วันแรกปฏิบัติหน้าที่แทนบิ๊กตู่ รองนายกฯ ประวิตร หารือ รมต.อาวุโส กระทรวงโยธาธิการ มาเลเซีย

รองนายกฯ ประวิตร หารือ รมต.อาวุโส กระทรวงโยธาธิการ มาเลเซีย

วันแรกปฏิบัติหน้าที่แทนบิ๊กตู่  รองนายกฯ ประวิตร หารือ รมต.อาวุโส กระทรวงโยธาธิการ มาเลเซีย





ad1

ดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ บิน ฮัจญี ยูโซ๊ะ (YB Dato’ Sri Haji Fadillah bin Haji Yusof) รัฐมนตรีอาวุโส กระทรวงโยธาธิการ มาเลเซีย เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในโอกาสเยือนประเทศไทย ณ ห้องรับรองรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ชั้น 3 วันที่ 26 สิงหาคม 2565

วันนี้ (วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565) เวลา 09.30 น. ณ ห้องรับรองรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ดาโต๊ะ ศรี ฮัจญี ฟาดิลละห์ บิน ฮัจญี ยูโซ๊ะ (YB Dato' Sri Haji Fadillah bin Haji Yusof) รัฐมนตรีอาวุโสกระทรวงโยธาธิการมาเลเซีย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนประเทศไทยเพื่อหารือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อไทยและมาเลเซียในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับรัฐมนตรีอาวุโสฯ และคณะในโอกาสเยือนประเทศไทย โดยถือเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือร่วมกันเพื่อผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อประเทศไทยกับมาเลเซียในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องร่วมกันไว้ เมื่อครั้งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ตลอดจนเป็นโอกาสหารือแนวทางเพิ่มพูนความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันจัดประชุมกลไกความร่วมมือเพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่าง ๆ ให้มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อประเทศไทยและมาเลเซีย 

รัฐมนตรีอาวุโสฯ ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่อำนวยความสะดวกในการเยือนไทยเป็นอย่างดี รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่าย และเพื่อหารือความคืบหน้าของการดำเนินโครงการความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งไทยและมาเลเซียได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้โครงการต่าง ๆ ระหว่างกัน มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรม ซึ่งทางคณะได้มีโอกาสศึกษา เรียนรู้ประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีจากหน่วยงานไทย โดยเฉพาะในด้านการก่อสร้าง การออกแบบ และการซ่อมบำรุง ซึ่งหน่วยงานของไทยมีศักยภาพสูง โดยฝ่ายมาเลเซียจะได้นำองค์ความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ ไปเป็นแนวปฏิบัติต่อไป 

ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางการผลักดันโครงการความเชื่อมโยงที่คั่งค้างระหว่างกันให้มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก – ลก ณ อำเภอสุไหงโก – ลก (สุไหงโก – ลก – รันเตาปันยัง) แห่งที่ 2 และการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก – ลก ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส – เปิงกาลันกูโบร์ มาเลเซีย ซึ่งรัฐมนตรีอาวุโสฯ พร้อมเร่งรัดการดำเนินในรายละเอียดให้มีความคืบหน้าโดยเร็ว รวมถึงการสร้างถนนเชื่อมต่อด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ – ด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัม มาเลเซีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันจัดการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค (Expert Working Group: EWG) ไทย – มาเลเซีย ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้สามารถเปิดใช้ด่านศุลกากรแห่งใหม่ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า โครงการความเชื่อมโยงเหล่านี้ จะสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนมากขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ