ตำรวจรวบหนุ่มกับแฟนจำหน่ายยาเสพติดผ่านทางโซเชียลมิเดีย ของกลางยาบ้าจำนวน 48,000 เม็ดเม็ด พร้อมอาวุธปืนพร้อมกระสุน

รวบหนุ่มกับแฟนจำหน่ายยาเสพติดผ่านทางโซเชียลมิเดีย

ตำรวจรวบหนุ่มกับแฟนจำหน่ายยาเสพติดผ่านทางโซเชียลมิเดีย ของกลางยาบ้าจำนวน 48,000 เม็ดเม็ด พร้อมอาวุธปืนพร้อมกระสุน





ad1

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ตำรวจ ชป.3 ศปอส.ตร. ร่วมกับ กก.3 บก.สอท.1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8/หัวหน้า ชป.3 ศปอส.ตร., พ.ต.อ.วีระวิทธ์ ผลประสิทธิ์ ผกก.3 บก.สอท.1 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สส.บก.น.3, พ.ต.ท.สาริษฐ์ อักษร รอง ผกก.3 บก.สอท.1, พ.ต.ท.รัฐกิตติ์ บุญสันต์สุขศรี สว.กก.3 บก.สอท.1 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.3 ศปอส.ตร. ร่วมกับ กก.3 บก.สอท.1
ร่วมจับกุม น.ส.กานต์ธิดา หรือมาย (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม และ
นาย อัครเดช หรืออาร์ท (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมของกลางยาบ้า "ตรา 999" 48,000 เม็ด ,โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง , ปืนลูกโม่ไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 ม.ม. 1 กระบอก พร้อมกระสุน 6 นัด โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านบางนา ถนนเทพรัตน ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ต่อเนื่องบ้านพักแห่งหนึ่ง ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
สืบเนื่องจากตำรวจได้สืบทราบว่า นายอัครเดช และ น.ส.กานต์ธิดา ทั้งสองเป็นแฟนกันได้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดผ่านทางโซเชียลมิเดีย จึงได้ทำการสืบสวนติดตามและได้ติดต่อล่อซื้อยาบ้า จำนวน 20,000 เม็ด ในราคา 155,000 บาท จาก น.ส.กานต์ธิดา จากนั้นจึงได้วางแผนจับกุม และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองได้พร้อมของกลางยาบ้าดังกล่าว จากนั้นจึงได้ทำการขยายผลจนทราบว่าที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรปราการ มียาบ้าอีกส่วนหนึ่ง และ อาวุธปืนพร้อมกระสุนซุกซ่อนอยู่ จึงได้เดินทางไปตรวจค้นและได้ทำการตรวจยึด รวมยาบ้าทั้งหมด จำนวน 28,000 เม็ด พร้อมอาวุธปืนพร้อมกระสุน
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงได้แจ้งข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย , ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย และ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป