พริกราคาตก ชาวสวนเหนือระทม “พระครูอ๊อด”รับซื้อแจกชาวบ้านกว่า 20 ตัน

พริกราคาตก ชาวสวนเหนือระทม “พระครูอ๊อด”รับซื้อแจกชาวบ้านกว่า 20 ตัน





Image
ad1

พริกหยวก พริกหนุ่มราคาตกต่ำในรอบ 10 ปี ทำให้เกษตรกรภาคเหนือขาดทุนยับ ปล่อยให้ผลผลิตยืนต้นตาย จนมีการเผยแพร่คลิปในโลกโซเชียลของ “พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง” หรือ พระครูสังฆรักษ์วีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน  อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์การปกครอง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา (มมร) วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ด้วยความที่ต้องเดินทางไปรับกิจนิมนต์ญาติโยมหลายพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้เห็นความยากลำบากของเกษตรกรในปีนี้ เนื่องจากพืชผลการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะพริกหยวก พริกหนุ่ม และแตงกวา

หลายสวนที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ปลูกพริกเป็น 10 ไร่ เพิ่งเก็บผลผลิตได้เพียง 4 กระสอบ พอรู้ว่าราคาไม่ดีก็ปล่อยให้ยืนต้นตาย เพราะไม่มีคนมารับซื้อ ถ้าขายไปก็ขาดทุน เท่าที่ถามกับเกษตรกร ปีก่อนราคาพริกอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาทขึ้นไป แต่ตอนนี้ราคาตกถึงขนาดว่า พริกที่เป็นขนาดเบอร์สวยเหลือกิโลกรัมละ 5 บาท ส่วนพริกที่สวยรองลงมาเหลือกิโลกรัมละ 2 บาท เมื่อบวกกับค่าแรง ค่าปุ๋ยไม่คุ้มต้นทุน เกษตรกรเลยปล่อยให้พริกยืนต้นตาย

“พอเข้าไปคุยกับชาวสวนพริก ได้รู้ว่าเขาไม่รู้จะทำยังไง เพราะราคาตกจนมืดแปดด้าน ตอนขึ้นไปเมื่อ 4 วันก่อนมีเกษตรกรรายหนึ่งได้คุยว่า ยังไม่ทันได้เก็บผลผลิต ราคาตกก็เริ่มปล่อยทิ้ง ไม่รดน้ำใส่ปุ๋ย เมื่อรู้ว่ายังไงก็ขายไม่คุ้ม วันนั้นเลยบอกว่าขอช่วยซื้อ 500 กิโลกรัม พอเขารู้ว่าช่วยซื้อ แกก็ร้องไห้ ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่มีทางเลือก”

ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาทำสวนพริก ประกอบกับหลายคนมีหนี้สินทบมาเรื่อย โดยราคาพืชผลตกต่ำตอนนี้ มีผลกระทบใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ หลังรับซื้อพริกจากเกษตรกรมา ได้ให้ผู้นำชุมชนแต่ละพื้นที่ในเมืองเชียงใหม่ มารับเพื่อแจกให้ชาวบ้านในพื้นที่ เพราะถ้าให้ทยอยแจกจะใช้เวลานาน จนทำให้พริกเสียได้

“ชาวสวนพอเห็นพระอาจารย์ช่วยเหลือซื้อพริกมาแจก ก็เริ่มมีชาวสวนนำพริกมาถวายที่วัด 8 ตัน ทำให้ตอนนี้ต้องติดต่อผู้นำชุมชนให้มารับ มีประชาชนที่สนใจอยากนำไปรับประทาน ก็มารับกันที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่”

สิ่งที่เกษตรกรที่ปลูกพริกอยากบอกกับรัฐบาล และพระอาจารย์ได้คุยมาคือ อยากให้มีการประกันราคา ในส่วนของพืชผลการเกษตร ไม่ใช่ว่าให้เกษตรกรไปตายเอาดาบหน้า อย่างน้อยวัดขนาดใหญ่ในพื้นที่แต่ละจังหวัด สามารถช่วยญาติโยมเวลาเดือดร้อนได้ เช่น วัดที่มีกำลังอาจรับซื้อผลผลิต และกระจายให้ชุมชน

ตอนนี้มีพริกที่เกษตรกรจะมาให้รวมแล้วกว่า 20 ตัน โดยวันที่ 10 – 11 พ.ค.นี้ จะมาส่งที่วัด ประกอบกับวันที่ 10 พ.ค.นี้ มีประเพณีขึ้นดอยไหว้พระบรมธาตุดอยสุเทพ และวันที่ 11 พ.ค. นี้ เป็นวันวิสาขบูชา ชาวบ้านที่มาทำบุญจะได้พริกกลับไปรับประทาน ตอนนี้จากที่ถามชาวสวนพริก ยังมีผลผลิตอีกกว่า 100 ตัน รอเก็บเกี่ยวอยู่ในพื้นที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งยังไม่มีคนมารับซื้อ

กิจของสงฆ์กับการช่วยประชาชน เป็นหน้าที่โดยตรง ยามใดที่ชาวบ้านมีความทุกข์ เป็นเรื่องหน้าที่ของพระสงฆ์โดยตรง คำว่าเมตาธรรม ค้ำจุนโลก ความทุกข์เกิดขึ้นได้กับคนทุกประเภท ไม่ใช่แค่เกษตรกร พระสงฆ์อยู่ได้ก็เพราะอาศัยข้าวจากชาวบ้านที่ใส่บาตร เมื่อพระพึ่งพาชาวบ้าน

ดังนั้น ยามยากลำบาก ชาวบ้านก็ได้อาศัยพึ่งพาพระเช่นเดียวกัน พระเลยต้องหาทางที่ช่วยเกษตรกรให้ได้ เลยเริ่มจากญาติโยมที่อยู่ใกล้มีกำลังทรัพย์ ให้ช่วยทำบุญซื้อพืชผลการเกษตรที่ราคาตกต่ำ แล้วมาถวายที่วัด เพื่อทำการแจกจ่ายให้ชุมชน หน้าที่พระไม่ใช่บทบาทแค่เยียวยาจิตใจ แต่ต้องทำอย่างไรให้อยู่กับสังคมของโลกและสังคมของธรรม จึงเป็นทางที่ต้องคู่ขนานกัน

ถ้าเราเทกระจาดไปทางโลกมากเกินไป โดยไม่พึ่งธรรมสังคมก็อยู่ไม่ได้ แต่ถ้าเทกระจาดมาทางธรรมมากเกินไป โดยปล่อยชาวบ้านทางโลกให้เดียวดาย ไม่เหลียวแลกัน ก็เห็นแก่ตัวมากเกินไป ดังนั้นเราต้องหาทางสายกลางในการช่วยแบ่งเบากันและกัน