กลุ่มคนจีนกว่า 20 คนร้อง ถูกหลอกให้ซื้อคอนโด-วิลลาหรู สูญเงินกว่า 100 ล้าน

กลุ่มคนจีนกว่า 20 คนร้อง ถูกหลอกให้ซื้อคอนโด-วิลลาหรู สูญเงินกว่า 100 ล้าน





Image
ad1

กลุ่มคนจีนกว่า 20 คนร้อง ถูกหลอกให้ซื้อคอนโดและวิลล่าหรู จ.ภูเก็ต สูญเงินกว่า 100 ล้านผ่านมาเกือบ 10 ปียังสร้างไม่เสร็จ

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 เวลา 12.00 น. ที่สำนักงานทนายรัชพล ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี  Mr.Toy อายุ 32 ปี ชาวจีน นักศึกษามหาลัยในประเทศไทย (ล่าม) และ Ms.Tang อายุ 48 ปี ชาวจีนตัวแทนผู้เสียหาย  พร้อมด้วยผู้เสียหายชาวจีนอึกประมาณ 10 คน  เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต มาร้องเรียนและปรึกษาข้อกฏหมายกรณีจ่ายเงินจองคอนโดและวิลล่าชื่อดัง 4 แห่ง ที่จ.ภูเก็ต ผ่านมาเป็นเกือบปี บริษัทเจ้าของโครงการไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้ สูญเงินประมาณ 100 ล้านบาท รวมผู้เสียหายกว่า 20 ราย  

โดยผู้เสียหายทั้งหมดประมาณ 20 ราย ได้ส่งหลักฐานให้ตัวแทนเดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียน กรณีซื้อห้องชุด และวิลล่า รวม 4 แห่ง  ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ใน จ.ภูเก็ต โดยเริ่มซื้อตั้งแต่ปี 2016 ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ก่อสร้างแล้วเสร็จเพียง 1 โครงการคือ โครงการที่ 1 ซึ่งสร้างเป็นรูปแบบห้องชุด และเปิดดำเนินการให้คนเช่าอยู่ ได้รับเงินปันผล 7 % ระยะเวลา 3 ปี จากนั้นทางโครงการอ้างว่าขาดทุนจึงหยุดให้เงินปันผล ส่วนโครงการอื่นอีก 3 โครงการ หยุดการก่อสร้าง ผู้เสียหายทั้งหมดสูญเงินกันคนละประมาณ 10 กว่าล้าน จึงได้มีการต้อต่อสอบถามมายังเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของบริษัทโครงการแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จากนั้นได้ทำการสืบจนทราบว่ามีการเปลี่ยนบริษัทในการขายใหม่ จึงได้รับคำตอบว่าไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ ทำให้ผู้เสียหายเดินทางมาจากประเทศจีนเพื่อดำเนินการทางกฏหมาย เนื่องจากคิดว่าถูกโกง และต้องการได้เงินทั้งหมดคืน

จากการสอบถามผู้เสียหายผ่าน Mr.Toy  ล่ามที่มาช่วยแปล ทราบว่า ผู้เสียหายทั้งหมดได้ส่งเรื่องร้องเรียนมาประมาณ 20 คน ที่ซื้อที่พักใน อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยส่วนใหญ่โอนเงินครบหมดแล้ว แต่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ และบางโครงการยังไม่ได้ก่อสร้าง รวมความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ไม่ได้มาร่วมลงชื่อ ซึ่งทั้งหมดมี 4 โครงการ  ส่วนใหญ่ผู้เสียจ่ายเงินหมดแล้ว เนื่องจากโครงการแรกสร้างเสร็จและมีการจ่ายเงินปันผลให้ ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือจึงจ่ายเงินซื้อโครงการอื่นต่อมา แต่ปรากฏว่าโครงการอีก 3 แห่งยังสร้างไม่เสร็จ โดยเริ่มเข้ามาซื้อตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งทั้ง 4 โครงการจนถึงปัจจุบันผู้เสียหายยังไม่ได้รับมอบกรรมสิทธิ์เลยแม้แต่โครงการเดียว ซึ่งติดต่อโครงการไปได้รับคำตอบว่าไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้ได้ จึงสงสัยในข้อกฏหมาย 

Mr.Toy กล่าวต่อว่า เมื่อปี 2023 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่บริษัทใหญ่เจ้าของโครงการว่าทำไมยังไม่ส่งมอบกรรมสิทธิ์  คำตอบที่ได้คือไม่สามารถสร้างเสร็จได้จะให้เซ็นสัญญาใหม่ขยายระยะเวลาออกไปถึงปี 2024 และถ้าถึงกำหนดไม่สามารถส่งมอบบ้านและอาคารชุดทั้ง 4 แห่งได้ทางบริษัทยินดีที่จะคืนเงินให้ผู้เสียหาย ซึ่งปีนี้ 2025 ทางบริษัทเดิมได้เปลี่ยนบริษัทใหม่ทำแทน โดยจะให้เซ็นสัญญาใหม่แทน้ป็นการกำหนดเวลาคืนเงินภานใน 7 ปี หรือจะเอาบ้านและอาคารชุดอื่นที่เสร็จแล้วมาสลับกับโครงการที่เหลือให้ แต่บ้านและอาคารที่เอามาสลับก็ไม่สามาถโอนกรรมสิทธิ์ได้เช่นกัน

ซึ่งผู้เสียหายคิดว่าสัญญาใหม่เป็นการยืดระยะเวลาของบริษัทเท่านั้น ทางผู้เสียหายรู้สึกว่าถูกโกง ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อพนักงานขายชุดแรกได้แล้ว ให้ติดต่อบริษัทใหม่มาประสานงานแทน ผู้เสียหายรู้สึกว่าเหมือนถูกโกง โดยทั้ง 4 โครงการที่มาซื้อรวมเวลามากกว่า 7 ปี ไม่โอนกรรมสิทธิ์ ยังมีการเปลี่ยนบริษัทใหม่มาทำแทน ทำให้ผู้เสียกลัวว่าคนที่จะมาซื้อจากบริษัทใหม่อาจถูกโกงเหมือนผู้เสียหายอีก ซึ่งผู้เสียหายทั้งหมด 20 รายนี้อยากได้เงินของพวกเขาคืนทั้งหมด 

ด้านทนายรัชพล ศิริสาคร กล่าวว่า จากการพูดคุยพบว่าผู้เสียหายแต่ละคนไม่เหมือนกันต้อฃดูเป็นรายคนไป จะเข้าข่ายฉ้อโกงหรือไม่บางส่วนยังไม่แน่ใจว่าบริษัทมีเจตนาจะสร้างหรือไม่ อาจผิดสัญญาทางแพ่ง ซึ่งต้องให้ผู้เสียกายไปร้องที่ สคบ. เบื้องต้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะดำเนินการในเรื่องฉ้อโกง ส่วนบางโครงการที่เป็นวิลล่าที่คนต่างชาติไม่สามารถซื้อได้ ต้องตรวจสอบสัญญาอีกทีว่าเป็นอย่างไร อาตจะเป็นการซื้อสิทธิ์ในการเช่ามากกว่า คาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท ต้องรอตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง 

เบื้องต้นทางตัวแทนและผู้เสียหายจะเดินทางเข้ายื่นเรื่องต่อ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ตรวจสอบโครงการทั้ง 4 แห่ง และให้เร่งดำเนินการตามกฏหมายต่อไป