทุกอย่างจะมีทางออกไม่ว่าจะเกิดกรณีใดทั้งสิ้น” นายไพบูลย์ กล่าว 
  
เมื่อถามว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ทักท้วงว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปด้วย นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นการพูดโดยไม่มีข้อกฎหมายบัญญัติ และหากฝ่ายค้านจะเสนอยื่นศาลตีความ ก็คงแล้วแต่เขา แต่ส่วนตัวยืนยันว่าไม่เห็นมีข้อกฎหมายอะไรที่ทำแบบนั้นได้ เชื่อว่าในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีนักกฎหมายอยู่หลายคน อ่านกฎหมายเป็นคงไม่ไปทำอะไรแบบนั้น และนายกฯ ก็ยังอยู่ในตำแหน่งแค่หยุดปฏิบัติหน้าที่ กระบวนการหลังจากนี้ต้องรอคำสั่งศาล ซึ่งเชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน 
  
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นายไพบูลย์ได้นำหนังสือ “พี่ป้อม พี่ใหญ่ พี่ชายที่แสนดี” ซึ่งจัดพิมพ์เป็นครั้งแรก มอบให้แก่ผู้สื่อข่าว ซึ่งเนื้อหาภายในหนังสือระบุถึงประวัติส่วนตัวโดยย่อ ประสบการณ์ทำงาน ความสามารถของพล.อ.ประวิตร โดยนายไพบูลย์ ระบุด้วยว่า “ท่านเคยรักษาการนายกฯ หลายครั้งแล้ว การทำหน้าที่ของท่านมีความสามารถ ประสบการณ์สูงสุดในประเทศแล้ว”

แม้หนังสือเล่มดังกล่าวไม่ปรากฏชื่อ วันที่ และสถานที่พิมพ์ แต่ผู้สื่อข่าวถามว่าเพิ่งตีพิมพ์ใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ ตอบว่า ใช่ ต่อมาเมื่อถามว่าหนังสือเล่มนี้นายไพบูลย์เป็นผู้จัดทำใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ ตอบรับอย่างเขินอาย พร้อมกล่าวว่า “และคณะ”