การประชุมด้านการวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน (กุ้ยโจว)-ไทย พร้อมพิธีลงนามเซ็นสัญญา MOU ตกลงในความร่วมมือด้วยกัน

การประชุมด้านการวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน (กุ้ยโจว)-ไทย พร้อมพิธีลงนามเซ็นสัญญา MOU ตกลงในความร่วมมือด้วยกัน





Image
ad1

ภายหลังจากผู้แทนรัฐบาลมณฑลกุ้ยโจว นำโดยนายหลู หยงเจิ้ง (Mr. Lu Yongzheng) อธิบดีกรมการโฆษณาการประจำพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลกุ้ยโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมและขยายความร่วมมือด้านไทยจีนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงมิตรภาพอันยั่งยืนระหว่างประเทศไทย-จีน กว่า 50 ปี รวมถึงยังได้เดินทางเข้าพบกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อแนะนำมณฑลกุ้ยโจว ในด้านของการเป็นเมืองท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และความเชื่อมโยงทางภูมิศาสตร์ที่สวยงามระดับโลก สำหรับขยายฐานนักท่องเที่ยวสองเมือง คือ (กุ้ยโจว)-ไทย ต่อๆ ไปอนาคต

ส่วนช่วงเวลาบ่ายของวันเดียวกันนั้น ก็ได้มีการจัดประชุมด้านการวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน (กุ้ยโจว)-ไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการนำเสนอให้เห็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอันอุดมสมบูรณ์ของมณฑลกุ้ยโจว เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างจีนและไทย ซึ่งภายในงานประชุมครั้งนี้ มีทั้งคณะผู้แทนระดับสูงจากมณฑลกุ้ยโจว, สมาคมไทยแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย และคณะผู้แทนระดับสูงจากประเทศไทยด้านการท่องเที่ยว, สายการบิน, สมาคมหอการค้าไทย จีน, สมาคมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA), สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) และสื่อมวลชนกว่า 20 สถานี เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้

โดยมี คุณเฉิน เจิ้น (Mr. Chen Zhen) รองอธิบดีกรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวมณฑลกุ้ยโจว เป็นผู้ดำเนินการประชุมฯ ดังกล่าว ซึ่งได้แบ่งวาระการประชุมออกเป็น 3 วาระ ได้แก่ 1. การกล่าวสุนทรพจน์ 2. การประชุมแลกเปลี่ยนกัน 3. พิธีลงนามเซ็นสัญญา MOU บันทึกข้อตกลงร่วมกัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันทั้ง 2 ฝ่าย ในการจะช่วยกันพัฒนาผลักดันการท่องเที่ยวทั้งสองเมือง คือ (กุ้ยโจว)-ไทย

อย่างไรก็ดี  นายหลู หยงเจิ้ง (Mr. Lu Yongzheng) อธิบดีกรมการโฆษณาการประจำพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลกุ้ยโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวสุนทรพจน์ สำหรับการประชุมฯ ครั้งนี้ ว่า ถือเป็นโอกาสมาเยือนประเทศไทยในความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ที่ครบรอบ 50 ปี ซึ่งบ่งบอกให้เห็นถึงมิตรภาพอันดีงามของทั้ง 2 ประเทศ ขณะเดียวกันก็มีวัตถุประสงค์ที่จะมาหารือความร่วมมือด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ส่งเสริมประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการขยายฐานนักท่องเที่ยวระหว่างทั้ง 2 เมือง คือ (กุ้ยโจว)-ไทย

เพราะที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ห่วงใยถึงการพัฒนามณฑลกุ้ยโจว มาตลอด ท่านถึงฝากความหวังในเรื่องนี้ว่า ประเทศจีน กับ ไทย จะสามารถช่วยกันพัฒนาคุณภาพการท่องเที่ยวของมณฑลกุ้ยโจวให้เติบโตยิ่งขึ้น เนื่องจากมณฑลกุ้ยโจวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่บรรจบกันระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมสมัยใหม่ เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพระดับโลก เป็นมณฑลที่มีมรดกโลกทางด้านธรรมชาติ มากที่สุดของประเทศจีน นอกจากนี้ยังมีงานก่อสร้างที่เรียกว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก คือ สะพานที่สูงที่สุดในโลก 625 เมตร รวมถึงมีกุ้ยโจวเหมาไถ สุราขาวที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ของโลก

ทั้งนี้ เราทราบดีว่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง มีชื่อเสียงติดระดับโลก จึงเป็นอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ของเราที่ได้นำคณะการท่องเที่ยว เดินทางมาแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องนี้กับประเทศไทย ปีที่ผ่านมา มณฑลกุ้ยโจวมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึง 8,000 ล้านคน คิดเป็นอัตราการเติบโต 10% เราจึงมีความมั่นใจว่ามณฑลกุ้ยโจว กำลังพัฒนาไปสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดดมากขึ้น เพราะปีที่แล้ว รัฐบาลจีนได้เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว สามารถเดินทางเข้ามาเข้ามาที่มณฑลกุ้ยโจว ได้ โดยฟรีวีซ่า (Free Visa) ซึ่งไม่ใช่ทุกพื้นที่ในประเทศจีนที่จะได้รับสิทธิ์พิเศษแบบนี้

ดังนั้น มณฑลกุ้ยโจวกำลังถูกพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวด้านสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม มากขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และเทคโนโลยี ซึ่งภายหลังจากการพบปะกับ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันว่า จะผลักดันการท่องเที่ยวไทยระหว่างไทยจีน ได้แก่  มณฑลกุ้ยโจว,ยูนนาน และมาเก๊า ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยที่จะมีการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างไทย-จีน หรือที่เรียกว่า ความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว แบบ 2 ทาง ในเชิงลึกด้วยกันยิ่งขึ้นต่อไป จึงเป็นที่มาของการจัดพิธีลงนามเซ็นสัญญา MOU บันทึกข้อตกลงร่วมกัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันทั้ง 2 ฝ่าย ในการจะช่วยกันพัฒนาผลักดันการท่องเที่ยวทั้ง 2 เมือง คือ (กุ้ยโจว)-ไทย ร่วมกัน

ขณะที่ นายบุญรพี ดำรงรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปัจจุบัน ททท.ยืนยันนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้แนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ Two-way Tourism พร้อมนำเสนอ Grand Festivity ภายใต้กรอบ Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2005 โดยมุ่งยกระดับนักท่องเที่ยวจากมณฑลกุ้ยโจว ให้เดินทางมาประเทศไทยมากขึ้น สำหรับการเดินทางมาครั้งนี้ของคณะผู้แทนจากสาธารณรัฐประชาชนจีน แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจีนเชื่อมั่นในศักยภาพของรัฐบาลไทย และ ททท.พร้อมให้ความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงมิตรภาพอันยั่งยืนระหว่าง 2 ประเทศ ทั้งในด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ

มร. นูร์ ฮาหมัด ฮามิค ประธานบริหาร สมาคมการท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิก (PATA) กล่าวถึง ความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ระหว่าง(กุ้ยโจว)-ไทย ครั้งนี้ ถือว่าเป็นเวทีสำคัญที่จะก่อให้เกิดการผสมผสานกัน ทั้งในด้านวัฒนธรรมและธุรกิจ ประกอบกับจะเป็นสะพานเชื่อมโยงประเทศต่างๆ เข้าด้วยกัน เพราะประเทศไทย และมณฑลกุ้ยโจว ต่างเป็นสมาชิกสำคัญของสมาคมการท่องเที่ยว ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่สมาคมไม่เพียงแต่จะส่งเสริมความร่วมมือเท่านั้น แต่จะร่วมกันพัฒนา การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ๆ อีกด้วย ในยุคที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กำลังเผชิญกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยี ความต้องการของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น

ดังนั้น พิธีลงนามเซ็นสัญญา MOU บันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่าง (กุ้ยโจว)-ไทย ครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงคำมั่นสัญญาร่วมกันของความร่วมมือ ที่จะพัฒนาโครงการท่องเที่ยวต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการสื่อสารทางวัฒนธรรม ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยกัน

ส่วน นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า กุ้ยโจวเป็นมณฑลสำคัญในภาคตะวันตกของจีน มีวัฒนธรรมและธรรมชาติสวยงาม มีกุ้ยโจวเหมาไถ สุราขาวที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ของโลก ที่ผ่านมา มณฑลกุ้ยโจว มีการพัฒนาขึ้นอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจเทคโนโลยี ดังนั้น การได้เข้ามาประชุมด้านการวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน (กุ้ยโจว)-ไทยในวันนี้ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะช่วยกันพัฒนาเพื่อจะเติบโตไปด้วยกัน ทั้งในด้านการท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระหว่าง กุ้ยโจว)-ไทย

โดย สมาคมหอการค้าไทย-จีน มีภารกิจในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ในด้านต่างๆ เช่น การค้า การลงทุน เพื่อยืนยันต่อการเป็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน เช่นเดียวกับเรื่องการท่องเที่ยวทั้ง 2 เมือง คือ (กุ้ยโจว)-ไทย ซึ่งทางสมาคมฯ จะมีการประชาสัมพันธ์ในเรื่องนี้ให้คนไทยได้รู้จักกันมากขึ้น รวมถึงเรื่องการส่งเสริมวัฒนธรรมไทย – จีน เพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศนี้ถูกพัฒนาต่อไป

นอกจากนี้ นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) กล่าวเสริมว่า มณฑลกุ้ยโจวมีชื่อเสียงในเรื่องของทรัพยากรทางด้านธรรมชาติ ยิ่งปี 2568 นี้เป็นปีครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ไทย-จีน นับว่าประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน ดังนั้นความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย ในครั้งนี้ จะส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีสีสันน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการ ฟรีวีซ่า (Free Visa) จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศนี้ ให้เติบโตได้อย่างยิ่งใหญ่

สุดท้าย คุณเฉิน เจิ้น  (Mr. Chen Zhen) รองอธิบดีกรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวมณฑลกุ้ยโจว ได้กล่าวขอบคุณทุกท่าน ที่เข้ามาร่วมประชุมด้านการวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน (กุ้ยโจว)-ไทย ครั้งนี้ จากนั้นก็เข้าสู่พิธีลงนามเซ็นสัญญา MOU บันทึกข้อตกลงเพื่อให้เกิดความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันทั้ง 2 ฝ่าย ในการจะช่วยกันพัฒนาผลักดันการท่องเที่ยวทั้งสองเมือง คือ (กุ้ยโจว)-ไทย ต่อไป