ปุ๋ยอินทรีย์ของดีบอกต่อ !!! ชาวนา-เกษตรกรบึงกาฬ-บุรีรัมย์-อุดร ตบเท้าสั่งของพรึบ


แนวโน้มการปลูกข้าวอินทรีย์ กำลังได้รับความนิยมสูงของชาวนาไทย บางคนปลูกกินเองในครอบครัว และปลูกเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ แม้ว่าจะผ่านขั้นตอนซับซ้อน การปรับปรุงดินให้ปลอดจากสารเคมีตกค้าง และการเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณภาพ เกษตรกรเองต้องมีความรอบรู้กับการทำนาแบบอินทรีย์อย่างถูกต้องตามหลักวิชการ
แต่ดูเหมือนว่า เทคนิคการทำนาข้าวและการทำเกษตรแบบอินทรีย์ อาจดูเป็นเรื่องยาก แต่ถ้ารู้จักวิธีการทำอย่างมีความรู้ ศึกษาหาข้อมูลจากเกษตรอำเภอ นักวิชการเกษตร และศึกษาจากผู้รู้ที่เคยทำเกษตรอินทรีย์มาก่อน ย่อมไม่ใช่เรื่องยากมากนัก โดยเฉพาะเรื่องการคัดเลือก “ปุ๋ยอินทรีย์ที่ดี มีคุณภาพ” ที่ผ่านการวิจัยคัดเลือกจากวัตุดิบหลักจากอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษในเครือ SCGP
อยากแนะนำเกษตรกรอีกทางเลือกหนึ่ง “ปุ๋ยอินทรีย์ ตราไทยกรีน” ที่มีส่วนผสมจากเปลือกไม้ยูคาลิปตัส มีคุณบัติที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการปรับสภาพดิน เพิ่มค่า CEC ดูดซับธาตุอาหารได้เยอะขึ้น อีกทั้ง ยังปรับสภาพดิน ทำให้ดินเป็นกลาง ลดการเกิดโรครากเน่า และยังมีกรดฮิวมิค ช่วยให้รากดูดซึมอาหารได้ดี มีเซลลูโลส ช่วยดูดซึมน้ำและปุ๋ยเคมีได้ดีขึ้น มีแคลเซียม ช่วยให้พืชแข็งแรงต้านโรคและแมลง มีแร่เหล็กและแมกนีเซียม ช่วยให้พืชเขียวนาน เจริญเติบโตไว รวมทั้ง ธาตุรองต่างๆ ช่วยให้พืชเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์
ที่น่าสนใจ สามารถใช้กับนาข้าว ตอนทำเทือก การเลือกใส่ปุ๋ย 300 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่ปุ๋ยอินทรีย์ช่วงที่เตรียมดินระหว่างทำเทือกก่อนหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าว หรือก่อนปักดำ 1-14 วัน นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปใส่พืชไร่, ไม้ผล ไม่ยืนต้น, ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ได้ทุกฤดูกาล ไม่จำกัดว่า ช่วงออกดอก หรือกำลังออกผล “ปุ๋ยอินทรีย์ ไทยกรีน” ใช้ได้ทุกช่วงเหมาะกับผลไม้และพืชทุกชนิด ในช่วงหน้าฝนแบบนี้
ยิ่งช่วงนี้มีโอกาสดีๆ “โครงการต่อลมหายใจเกษตรกรไทย” เพื่อนำปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพไปสู่ชาวนาได้อย่างทั่วถึง เพื่อลดต้นทุนในการเลือกซื้อปุ๋ยในราคาแพงๆ ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งที่เกษตรกรประสบมายาวนาน โดยทางบริษัทผู้ผลิตปุ๋ยให้เครดิตเกษตรกรผู้ซื้อปุ๋ยผ่อนชำระได้ 6 เดือน
ตอนนี้ปุ๋ยไทยกรีน ได้กระจายไปสู่พี่น้องเกษตรกรทั่วภาคอีสาน ล่าสุดส่งถึงมือเกษตรกรและชาวนา จ.บึงกาฬ, จ.บุรีรัมย์ และอุดรธานี คาดว่าในเร็วๆกระจายครอบคลุมไปทั่วทุกจังหวัดในภาคอีสาน
ยิ่งในปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดข้าวอินทรีย์โลก กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตลาดยุโรปและอเมริกา ซึ่งตลาดมีความต้องการข้าวปลอดภัยจากสารเคมีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเทศไทย เป็นหนึ่งที่มีพื้นที่ทำการเกษตรอินทรีย์อยู่อันดับ 33 ของโลก และอันดับ3 ของเอเชีย มีสินค้าเกษตรที่สำคัญคือ ข้าว ผัก และผลไม้อินทรีย์ ตลาดที่ส่งออกของไทย อาทิ สหรัฐ อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์
จึงเป็นโอกาสที่ดีกับเกษตรกรไทย ที่อยากหาปุ๋ยอินทรีย์มีคุณภาพ ซึ่งปุ๋ยยี่ห้อนี้ ยังสามารถใช้ได้ทุกพื้นที่เคยทำการเกษตรใช้ปุ๋ยเคมีมาก่อนก็ได้ ไม่ต้องกังวล และที่สำคัญใช้กับไม้ผล ทั้งช่วงออกลูกแก่ ลูกอ่อน สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ อาจารย์ทัตต์เทพ โทร. 093-3506178