ตำรวจบุกรวบแม่ค้าร้านเสื้อผ้าลอบขายบุหรี่ไฟฟ้ากลางชุมชน

ตำรวจบุกรวบแม่ค้าร้านเสื้อผ้าลอบขายบุหรี่ไฟฟ้ากลางชุมชน





Image
ad1

เมื่อวันที่  19 มีนาคม 2568 ที่กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร.ต.อ.วิเชษฐ์ โคตรบุตร, ร.ต.อ.สุริยา ลาแสง รอง สว.กก.1 บก.สอท.3 และ ร.ต.ท.กันตภณ บุตรภาวงศ์ รอง สว.(สส) กก.1 บก.สอท.3 ร่วมกันนำกำลังเข้าจับกุม น.ส.สุดฤทัย อายุ 35 ปี ในข้อหา “ช่วยซ่อนเร้นช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย รับไว้ โดยประการใดซึ่ง(บุหรี่ไฟฟ้า) และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า)ของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยเป็นของที่ไม่ผ่านด่านศุลกากรตาม พรบ.ศุลกากร มาตรา 242,246 ประกอบ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร พ.ศ.2557” โดยจับกุมตัวได้ที่ ร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.13 ต.เมืองใหม่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู

โดยกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.3 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า มีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “ปุ้ยสาวหลังลาย เฟสสำรอง” ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว เปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ในแหล่งชุมชนห่างจากสถานศึกษา 400 เมตร และจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าร้านดังกล่าวเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้ามาแล้วเมื่อปี 2567 เนื่องจากถูกร้องเรียนว่าได้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่เยาวชนในพื้นที่ จึงได้ดำเนินการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายค้นได้สำเร็จ

กระทั่งช่วงเที่ยงของวันที่ 18 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดหนองบัวลำภูที่ค 10/2568 ลง 18 มี.ค.68 เข้าทำการตรวจค้นร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่13 ต.เมืองใหม่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู พบ น.ส.สุดฤทัย อายุ 35 ปี แสดงตนเป็นผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าแบบชาร์จไฟฟ้า จำนวน 2 ,หัวพอตบุหรี่ไฟฟ้า คละสี คละกลิ่น จำนวน 24 ชิ้น, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า คละสี คละกลิ่น จำนวน 19 ขึ้น, หัวคอยน์หรือหัวจุดดูดบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 14 ชิ้น ซุกซ่อนอยู่ภายร้านดังกล่าว

นอกจากนี้ กก.1 บก.สอท.3 ยังได้ร่วมกันจับกุม นายณัฐภูมิ อายุ 20 ปี ในข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง” พร้อมของของกลางบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 8 ชิ้น โดยควบคุมตัวได้ที่บ้ายหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.2 ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอื่นๆ เป็นประเด็นที่รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังให้ความสำคัญ ตำรวจไซเบอร์จึงเพิ่มความเข้มข้นในการสืบสวนและการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายผลและหาข้อมูลเชื่อมโยงไปยังระดับผู้ปฏิบัติรายอื่นๆ จนสาวไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่คอยสั่งการ เพื่อเร่งนำตัวผู้ต้องหาทั้งขบวนการมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป