“พาณิชย์”แจ้งข่าวดี จดบริษัทใหม่ ตั้งแต่ 7 ก.พ.66 ใช้ผู้เริ่มการจัดตั้งเหลือแค่ 2 คน

พาณิชย์

“พาณิชย์”แจ้งข่าวดี จดบริษัทใหม่ ตั้งแต่ 7 ก.พ.66 ใช้ผู้เริ่มการจัดตั้งเหลือแค่ 2 คน





ad1

“พาณิชย์”เผยร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 23) พ.ศ.2565 จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 7 ก.พ.66 ลดจำนวนผู้เริ่มการจัดตั้งบริษัทจาก 3 คน เหลือแค่ 2 คน เพิ่มความยืดหยุ่นการควบรวมบริษัท ยกเลิกนำหนังสือเชิญประชุมไปลงประกาศในหนังสือพิมพ์
         
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 23) พ.ศ.2565 ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2565 จะมีผลบังคับใช้วันที่ 7 ก.พ.2566 (90 วันนับถัดจากวันประกาศ) ซึ่งจะช่วยให้การจัดตั้งบริษัทจำกัดทำได้ง่ายขึ้น เพิ่มความคล่องตัวในการประกอบธุรกิจ ช่วยให้บริษัทจำกัดสามารถควบรวมกิจการได้มากกว่าหนึ่งลักษณะ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันของประเทศและสร้างภาพลักษณ์อันดีในการประกอบธุรกิจ รองรับระบบเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล และที่สำคัญ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนการดำเนินงานให้ผู้ประกอบธุรกิจตามนโยบายของรัฐบาล

สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในครั้งนี้ มีประเด็นที่เปลี่ยนแปลงหลายประการ ได้แก่ 1.การยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทสามารถยื่น ณ สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทที่สำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่หรือตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด จากเดิมสำนักงานใหญ่อยู่ในจังหวัดใด ต้องจดทะเบียน ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนั้นเท่านั้น

2.รัฐมนตรีมีอำนาจกำหนด ลด หรือยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัท หรือกำหนดค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกันตามรูปแบบการทำธุรกรรมก็ได้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้บริการผ่านระบบสารสนเทศมากขึ้น

3.บุคคลตั้งแต่ 2 ขึ้นไปจะเริ่มก่อการและตั้งเป็นบริษัทจำกัดก็ได้ จากเดิมต้อง 3 คนขึ้นไป

4.หนังสือบริคณห์สนธิที่จดทะเบียนไว้ หากไม่ดำเนินการจดทะเบียนบริษัทจำกัดภายใน 3 ปีสิ้นผลทันที จากเดิมที่ไม่มีอายุของการสิ้นผล ทำให้บุคคลอื่นไม่สามารถใช้ชื่อบริษัทที่ปรากฏในหนังสือบริคณห์สนธิที่จดทะเบียนไว้ได้.

ที่มา :CNA Online                                                          ผู้เผยแพร่ :วิชชุดา ดวงพรหม