ปราจีนบุรีเตรียมจัดแรลลี่ 4จว. ตะวันออก เส้นทางทวาราวดี - ขอม กระตุ้นท่องเที่ยว

0 23

ปราจีนบุรี –แถลงแรลลี่ 4จว. ตะวันออก เส้นทางทวาราวดี - ขอม ตามรอยอารยะธรรมโบราณ" นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวัฒนธรรมและอาหารพื้นเมือง เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม ร่วมสนุกกับกิจกรรมสุดมันส์ และ ลุ้นรับของรางวัลมากมาย พิเศษ! ร่วมคอนเสิร์ตจาก “เป้ MVL”จัดขึ้นวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2568 เข้าร่วมฟรี!

เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ 18 เมษายน2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี ณ ลานเอนกประสงค์ หน้าศูนย์อาหาร ชั้น 2 ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ปราจีนบุรี ตำบลดงพระราม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรีนางจารุณี กาวิล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ "แรลลี่เส้นทางทวาราวดี - ขอม ตามรอยอารยะธรรมโบราณ"

ภายใต้โครงการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์ กลุ่มอารยะธรรมทวาราวดี - ขอม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จัดโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับหน่วยงานวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครนายก สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี

ผู้ร่วมแถลงประกอบด้วย นางจารุณี กาวิล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี , นางสาวสุภาวดี อินทรประเสริฐ ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี . นางสุมลฑา เจริญศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี และ นางวันดี เผื่อนอุดม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก

โดยกล่าวสรุปความว่า ... กิจกรรม “Cultural Road Trip: แรลลี่เส้นทางทวาราวดี-ขอม” เป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว และประชาสัมพันธ์แหล่งอารยะธรรม รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงสร่างจิตสำนึกภูมิใจวัฒนธรรมในพื้นที่ เป็นการเดินทางลงพื้นที่จริงที่สุดพิเศษ ที่พานักท่องเที่ยวย้อนเวลากลับไปสัมผัสเสน่ห์แห่งอารยะธรรมโบราณ! ในภาคตะวันออก 4 จังหวัด กิจกรรมแรลลี่ 2 วัน 1 คืน ในเส้นทาง จ.นครนายก – จ.ปราจีนบุรี – จ.สระแก้ว – จ.จันทบุรี

ซึ่งจะได้พาสำรวจโบราณสถาน และ เมืองเก่าใน 4 จังหวัดภาคตะวันออก ประกอบด้วย จ.นครนายก ที่กลุ่มโบราณสถานดงละคร ที่ในอดีตถูกเรียกว่า เมืองลับแล มีการขุดค้นพบซากเมืองเก่า บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ที่มาของคำว่า ดงละคร เชื่อว่าเพี้ยนมาจากคำว่า ดงนคร หมายถึง เมืองซึ่งอยู่กลางป่า แต่ตามตำนานก็เพราะสมัยก่อนชาวบ้านมักได้ยินเสียงเพลงมโหรี คล้ายมีการแสดงละคร

ในเมืองโบราณดงละคร ภายในมีคูน้ำ และคันดิน เป็นแนวกำแพงเมือง หรือสันคูเมือง รูปวงรีล้อมรอบ มีด้วยกัน 2 ชั้น ได้แก่ ชั้นนอก และชั้นใน ทางด้านตะวันออก เรียกว่า หนองกระพ้อ มีประตูทางเข้าเมือง และสระน้ำอยู่ทั้งสี่ทิศ ได้ขุดค้นพบโบราณวัตถุ อาทิ เศษภาชนะดินเผา ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหิน เบี้ยดินเผา และเศียรพระพุทธรูปกะไหล่ทอง

ที่ จ.ปราจีนบุรี กลุ่มโบราณสถานวัดสระมรกต ซึ่ง "โบราณสถานสระมรกต" ตั้งอยู่ในเขตอำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ประกอบด้วยรอยพระพุทธบาทคู่ ซึ่งสลักลงไปในพื้นศิลาแลงธรรมชาติลักษณะเหมือนจริง เป็นรอยพระพุทธบาทเก่าแก่ที่สุดในเมืองไทย อายุราวพุทธศตวรรษที่ 11-13 และ กลุ่มอาคารพุทธศาสนามหายาน มีแผนผังแบบเดียวกับอโรคยศาลาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สร้างทับของเดิมราวพุทธศตวรรษที่ 17-18

ที่ จ.สระแก้ว อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม ซึ่งปราสาทสด๊กก๊อกธม สร้างขึ้นเมื่อปี 1595 ตามพระราชบัญชาของพระเจ้าอุทยาทิตยวรมันที่ 2 กษัตริย์เขมร เพื่อพระราชทานแด่ “พระกัมรเตงอัญศรีชเยนทรวรมัน” พระราชครูของพระองค์ เดิมชาวบ้านเรียกว่า ปราสาทเมืองพร้าว ต่อมาเรียกชื่อเป็นภาษาเขมรว่า “สด๊กก๊อกธม” แปลว่า รกไปด้วยต้นกกขนาดใหญ่ ต่อมาปี 2463 ร้อยตำรวจเอกหลวงชาญนิคม (ทอง จันทรศร) สำรวจโบราณสถานพบว่า เดิมชาวบ้านเรียกว่า “ปราสาทเมืองพร้าว” เนื่องจากมีผู้พลัดหลงเข้าไปในบริเวณปราสาท พบสวนมะพร้าวในพื้นที่ ทั้งที่ปราสาทในช่วงเวลานั้นเป็นป่ารก.

และที่ จ.จันทบุรี โบราณสถานเมืองเพนียด วัดทองทั่ว โดย เมืองเพนียด มีลักษณะเป็นเนินดินรูปสี่เหลียมผืนผ้า กำแพงก่อด้วยศิลาแลงขนาดกว้าง 16 ม. ยาว 26 ม. สูง 3 ม. ภายในเมืองมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และยังเชื่อว่า สถานที่แห่งนี้แต่เดิมเป็นเมืองคล้องช้างหรือขังช้าง ต่อมาได้ย้ายเมืองมาตั้งถิ่นฐานบริเวณบ้านหัววัง ต.พุงทะลาย เมืองเพนียดจึงถูกปล่อยให้เป็นเมืองร้าง แต่เนื่องจากเมืองพุงทะลายมีทำเลที่ไม่เหมาะมีน้ำท่วมเป็นประจำ จึงมีการย้ายเมืองไปยังบ้านลุ่ม ริมแม่น้ำจันทบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวเมืองในปัจจุบัน …

ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวัฒนธรรมและอาหารพื้นเมือง เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม ร่วมสนุกกับกิจกรรมสุดมันส์ และลุ้นรับของรางวัลมากมาย พิเศษ! ร่วมคอนเสิร์ตจาก “เป้ MVL”จัดขึ้นวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2568 เข้าร่วมฟรี! (ไม่รวมค่าน้ำมันเชื้อเพลิง)

เปิดรับสมัครจำนวนจำกัด รถยนต์และรถจักรยานยนต์ (คันละไม่เกิน 2 ท่าน) เปิดรับสมัคร 5 - 20 เมษายน 2568