หนีกรุง...นั่งรับลม ชมวิว ดูชีวิตประมงพื้นบ้าน ที่ “แหลมนก” ปัตตานี


ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ ส่งท้ายเดือนเมษายน ถ้าเดินทางมายังด้ามขวานทอง “ปัตตานี” ช่วงนี้อาจเจอฝน เจออากาศร้อนตับแตก ซึ่งต่างกับกรุงเทพฯจะร้อนระอุ แต่ภาคใต้ตอนล่าง บางวันยังพอมีลม มรสุมพัดผ่านบ้าง ส่งผลให้ฝนตกหนัก บางวันอาจเจอหมอกยามเช้า เหมือนเที่ยวสามฤดูครบเครื่อง อย่างน้อยพอที่สร้างความชุ่มฉ่ำให้กับชีวิต ยางที่หนีร้อนจากเมืองกรุง
เพราะว่าปัตตานี เป็นจังหวัดติดกับทะเลฝั่งอ่าวไทย มีลมพัดผ่าน เย็นสบายในยางเย็น นั่งชมมทิวทัศน์ทะเล พระเอาทิตย์ตก บริเวณแหลมนก ที่งดงาม ดั่งเทพนิยาย ซึ่งพื้นที่อยู่ติดอ.เมือง ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่ถึงชั่วโมงจะถึงหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้าน เห็นวิถีชีวิตชุมชนสองข้างทาง ชาวบ้านกำลังทำนาเกลือ บางแห่งมีอาหารทะเลสดๆขายริมข้างทาง นำมาจากชาวประมงที่จับปลามาได้ส่งขายให้พ่อค้า แม่ค้าประจำวัน
ซึ่งตรงนี้นักท่องเที่ยวจะหยุดรถแวะซื้ออาหารแห้งจากทะเลไปฝากคนทางบ้าน ช่วงนี้มีเพื่อนบ้านชาวมาเลย์เดินทางมาเที่ยวกันเยอะ จะแวะซื้อของติดไม่ติดมือ ราคาไม่สูงมาก ข้อดีของอาหารทะเลสดๆ ฝีมือชาวประมง อย่างปลาหมึก ปลาอินทรีย์จะขึ้นชื่อมากที่มีจากแหล่งทะเลปัตตานี
กลับมาที่ “แหลมนก” ตั้งอยู่ในโลเกชั่นที่สวยงาม บริเวณปากอ่าวปัตตานี ถ้ามองไปอีกฝั่ง จะเห็นพื้นที่ส่วนที่ยืนออกมาจากทะเลงดงาม หรือที่เรียกกันว่า “แหลม” บริเวณรอบสถานที่ท่องเที่ยวแหลมนก จะมีชุมชนชาวประมง ตากปลาหมึกแห้ง ปลาแห้งเรียงราย ส่งกลิ่นหอม ชวนชิมให้นักท่องเที่ยวไม่น้อย
เนื่องจากบริเวณรอบพื้นที่ดังกล่าว ชาวบ้านมีการทำประมงหลายรูปแบบ อาทิ ประมงพื้นบ้าน บริเวณชายฝั่ง การประมงทะเลน้ำลึก จะนิยมใช้เรือหาปลาขนาดใหญ่ บางคนทำการเพาะเลี้ยงหอยแครง เนื่องจากว่าปัตตานีขึ้นชื่อเรื่อง “หอยแครงตัวขนาดใหญ่” ชาวบ้านนิยมซื้อนำมาลวกจิ้ม ไว้บริการเพื่อนๆรับประทานกัน ส่วนหอยแครงธรรมธรรมชาติจะอาศัยอยู่ป่าชายเลน เนื่องจากทะเลอ่าวไทย ลักษณะพื้นที่ต่างจากชายฝั่งอันดามัน ทะเลจะเป็นโคลน เหมาะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหอยแครง หอยแมลงภู่ ปูดำ และปลาหมึก
ถ้าสังเกตดู ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆแหลมนก จะยึดอาชีพทำการประมงเป็นส่วนใหญ่ การแปรรูปผลิตภัณฑ์สินค้าจากประมง จนกลายเป็นสินค้าโอทอปที่ขึ้นชื่อของจังหวัด บางคนส่งสินค้าให้พ่อค้าคนกลางนำไปขายต่อ บางคนจะนำสินค้าแปรรูปมาออกงานขายตามงานมหกรรมสินค้า รวมทั้ง ส่งออกไปยังตลาดตะวันออกกลาง ส่วนใหญ่มาจากแหล่งแหลมนก จนสามารถสร้างรายได้เลี้ยงปากท้อง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนในท้องถิ่น
มาเที่ยว “แหลมนก” อยากแนะนำช่วงแดดร่ม ลมตก เย็นๆอากาศจะดีมาก บริเวณชายฝั่งจะมีลานนกกระยาง มาบินช่วงเย็นๆให้นักท่องเที่ยวชมกัน นอกจากนี้ ยังมีฝูงนกนานาพันธุ์ จึงเป็นที่มาเรียกชื่อว่า “แหลมนก” บริเวณริมชายฝั่ง จะลานกว้าง ศาลาพักใจ และสะพานลอยน้ำ (คล้ายทุ่น) ที่ทอดยาวลงไปในทะเล เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินเล่น ถ่ายรูปสวยสวยกัน
ใครที่ชอบผจญภัย อยากสัมผัสทะเล จะมีเรือหางยาว คอยบริการนักท่องเที่ยว ล่องเรือชมทัศนียภาพรอบๆพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะมีเสื้อชูชีพให้บริการกับนักท่องเที่ยวด้วย หรือมานั่งพักผ่อน ทานอาหารพื้นเมือง มีห้องอาหารมาบริการนักท่องเที่ยวริมชายฝั่ง นั่งกินลม ชมวิว ชมทะเลอ่าวไทยได้บรรยากาศไปอีกแบบ