ทริปนี้ไม่มีเฉาเพราะเราไปกับ…ชมรมข้าราชการบำนาญ อ.บ้านแพรก


ทริปพักผ่อน นอนชิลเล่นน้ำทะเลหัวหิน ไปขอพรโชคลาภที่ วัดข่อย ชมพระราชวังบ้านปืน เข้าวัดถ้ำแจง ชมอุทยานราชภักดิ์ กราบหลวงปู่ทวดวัดห้วยมงคล ช้อปปิ้งตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม กราบไหว้สรีระหลวงพ่อแดง ทริปนี้รับรองว่าไม่มีเฉา เพราะไปกับชมรมข้าราชการบำนาญ อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันที่ 25 -27 เมษายน 2568 ชมรมข้าราชการบำนาญ อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา ได้จัดกิจกรรมประจำปี ด้วยการพาสมาชิกซึ่งล้วนแต่เป็นคนรุ่นอาวุโสโอเคไปออกทริปกระชับมิตรสานความสัมพันธ์ ณ เพชรบุรี และประจวบฯ 3 วัน 2 คืนอย่างชื่นมื่นและสุขสันต์ ก่อนจะไปเที่ยวจะพามาทำความรู้จักชมรมข้าราชการบำนาญ อ.บ้านแพรก ก่อนที่จะพาไปลั้ลล้า
ว่าที่ร้อยเอกวินัย บุญเจริญ ประธานชมรมข้าราชการบำนาญ อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยาเล่าให้ฟังว่าชมรมแห่งนี้ตั้งมาแล้ว 5 ปี มีสมาชิก 71 คน มีประธานชมรมผ่านมาแล้ว 2 คน ตนเป็นประธานคนที่ 3 ซึ่งมีวาระครั้งละ 2 ปี
“วัตถุประสงค์ก็คืออยากรวบรวมสมาชิก ที่เป็นราชการที่รับบำเหน็จ บำนาญ ให้ได้มาอยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อนด้วยกัน จุดประสงค์ก็คืออยากให้ได้มาทำกิจกรรมร่วมกันซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนท้องที่บ้านแพรก มีอะไรก็จะได้ช่วยเหลือกัน ได้ช่วยสนับสนุนท้องถิ่น”
ว่าที่ร้อยเอกวินัยบอกว่าช่วงแรก ๆ สมาชิกจะเป็นข้าราชการครูเป็นหลัก ระยะหลังก็จะมีตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจได้มาสมัครเป็นสมาชิกมากขึ้นซึ่งทางชมรมก็เปิดกว้าง
“คือจุดประสงค์ชมรมคืออยากให้ผู้มีอายุ 60 ขึ้นไปที่เกษียณราชการแล้วได้มามีกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมของชุมชน ของส่วนราชการในส่วนต้นสังกัดเดิม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมช่วยเหลือสังคมด้วย เช่นแจกทุนการศึกษาให้เด็ก ร่วมกิจกรรมสังคม ศาสนาในส่วนอื่นด้วย คือเมื่อก่อนที่จะมีชมรม เราไม่ได้รวมกลุ่มกัน มีอะไรจะช่วยเหลือมันก็จะลำบาก ตอนนี้มีอะไรก็จะง่ายขึ้น เพราะชมรมมีประชุมร่วมกันเดือนละครั้ง ตอนมาประชุมก็จะได้รู้ข่าวสาร เพราะเราก็ยังไม่ขาดจากต้นสังกัดเดิม บางคนก็ยังเป็นกรรมการอยู่หลาย ๆ หน่วยงาน มีข่าวคราวก็มาคุยกัน มีอะไรก็มาแชร์กัน"
ถ้าเป็นเรื่องความรู้ที่ผลประโยชน์ของสมาชิกก็จะมาแจ้งข่าว ชมรมเรามีความเหนียวแน่น เป็นชมรมในอำเภอเล็ก ๆ มีความผูกพัน เป็นพี่เป็นน้องกัน พอหลุดจากวงราชการก็มาร่วมมือร่วมใจกันอีก บางคนก็จะมีแม่บ้านมาเป็นสมาชิกด้วยไปไหนก็ไปด้วยกัน บางทีก็ได้งบประมาณจากหน่วยเหนือมาช่วยสนับสนุน เราก็นำมาไว้เป็นเงินกองกลาง เราจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี อย่างเป็นระบบ เพราะเรามีประธาน รองประธาน กรรมการ มีเลขา มีเหรัญญิก เรามีเงินที่เป็นกองกลางไว้ทำประโยชน์ให้แก่สมาชิก ตอนนี้มียอดกว่าแสนบาท
เวลาประชุมสมาชิกที่เกิดในเดือนนั้น ๆ เขาก็จะบริจาคให้กับชมรม ห้าร้อยบ้าง หนึ่งพันบ้าง ส่วนสมาชิกเสียค่าบำรุงปีละ 300 บาท ซึ่งทุกคนยินดีที่จะจ่ายเพราะทุกคนก็อิ่มตัวแล้วมีบำเหน็จ บำนานกินแล้ว เงินส่วนหนึ่งก็จะนำได้ช่วยเหลือสังคมเช่น มอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กในวันเด็ก”
“กิจกรรมทัศนศึกษาในครั้งนี้มันดีต่อกับคนสูงอายุ บางคนอยู่บ้านคนเดียว คนที่เป็นข้าราชการตอนทำงานก็จะมีพวก มีกลุ่มก้อน ตอนเกษียณอยู่คนเดียวมันเลยเฉา มาเที่ยวครั้งนี้มันช่วยได้ เพราะจะได้มาพบปะพูดคุยกัน ได้หัวเราะ เฮฮา เป็นการช่วยให้มีชีวิตชีวามากขึ้น นอกจากนี้ชมรมเรายังมีกลุ่มไลน์ก็จะทักทาย ถามข่าวคราว ใครเจ็บไข้ ก็ได้ไปเยี่ยมเยือนกันมันก็อบอุ่นดีและสมาชิกของเราก็จะโตขึ้นเรื่อย ๆ “ว่าที่ร้อยเอกวินัย บุญเจริญ ประธานชมรมข้าราชการบำนาญ อ.บ้านแพรกกล่าวสรุปว่า
“ใครมาทริปนี้ไม่มีเฉาแน่นอน”
สถานที่แรกของทริปคือ…
ที่ วัดข่อย วัดสวย เพชรบุรี ไปขอพรโชคลาภ ชมความงดงามของ พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฎิ ซึ่งเป็น พุทธสถานศิลป์ หนึ่งเดียวในโลก อันมีเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใคร
ขอพรโชคลาภ พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฎิ
พระธาตุฉิมพลีพระเศรษฐีนวโกฎิ ตั้งอยู่ที่ วัดข่อย ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เป็นศาสนสถานที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมที่งดงาม สร้างขึ้นโดยการนำศิลปะชั้นสูงของช่างสิบหมู่มาใช้ในการสร้าง ที่นี่จึงมีความงดงามที่อ่อนช้อยไม่เหมือนที่อื่น ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ทำให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับมากราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล
พระรามราชนิเวศน์ พระราชวังบ้านปืน จ.เพชรบุรี
พระรามราชนิเวศน์ พระราชวังบ้านปืน เป็นพระตำหนักที่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (พระปิยมหาราช) ทรงให้สร้างเป็นที่ประทับในการเสด็จประพาสจังหวัดเพชรบุรี ปี พ.ศ.2453 โดยพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ (พระยศขณะนั้น) ทรงคุมการก่อสร้าง รัชกาลที่ 5 ทรงต้องการพระตำหนักแบบโมเดิร์นสไตล์ พระองค์ทรงมอบหมายให้ นายคาร์ล ซีกฟรีด เดอห์ริง ชาวเยอรมัน เป็นสถาปนิกออกแบบการก่อสร้าง ใช้เวลาการก่อสร้าง 7 ปี เสร็จในปี พ.ศ.2459 เชิญท่านเข้าชม ความสวยงาม ภายในอาคาร จะพบห้องโถงกลมขนาดใหญ่สวยแปลกตา ตามโมเดิร์นสไตล์ยุโรป
ต่อด้วยวัดถ้ำแจง ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
เดิมเป็นเพียงสำนักสงฆ์ในปี 2517 และได้รับการยกฐานะเป็นวัดในปี 2553 ท่านพระมหา ดร.วิชัย เตชธมโม เจ้าอาวาสวัดถ้ำแจง ได้ดำเนินการก่อสร้างองค์พญานาคนามว่า พ่อปู่พญาศรีเพชรคีรี มหามุนี ศรีสุทโธนาคราช เป็องค์พญานาคที่ขนาดใหญ่ มีสีสันสวยงามด้วยความสูง 31 เมตร ยาว 227 เมตร สร้างตามนิมิตของพระมหา ดร.วิชัย เชิญท่านกราบสักการะองค์พญาศรีเพชรคีรี มหามุนี ศรีสุทโธนาคราช เชิญลอดท้องพญาศรีเพชรคีรี มีช่องลอดถึง 9 ช่อง เพื่อเสริมดวงและความเป็นสิริมงคล
ช่วงค่ำๆแวะเดินเที่ยวชมถนนคนเดินหัวหิน ชมบรรยากาศ การค้าขาย มีร้านค้าต่าง ๆ มากมาย
จบวันแรกด้วยการมานอนชิลริมทะเลที่อาคารที่พักสวัสดิการ ทอ. บ่อ
ฝ้าย ต.หัวหิน อ.หัวหิน
จ.ประจวบคีรีขันธ์
รุ่งขึ้นเช้าวันต่อมาเริ่มต้นด้วยที่อุทยานราชภักดิ์ ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ไทยในอดีต 7 พระองค์
1. พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
2. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
3. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
4. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
5. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
6. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยามหาราช
7. พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราชพระบรมราชานุสาวรีย์ รูปหล่อด้วยสำริดขนาด สูง 13.9 เมตร
ตั้งในพื้นที่กองทัพบกโดยใช้พื้นที่รวม 222 ไร่ ประกอบด้วย 3 ส่วน
1.พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์ไทย
2.ลานอเนกประสงค์
3.อาคารพิพิธภัณฑ์ หรือ ห้องจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์
ตามด้วยการมาช้อปปิ้งที่ ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ชมบรรยากาศ ตลาดน้ำแบบย้อนยุคในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ชม ร้านค้า ตกแต่งย้อนยุคร่วมสมัยที่สวยงาม เชิญชม สินค้าแฮนด์เมด ต่าง ๆ ร้านเสื้อผ้า, ร้านของใช้,ร้านของเล่นโบราณ,ร้านอาหารหลากหลาย ฯลฯ
ต่อด้วยการมาไหว้พระที่ วัดห้วยมงคล ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
กราบสักการะ รูปเหมือน หลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก มีหน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร พร้อมสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ ไอ้ไข่ องค์จำลองจาก วัดไอ้ไข่ จ.นครศรีธรรราช
จบวันด้วยอาหารอร่อย ๆ ณ ร้านอาหารบ่อฝ้ายชายทะเล พร้อมสังสรรค์ ร้องเพลง คาราโอเกะ
ปิดท้ายทริปด้วย …วัดเขาบันไดอิฐ ต.ไร่ส้ม อ.เมือง จ.เพชรบุรี
ซึ่งเป็นศาสนสถาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย มีการศึกษาค้นคว้าทางโบราณคดี พบหลงเหลือในยุคกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง มีความสวยงามด้วยลวดลายปูนปั้นลายกนก เปลวพลิ้วล้อมรูปครุฑ และ มีถ้ำประทุน ถ้ำพระเจ้าเสือ ถ้ำพระพุทธไสยาสน์ และ ตำนานการสร้างวิหารเมียน้อย โบสถ์เมียหลวง พร้อม นำท่านกราบสรีระ หลวงพ่อแดง รัตโต (พระครูญาณวิลาศ) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ เกจิดัง จ.เพชรบุรีพระเถราจาย์ ผู้มีพุทธาคมเข้มขลัง พลังจิตแก่กล้า ด้านการวิปัสสนา ปลงกัมมัฎฐาน หลวงพ่อแดง ท่านมรณภาพด้วยโรคชรา อายุ 96 ปีพรรษา 74 ก่อนมรณภาพ ท่านสั่งว่า เมื่อฉันหมดลมหายใจ อย่าเผา ให้เก็บร่างฉันไว้ที่หอสวดมนต์ กราบไหว้สรีระหลวงพ่อแดง