สมัครนายกสภาทนายความวันเเรกคึกคัก “วิเชียร” เเชมป์เก่า ประกาศชิงชัย

สมัครนายกสภาทนายความวันเเรกคึกคัก “วิเชียร” เเชมป์เก่า  ประกาศชิงชัย





Image
ad1

เปิดรับสมัครนายกสภาทนายความวันเเรกคึกคัก  3 ทีมใหญ่ลงสมัครเช้าตรู่ “วิเชียร” เเชมป์เก่า ลงสมัครด้วย ประกาศชิงชัยเพื่อ “สานงานต่อ ก่องานเพิ่ม เริ่มงานใหม่” โดยเน้น การบริหารจัดการองค์กรที่ทันสมัย การยกระดับมาตรฐานสวัสดิการแก่ทนายความทุกด้าน และการช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งสภาทนายความ (อาคารสีฟ้า) ถนนพหลโยธิน คณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ เปิดรับสมัครนายกและกรรมการสภาทนายความชุดใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2568–2571  เนื่องจากคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบัน ซึ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2565 จะครบวาระ (3ปี)การดำรงตำแหน่งในวันที่ 14 ก.ย. 2568

ทั้งนี้ได้กำหนดระยะเวลาการรับสมัครระหว่างวันที่ 20-26 พ.ค. เวลา 8.30–16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกสภาทนายความทั่วประเทศได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกผู้นำและผู้แทนที่จะเข้ามาบริหารและขับเคลื่อนองค์กรต่อไป ซึ่งจะมีการลงคะเเนนเสียงเลือกตั้งในวันที่ 24 ส.ค.2568 ที่สภาทนายความเเห่งนี้ ส่วนในต่างจังหวัดจะต้องไปเลือกตั้งตามศาลจังหวัดทั่วประเทศ

โดยวันนี้เป็นเเรกของการเปิดรับสมัคร ในช่วงเช้าวันนี้มีผู้สมัครขอรับเลือกเป็นนายกสภาทนายความ 4 รายประกอบด้วย ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความคนปัจจุบัน ,ดร.ธนพล คงเจี้ยง นายกสมาคมนิติศาสตรมหาบัณฑิตรามคำแหง ,ดร.ถวัลย์ รุยาพร อดีตนายกสภาทนายความ เเละ น.ส.เอกศจี ศรีวานิช 

โดยผลการจับสลากปรากฎว่า ดร.วิเชียร จับได้เบอร์ 3 ซึ่งทีมกรรมการได้เบอร์ 25-46  ดร.ธนพล จับได้เบอร์ 4 ซึ่งทีมกรรมการจะได้เบอร์  47-68 ดร.ถวัลย์จับได้เบอร์ 2 ซึ่งทีมกรรมการเบอร์ 3-24 เเละ น.ส.เอกศจีจับได้เบอร์ 1 ซึ่งเป็นผู้สมัครอิสระ

โดยภายหลังรับสมัครเสร็จ ดร.วิเชียร ชุบไธสง เเชมป์เก่าได้ให้สัมภาษณ์ว่า นโยบายหลักในการขับเคลื่อน 3 ปีหลังจากนี้มี 3 นโยบายด้วยกัน  1 การบริหารจัดการองค์กร 2.การบริหารให้สวัสดิการแก่ผู้ประกอบอาชีพทนายความ 3.ให้การช่วยประชาชนทางด้านกฎหมายในเชิงรุก ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาขอบคุณพี่น้องทนายความที่เคยเทคะแนนให้ตนเเละคณะสูงสุดในประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งนายกและกรรมการสภาทนายความ เกือบ1หมื่นคะเเนน ที่ผ่านมาเราได้มีการขับเคลื่อนนโยบายเสร็จสิ้นทุกอย่าง แต่มันยังมีบางนโยบายที่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องแนวทางหลักการของตน ที่จะประกาศชัดๆคือ  “สานงานต่อ ก่องานเพิ่ม เริ่มงานใหม่”

หมายถึงต้อง ทำงานต่อไป สานงานต่อ สร้างงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคณะกรรมการที่ลงรับสมัครในคราวนี้ ล้วนเป็นผู้มีความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง มีประสบการณ์การบริหารองค์กร โดยเฉพาะปีนี้เราได้เชิญสุภาพสตรี  เป็นคณะกรรมการทั้งหมด 4 คนเรียกว่าไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ เพราะมองว่าทนายความที่เป็นสุภาพสตรีมีเป็นจำนวนมาก สัดส่วนคณะกรรมการจึงจำเป็นต้องเพิ่มสุภาพสตรีซึ่งและแต่ละคนล้วนมีประสบการณ์ทั้งนั้น  สองคนเเรกเป็นกรรมการชุดปัจจุบัน  ส่วนอีกสองคนใหม่นั้น ก็เป็นประธานสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสภาทนายความจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม มีความเชื่อมั่นว่าสุภาพสตรีทั้ง4ท่าน มีสามารถช่วยขับเคลื่อน  ตามวัตถุประสงค์และนโยบาย ที่กำหนดเอาไว้

ดร.วิเชียร กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันเราก็มี อุปนายกฝ่ายวิชาการ ที่เข้มแข็งมากและเป็นที่ประจักษ์ต่อทนายความและประชาชน  3 ปีที่ผ่านมา ผลงานของเราโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิชาการ สัญจรในต่างจังหวัด  ซึ่งเราทำรวมกันแล้วน่าจะเกิน 300 ครั้ง รวมถึงโครงการทนายความพี่เลี้ยง  เราทำมา 27 รุ่นซึ่งแต่ละรุ่นประมาณเกือบ 200 คน ซึ่งเป็นที่พอใจสำหรับทนายความน้องใหม่และทนายความผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ ให้สามารถว่าความได้  เรามีอุปนายกฝ่ายต่างประเทศ  ที่มีความสามารถเรื่องของภาษาอังกฤษ  ปริญญาโทจากต่างประเทศ  ที่ผ่านมามีการทำ MOU กับหลายๆประเทศ และมีการอบรมเกี่ยวกับด้านภาษาอังกฤษ 

ส่วนคณะกรรมการท่านอื่นที่โดดเด่นมากอย่างเช่น นายสงคราม สกุลพราหมณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพที่เเม้เกษียณเเล้วเเต่ผู้บริหารธนาคารก็ยังไม่ยอมให้ออกขอให้ทำงานต่อ เนื่องมีความรู้ความสามารถในด้านกฎหมายในส่วนของการเงิน  รวมถึงอีกหลายคนที่เป็นคนคุณภาพ  เเละที่สำคัญทุกคนมีความสุจริตเป็นที่ตั้ง  มีความมุ่งมั่นร่วมกันพัฒนาองค์กรสภาทนายความ ให้เป็นที่ยอมรับให้เป็นที่ศรัทธา  ให้ดำรงไว้ในเรื่องของศักดิ์ศรี เกียรติคุณสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ

“อยากฝากถึงเพื่อนๆที่ประกอบอาชีพทนายความ  ขอให้ท่านช่วยพิจารณาเลือกผมและทีมของผมเบอร์3เข้ามาบริหารจัดการองค์กรให้เป็นรูปธรรม มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ที่เราต้องการเข้ามาบริหารองค์กร เพราะมีเรื่องสำคัญในส่วนของสวัสดิการของผู้ประกอบอาชีพทนายความ ใน 3 ปีที่ผ่านมา เราได้มอบสวัสดิการ ด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เจ็บป่วย ล้มตาย หรือได้รับภัยพิบัติ มาโดยตลอดและเราได้มีการจัดการกีฬาระดับประเทศและนานชาติอีกด้วย เเละเพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชน  ในด้านกฎหมายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการให้คำปรึกษา  การว่าต่างแก้ต่างในคดีของประชาชน ที่ผ่านมาเราทำงานในเชิงรุก  ผมเชื่อว่า เพื่อนๆอาชีพทนายความมองเห็นว่าพวกเรามีความจริงใจ  ขับเคลื่อนองค์กรต่อไป  ขอความกรุณาทุกท่านได้โปรด  ไว้วางใจให้ผมกับคณะได้กลับเข้ามา  บริหารองค์กรสภาทนายความ  เพื่อช่วยเหลือชาติและประชาชนต่อไป”
ดร.วิเชียรระบุย้ำ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับบรรยากาศในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคักมีกองเชียร์ของเเต่ละทีม มามอบดอกไม้ถือป้ายคล้องพวงมาลัยให้กำลังใจกับผู้สมัครนายกฯเเละกรรมการสภาทนายที่ตนชื่นชอบ ซึ่งวันเเรกของการรับสมัครนี้ นับว่า 3 ทีมเต็งมาสมัครกันครบ ได้เเก่ทีมดร.วิเชียร ชุบไธสง เเชมป์เก่า ทีมดร.ธนพล คงเจี้ยง เเละทีม ดร.ถวัลย์ รุยาพร

ซึ่งกระเเสทนายความตอนนี้ยังมองกันว่าเต็งหนึ่งจะยังเป็นของเเชมป์เก่า ที่นับวันเรตติ้งยิ่งดี เนื่องจากผลงานระหว่างที่ดำรงตำเเหน่งมีไว้มากมายในเรื่องการช่วยเหลือประชาชนจนสร้างชื่อเสียงให้ทนายความทั่วประเทศจนได้รับการยอมรับจากหน่วยงานต่างๆในกระบวนการยุติธรรม มอบบทบาทในเรื่องสำคัญระดับประเทศหลายๆเรื่อง รวมถึงเรื่องวิชาการเเละการจัดหาเงินทุนมาเป็นสวัสดิการทนาย เเละตัวนายกสภาทนายความเอง ยังมีภาพลักษณ์ที่มีความอดทนขยัน เเละบุคคลิกที่นอบน้อมเป็นกันเองเข้าถึงง่าย ทั้งทีมคณะกรรมการที่ลงสมัครในครั้งนี้ก็มีทั้งคนรุ่นใหม่เเละคนรุ่นระดับอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถมีชื่อเสียง

ในส่วนของดร.ธนพล ก็ถือเป็นคลื่นลูกใหม่มาเเรงที่เดินสายอบรมวิชาการจัดกิจกรรมต่างๆมาตลอดในช่วงหลายปีก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งนี้  รวมถึงยังมีคณะทำงานที่เป็นทนายความมีชื่อเสียง

ในส่วนของ ดร.ถวัลย์ รุยาพร ก็มองข้ามไม่ได้เพราะมีดีกรีเป็นอดีตนายกสภาทนายความ 2 สมัย ได้ฉายาทนายความติดดิน จากบุคลิกดังกล่าวทำให้เคยได้รับความนิยม เเละมีฐานเสียงบ้านใหญ่ในหลายจังหวัด