"ป๋าชู" ดีใจประกาศชัยชนะและขอบคุณประชาชนที่ DSI รับคดี "ตู้ห่าว" เป็นคดีพิเศษ

DSI รับคดี "ตู้ห่าว" เป็นคดีพิเศษ

"ป๋าชู" ดีใจประกาศชัยชนะและขอบคุณประชาชนที่ DSI รับคดี "ตู้ห่าว" เป็นคดีพิเศษ





ad1

15 ธ.ค. 2565  นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  นักสู้วิ่งสู้ฟัด อดีตนักการเมืองดัง ได้โพสข้อความแสดงความยินดีว่าผลการออกมาแถลงข่าวจบไปไม่ถึง 15 นาที ทางดีเอสไอได้รับคดี "ตู้ ห่าว " ไว้เป็นคดีพิเศษตามที่นายชูวิทย์ร้องขอ โดยได้รับการยืนยันจากอธิบดีดีเอสไอ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์  โดยนายชูวิทย์ได้แสดงความขอบคุณต่อประชาชนที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวการทำงานของเจ้าหน้าผ่านการปฎิบัติการต่อสู้ของนายชูวิทย์  โดยมีรายละเอียดข้อความทั้งสิ้นของนายชูวิทย์ดังนี้ว่า

ชัยชนะ ของประชาชน
.
ด่วนสุด
.
หลังจากชูวิทย์แถลงข่าวจบไม่ถึง 15 นาที
.
ได้รับข่าวยืนยันว่า ดีเอสไอ โดยอธิบดี นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รับคดี “ตู้ห่าว” เป็นคดีพิเศษแล้ว
.
ต้องขอบคุณในนามประชาชนของประเทศนี้ ต่อท่านรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน ท่านเลขาฯ ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ท่านรองอธิบดีดีเอสไอ ยุทธนา แพรดำ รวมถึง ผอ.พงษธร อินอำนวย
.
ไม่ได้รู้จักท่านเหล่านั้นเป็นการส่วนตัว บางคนยังไม่เคยเจอหน้าด้วยซ้ำ
.
เมื่อพึ่งตำรวจให้เป็นคดี “สมคบฟอกเงิน” ไม่ได้ ออกลูก “เตะถ่วงช่วงใกล้หมดเวลา”
.
เพราะการตั้งข้อหาของตำรวจในเรื่อง “สมคบยาเสพติด” ดูเหมือนหนักดั่งภูเขา
.
แต่ความเป็นจริงตู้ห้าวหลุดล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะ บชน. โดย “บิ๊กจ้าว” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ไม่มีพยานยืนยันว่าตู้ห่าวอยู่ในที่เกิดเหตุ
.
แถมตัวการสำคัญ 2 คน ได้แก่ “หลานตู้ห่าว” กับ “นายเดวิด ฮอว์” จีนตัวการขายยา ยังถูกรองผู้กำกับฯ จราจร สน.ลาดพร้าว ลูกน้องบิ๊กจ้าว ร่วมมือกับตำรวจสอบสวนโรงพักยานนาวา แอบปล่อยตัวไปกลางทางระหว่างพาไปฝากขัง
.
พอประกันตัวได้ปุ๊บ ขี่มอเตอร์ไซค์ส่งที่ป้ายรถเมล์ ช่วยไปดูกล้องวงจรปิดหน่อย ทีตอนจับโจรปล้นร้านทองจับได้ ไล่กล้องวงจรปิดทันควัน
.
แต่ดูกล้องจับลูกน้องตัวเองไม่ได้ ทำทีไม่เห็น
.
เท่านั้นไม่พอ กระบวนการ “สมคบคิด” ช่วยตู้ห่าวยังไม่หนำใจ ระดับรองผู้การฯ ที่อยู่ในวันเกิดเหตุ ร่วมจับกุมมีชื่อใน “บันทึกจับกุม” อย่าง พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ หรือ “รองหมา” ยังปล่อยรถของกลางที่มียาเสพติดและเงินสดอยู่ท้ายรถออกไปอีก 4 คัน
.
เมื่อข่าวหลุดทำเป็นเรียกกลับ แต่ล้างรถสะอาดเรียบร้อย เบาะรถหอมไร้กลิ่น
.
ฝากถามท่าน ผบช.น. หน่อยว่า ได้แจ้งข้อหารองหมาหรือยัง? รับประกันว่ายังแน่นอน
.
เหตุผ่านไปเกือบเดือนกว่าจะออก “หมายจับ” ตู้ห่าว
.
แต่กลับรีบจับ “รปภ.” มาอ้างว่ารับเป็นผู้ดูแลสถานที่ “จินหลิง”
.
หากดูไม่ออกว่าใครเป็นยาม ก็ไม่สมควรเป็น “ผบช.น.” เพราะคุมกรุงเทพฯ สถานบริการมากมาย แค่ยามยังดูไม่ออก ดันเห็นว่าเป็น “เจ้าของหรือผู้ดูแล” ได้อย่างไร?
.
อย่าเป็น ผบช.น. เลย ไปเป็น “หัวหน้ายาม” ก็พอแล้ว
.
ที่สำคัญถึงบัดนี้ยังไม่ได้ทำการสอบพยานแม้แต่ปากเดียว
.
พยานไทยปล่อยกลับบ้าน เรียกก็ไม่มา
.
ส่วนจีนที่ถูกขังแค่เอาชื่อไปถาม แทนที่จะเอารูปไปให้ดูว่า ใครเป็นใคร?
.
มีแค่ชื่อใครจะรู้?
.
ชื่อไทยไม่คุ้นหูจีน เหมือนแกล้งโง่ ทำสะเพร่าอีกต่างหาก
.
โถ… ใครจะไปจำชื่อจริงเด็กเสิร์ฟได้เล่า ท่าน ผบช.น.?
.
ยังอีกแยะที่รั่ว สำนวนอ่อนปวกเปียก หากส่งให้อัยการ จุดจบคือสั่ง “ไม่ฟ้อง” หลุดหมด
.
ส่วนข้อหา “สมคบฟอกเงิน” ไม่ยอมตั้ง เพราะสามารถสอบ “เส้นทางการเงิน” ได้
.
แม้คดียาจะหลุด แต่นายตู้ห่าวต้องชี้แจงที่มาของทรัพย์สิน 5,000 ล้านให้ได้ว่า
.
แค่ระยะเวลา 10 กว่าปี ทำทัวร์อะไรมันถึงรวยได้เพียงนี้?
.
มีทั้งโรงแรมขนาด 5 ดาว มีห้องเกือบ 400 ห้อง ทำเลทองใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ
.
ที่ดินอีกมากมายทั้งกรุงเทพฯ ภูเก็ต
.
กิจการอื่นๆ อีก 22 บริษัท ไปถึงรถหรูเรียงเป็นตับ บ้านหรู 300 ล้าน เครื่องบินส่วนตัว
.
หากชี้แจงไม่ได้ว่าเอาเงินที่ไหนมา ก็ต้องยึด ตกเป็นของแผ่นดิน
.
ฉะนั้น “สมคบฟอกเงิน” เข้า 29 มูลฐาน เป็นยึดหมด
.
แต่ “สมคบยาเสพติด” ดูหนักจริง แต่เมื่อไม่มียาอยู่กับตัว ถึงมีหลักฐานว่าเป็นเจ้าของสถานที่ เป็นผู้จ่ายค่าเช่า แต่ตู้ห่าวบอกลูกน้องแอบทำ ตัวเองธุรกิจยุ่งเหยิง ไม่เคยมาดูแล
.
“มีพยานสักคนไหมที่เห็นอั๊ว อย่าพูดซี้ซั้ว!”
.
กล้องก็บอกเสียไปซะงั้น มีก็ไม่เห็นตัวตู้ห่าว เพราะตัดต่อเรียบร้อย พยานสำคัญหนีหมด ตำรวจ บชน. เอง ดันจับได้แค่ยามมาขัง แล้วนึกขึ้นได้ว่าเป็น “แพะ”
.
ปล่อยตัวเสร็จแล้วบอก “ช่วยมาเป็นพยานหน่อย”
.
อย่างนี้เขาเรียก “พยานที่ไม่มีน้ำหนัก” เพราะเคยตกเป็นผู้ต้องหาแล้วนำกลับมาเป็นพยาน ศาลไม่เชื่อ เพราะอาจมีการต่อรอง
.
สรุปแล้ว ประชาชนของสังคมนี้ไม่เชื่อถือระดับ ผบช.น. ที่ทำงาน “วันแมนโชว์”
.
คงจะไว้ใจการทำงานของ “ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล” ไม่ไหวเสียแล้ว
.
ท่าจะ “ล้มกระดานจีนเทา” ไม่รอด
.
แต่ข่าวดีมาหลังข่าวร้ายซ้ำๆ หลังฝนตกหนัก แดดมักออกเสมอ
.
ท่านนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด “ทนายแผ่นดิน” ให้รองโฆษกฯ โทรแจ้งหยกๆ เมื่อกี้ว่า
.
ได้แต่งตั้ง “คณะทำงาน สอบสวนคดีสำคัญ” พิจารณาคดี “ตู้ห่าว” เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ทำผิดในราชอาณาจักรไทย แต่มีการตระเตรียม วางแผน สั่งการ สนับสนุน หรือควมคุมการกระทำผิดในประเทศจีน หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร
.
ตั้งคณะมาพิจารณา แต่หากไม่ใช่คดีนอกราชอาณาจักรก็ไม่ไหว มันชัดเสียยิ่งกว่าชัด
.
ยังมีที่เกี่ยวโยงไปถึง มูลนิธิผี สมาคมเถื่อน วีซ่ามั่ว ตม.รับสินบาทคาดสินบน อั้งยี่ ซ่องโจร เครื่องบินขนยา โอนหุ้นจากต่างประเทศมาขายในไทย เอาเงินสดเข้ามาซื้อบ้านหรู คอนโดหรู รถหรู และเอาเงินการเมืองมาให้ตู้ห่าวฟอกขาว
.
แถมด้วยพวกแอบอ้างเบื้องสูง (ชุดข้อมูลอยู่ที่ผม ยังไม่เปิดเผย)
.
เข้าข่ายสมคบ วางแผน สนับสนุน ยุยง ให้คำปรึกษา ร่วมกันเป็นขบวนการ “อาชญกรรมข้ามชาติ” ที่ชัดเจนที่สุด ตั้งแต่ประเทศนี้มีมา
.
ขอขอบคุณทุกท่าน จากการทำงานที่เหนื่อยยาก ฟันฝ่าอุปสรรคมากมายจนถึงวันนี้
.
แม้เราในฐานะประชาชนยังไม่ชนะ แต่การกระทำของผม เพื่อให้สังคมเข้มแข็ง เป็นหน้าที่ของสมาชิกของสังคมนี้
.
ที่ไม่ปล่อยให้คนแปลงสัญชาติอย่างนายตู้ห่าวทำลายความสงบสุข ก่ออาชญากรรมร้ายแรง ด้วยการสนับสนุนของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่รับเงินเดือนจากภาษีของเรา
.
คนทำผิดร้อยครั้ง หลุดรอดไปได้ 99 ครั้ง แต่คนต่างด้าวอย่างนายตู้ห่าวเนรคุณประเทศไทย ที่ให้เป็นที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น ปล่อยให้รอดไปไม่ได้
.
ผมจึงจำเป็นต้องเดินหน้าชนเต็มที่ แม้ว่าผมจะตายไป แต่ย่อมมีสมาชิกคนใหม่อย่างผมเกิดขึ้นมาอีกมากมาย
.
เพื่อให้จดจำไว้ว่า “ประชาชนต้องต่อสู้ ถึงจะได้รับความยุติธรรม”
.
และการต่อสู้ที่แท้จริง ย่อมนำมาซึ่งความสงบสุขของสังคม
.
ไม่ใช่การท้อถอย ไม่ใช่การนิ่งเฉย ไม่ใช่การยอมแพ้
.
เราแพ้วันนี้ เพื่อชนะในวันหน้า