หนุ่มปัตตานีพาลูกไปเที่ยวมาเลฯโดนไล่กลับขับผ่าด่านมั่นคงถูกแจ้ง4ข้อ(มีคลิป)
ปัตตานี-หนุ่มปัตตานี มึนขับรถพาลูกสาววัย 8 ขวบ จะเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซีย และโดน ตม.มาเลเซีย ไล่ให้กลับมาฝั่งไทย กลับมาแหกด่านพรมแดนสะเดา และด่านความมั่นคง ถูกเจ้าหน้าที่ขับรถไล่ล่าไกลกว่า 12 กิโล จนถูกจับกุมตัวได้ และถูกแจ้ง 4 ข้อหา
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2564 เมื่อเวลาประมาณ 10.45 น. ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 สายตรวจบ้านด่านนอก ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 437 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสะเดา และฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา จ.สงขลา ขับรถไล่ล่ารถกระบะต้องสงสัย ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมก สีขาว ทะเบียน 1-ฒข-2959 กทม. ขับด้วยความเร็วมาจากทางฝั่งประเทศมาเลเซีย และมาแหกด่านพรมแดนสะเดา และด่านของฝ่ายความมั่นคง หน้าหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5
เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจหลายหน่วยงานจึงสนธิกำลังไล่ล่าติดตามกว่า 12 กม. กระทั่งสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ถนนสำนักแต้ว เทศบาลเมืองสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย
จากการตรวจสอบพบว่ามีนายสงกี โตะลู อายุ 47 ปี ชาว จ.ปัตตานี เป็นคนขับ และมีเด็กหญิงอายุ 8 ขวบ นั่งมาด้วย ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายสงกี แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด
และจากการสอบสวนนายสงกี บอกว่า ตนเองได้ขับรถมาจาก จ.ปัตตานี เพื่อที่จะเข้าไปขับรถเที่ยวในประเทศมาเลเซีย แต่ไม่ทราบว่า ด่านพรมแดนทางบกของทั้ง 2 ประเทศ นั้นยังไม่เปิด โดยเมื่อตนขับรถมาถึงด่านพรมแดนสะเดา และเห็นรถเทรลเลอร์วิ่งไปมา ก็คิดว่าผ่านด่านได้ จึงขับรถพุ่งตรงไปทางฝั่งประเทศมาเลเซียเลยทันที โดยไม่ได้สอบถามหรือลงมาติดต่อเจ้าหน้าที่
จากนั้นเมื่อขับไปถึงด่านพรมแดนของประเทศมาเลเซีย ก็โดน ตม.มาเลเซีย ไล่กลับมาฝั่งไทย เพราะ ยังไม่เปิดด่านพรมแดนให้นักท่องเที่ยวเข้ามา ก่อนขับกลับมาแหกด่านพรมแดนสะเดา และด่านความมั่นคงหน้าหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ที่อยู่ถัดมาประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนพยายามขับหลบหลบหนี และถูกเจ้าหน้าที่ขับไล่ล่า แต่ก็ไม่รอด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดาจ.สงขลา ดำเนินคดีใน 4 ข้อหา คือขับรถประมาทหวาดเสียว ทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย และหลบหนี , ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น, ปลอมแปลงเอกสารทะเบียนรถ และเดินทางเข้าออกในราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านการตรวจคัดกรองโควิด 19 ส่วนลูกสาววัย 8 ขวบ ได้ประสานญาติให้มารับตัวกลับไป.
