เล่าขานตำนาน! 'ลิ้นจี่'แม่กลอง ขึ้นชื่อพันธุ์ค่อมลำเจียก ต้นแบบมาจากจีน

เล่าขานตำนาน! 'ลิ้นจี่'แม่กลอง ขึ้นชื่อพันธุ์ค่อมลำเจียก ต้นแบบมาจากจีน





Image
ad1

'ยอดลิ้นจี่' คือลิ้นจี่ที่ดีที่สุดในจังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อมีคำถามตามมาว่า ลิ้นจี่มีหลายสายพันธุ์ในประเทศไทย และสายพันธุ์อะไรที่ดีที่สุด อร่อยที่สุดและราคาแพงที่สุด เป็นที่นิยมมากที่สุด นั่นก็คือลิ้นจี่สายพันธุ์อีค่อมลำเจียกหรือค่อมลำเจียก ซึ่งลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่ติดพื้นที่ในประเทศไทยมานานมาก จนเป็นผลไม้ประจำถิ่นหลายพื้นที่ เช่น สมุทรสงคราม เชียงใหม่ เชียงราย แต่ละจังหวัดต่างสายพันธุ์กัน

โดยลิ้นจี่ ที่ปลูกในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน เป็นลิ้นที่สายพันธุ์กระโหลกเมล็ดใหญ่ น้ำเยอะ หอมหวาน ไม่มีรสฝาดและเปรี้ยว แต่หวานอย่างเดียว เหมาะสำหรับแปรรูปเป็น น้ำผลไม้คั้นจากลิ้นจี่หรือน้ำปั่นลิ้นจี่ ไอศกรีม ลูกอม กลิ่นลิ้นจี่ และลิ้นจี่กระป๋อง 


ส่วนลิ้นจี่สายพันธุ์ที่นิยมปลูกในจังหวัดสมุทรสงคราม เน้นไปที่อำเภออัมพวาและบางคนที เพราะเป็นพื้นที่น้ำจืดผสมกับน้ำกร่อย ดินจืด ดินไม่เปรี้ยว ไม่เค็ม ส่วนอำเภอเมือง เป็นพื้นที่น้ำกร่อยมากและน้ำเค็มจัด ไม่เหมาะสมกับการปลูกลิ้นจี่ทุกสายพันธุ์ไทย และส้มโอขาวใหญ่ มะพร้าวอ่อนน้ำหอม เป็นต้น

แต่เดิมลิ้นจี่ที่ปลูกในจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นลิ้นจี่พันธุ์ไทย พันธุ์กะโหลก ฯลฯ ยังไม่มีสายพันธุ์อื่นๆเข้ามา จนมีชาวจีนขนสินค้ามาจากเมืองจีน มาส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยสินค้า ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องถ้วยลายคามเครื่องเบญจรงค์ ชามหรือจานตราไก่ กาต้มน้ำร้อน สินค้าส่วนใหญ่เกี่ยวกับเครื่องครัวและชุดรับแขกบ้านแขกเมือง ชุดถวายพระสงฆ์ในการเดินทางมาจากเมืองจีนมาทางเรือเดินทะเล

สินค้าจะใช้เวลาในการเดินทางหลายวันบางครั้งถึง 1 เดือนขึ้นไป ชาวจีนนิยมนำพืชผักผลไม้ เต้าหู้ยี้ กระเทียมดองกุนเชียง ผลไม้ที่นำมาจากเมืองจีนจึงเป็นผลไม้ที่สุดยอดแล้ว ไม่เอามะพร้าวมาขายสวนเพราะเมืองไทยผลไม้อร่อยอยู่แล้ว ลิ้นจี่ที่นำมาคือลิ้นจี่ สายพันธุ์อีค่อมพันธุ์สำเภาทอง และพันธุ์จีนที่เป็นหนึ่งในประเทศจีน จึงจะนำมาจำหน่ายให้กับประเทศไทย สมัยกรุงลานนา กรุงสุโขทัย และกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ที่ยังติดต่อค้าขายกับชาวจีนที่เรือสำเภาที่เดินทางทะเล มาซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินค้าทางการเกษตรกัน ที่บริเวณปากอ่าวไทย ผลไม้จากประเทศจีน ที่นำมาเป็นหลักใหญ่คือลิ้นจี่ เพราะลิ้นจี่สามารถปลูกในจังหวัดสมุทรสงครามได้ดี กว่าผลไม้ชนิดอื่นๆที่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก

จึงเป็นที่มาของลิ้นจี่พันธุ์ค่อมลำเจียก ความจริงมาจากประเทศจีนไม่มีชื่อกำกับ แต่คนไทยตั้งชื่อให้ เช่น ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม เพราะคนไทยเห็นว่าเป็นผลไม้ที่เตี้ยไม่สูงจึงเรียกว่า ลิ้นจี่อีค่อม ผู้นำมาปลูก ชื่อลำเจียก จึงเรียกกันว่าอีค่อมลำเจียก ต่อมาคำว่า “อี” เป็นคำหยาบหากใช้เรียกขานกัน จึงเปลี่ยนมาเป็นพันธุ์ค่อมลำเจียก

โดยลิ้นจี่พันธุ์ค่อมลำเจียก เป็นลิ้นจี่อร่อย มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมกันมากราคาสูง ลักษณะเด่นคือเนื้อในลิ้นจี่ แห้ง กรอบ เมล็ดเล็ก มีกลิ่นหอมหวานออกรสเปรี้ยวนิดๆ ฝาดหน่อยๆ เมื่อผลผลิตแก่จัดจะเปลี่ยนสีแดงเป็น แดงเข้มจะหวานจัด ขนาดมดยังชอบกินและติดใจลิ้นจี่พันธุ์ค่อมลำเจียก จึงเป็นลิ้นจี่ที่นิยมปลูกกัน เพราะรสชาติดี มีราคาดีซื้อง่ายขายคล่อง 

ส่วนลิ้นจี่ พันธ์สำเภาทองลักษณะผลใหญ่ ใกล้เคียงกับผลมะนาวที่แก่สุดไม่ดก จะติดดอกออกช่อไม่เกินกิ่งละ 5-6 ลูก ส่วนใหญ่จะเป็นสายเดี่ยว มากกว่าสายคู่ราคาสูงกว่าลิ้นจี่ชนิดอื่นๆ เพราะผลใหญ่ดีมีกลิ่นหอมหวาน เช่นเดียวกับพันธุ์ค่อมไม่นิยมปลูก เพราะให้ผลผลิตน้อยต่อปี ผลก็ไม่ดกลำต้นสูงเร็ว เก็บผลผลิตยาก

สำหรับลิ้นจี่พันธุ์อื่นๆ เช่น พันธุ์ไทย พันธุ์จีนพันธุ์กะโหลก เป็นที่ลิ้นจี่เกิดจากการผสมพันธุ์แบบพันธุ์ทาง เอาพันธุ์ต่างมาตัดต่อพันธุกรรม ด้วยความเข้าใจว่าจะทำให้รสชาติดีขึ้นไปอีก แต่ล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ไม่โค่นทิ้ง แม้ทานสดๆไม่อร่อยจึงส่งไปแปรรูป ในโรงงานผลิตผลไม้กระป๋องและผลไม้แช่อิ่ม

ส่วนลิ้นจี่กะเทย หมายถึงลิ้นจี่ ที่ไม่สมบูรณ์ขาดอากาศหนาวเย็น ขาดน้ำ ภัยแล้ง จึงส่งผลให้ผลเล็ก ไม่มีเมล็ด จึงเรียกกันว่าลิ้นจี่กะเทย เหมาะสำหรับทำน้ำผลไม้กลิ่นลิ้นจี่หรือผลิตลิ้นจี่กระป๋อง เพราะจำหน่ายขายสดๆไม่ได้ ราคาจึงต้องใช้แปรรูป เช่น ตากแห้ง 

คอลิ้นจี้ห้ามพลาดกับเทศกาลลิ้นจี่พันธุ์ค่อมและของดีสมุทรสงคราม ครั้งที่ 2 ระหว่างวันนี้ - 1 พฤษภาคม 2568 ณ วัดบางเกาะเทพศักดิ์ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

สรุปแล้วลิ้นจี่ที่อร่อยที่สุดของสมุทรสงคราม คือลิ้นจี่พันธุ์อีค่อมหรือค่อมลำเจียก ส่วนลิ้นจี่พันธุ์อื่นๆ เหมาะสำหรับทานเล่นนำมาแปรรูปเป็นอาหารอย่างอื่นๆ เช่น เชื่อมนำตาลทราย เชื่อมตากแห้ง และคั้นเป็นน้ำผลไม้ที่ใช้กลิ่น

ลิ้นจี่พันธุ์ค่อมลำเจียก จึงเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่ต้องการซื้อกิน เพราะรสชาติอร่อย ราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 200 -250 บาท ในขณะนี้จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดตลาดจำหน่ายลิ้นจี่ 2 แห่ง คือที่วัดบางเกาะเทพศักดิ์ ต.แควอ้อม อ.อัมพวา และที่วัดอินทาราม เส้นทางเดียวกันเพียงแต่ถึงวัดบางเกาะเทพศักดิ์ ถึงก่อนเท่านั้น หรือจะเข้าสวนผ่านสวนลิ้นจี่ สวนส้มโอ สวนมะพร้าวอ่อนน้ำหอม เพราะสองข้างทาง จะมีชาวสวนจำหน่ายเอง หรือเรียกกันว่า ขายตรงแวะซื้อได้ทันที เลือกซื้อเลือกกินตามความชอบใจได้เลย

คอลิ้นจี้ห้ามพลาดกับเทศกาลลิ้นจี่พันธุ์ค่อมและของดีสมุทรสงคราม ครั้งที่ 2 ระหว่างวันนี้ - 1 พฤษภาคม 2568 ณ วัดบางเกาะเทพศักดิ์ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม