ยิ้มได้!!! ไทยมีโอกาสต่อสัญญา “โมโตจีพี” ผลประโยชน์ได้เต็มมือธุรกิจ-สร้างงาน-เงิน
แม้การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกหรือโมโตจี ฤดูกาล 2025 จัดขึ้นที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ปิดฉากลงไปในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางอุณภูมิร้อนจัด ไม่แพ้กระแสข่าวกลายเป็นประเด็นร้อน ว่าในฤดูกาลต่อไป ประเทศไทยจะได้ต่อสัญญาจัดการแข่งขันอีกหรือไม่ หลังจากหมดสัญญากับผู้ดูแลลิขสิทธิ์ “ดอร์น่า สปอร์ต”
เพราะกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า ทางผู้หลัก ผู้ใหญ่รัฐบาล กำลังผลักดัน การจัดการแข่งขัน F1 มีเสียงออกมาวิพากษ์ วิจารณ์มองต่างมุมกันมากมาย
แต่หลังจากที่ระดับบิ๊กรัฐบาลและหน่วยงานรับผิดชอบ ออกมาชี้แจงต่อสังคม เพื่อคลายข้อสงสัย เหมือนกับพายุที่พัดผ่านไปด้วยดี
ล่าสุด “เนวิน ชิดชอบ” ประธานสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ได้มีการโพสผ่านเฟซบุคว่า “เพลงชาติไทย ยังมีโอกาสดัง ใน moto GP”
ขอบคุณนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กรุณาให้คำตอบแก่แฟนๆ moto GP ว่ารัฐบาลพร้อมเดินหน้าจัดการแข่งขัน โดยให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นำเสนอข้อมูลการจัดการแข่งขัน ว่าเป็นประโยชน์แก่ประเทศไทยหรือไม่ อย่างไร เพื่อประกอบพิจารณาตัดสินใจ ขณะนี้มีความเป็นไปได้จะมีการต่อสัญญา ยังไม่ปิดโอกาส
ด้านดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่สะพัดออกมาว่า จะไม่ต่อสัญญาการจัดการแข่งขันโมโตจีพีในเมืองไทย ที่จะหมดสัญญาในปี 2026ว่า เรื่องนี้ยังไม่จริง ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการพูดคุย โดยทางดอร์น่าเอง ยังชื่นชมประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพว่า ทำได้อย่างดีมากๆเป็นหนึ่งในสนามที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้ ขณะที่ทางรัฐบาลอยากให้มีการแข่งขันรายการใหญ่ๆ เพื่อที่ส่งเสริมด้านการกีฬาและส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวควบคู่ไปด้วย
ซึ่งทางกกท. จะนำสถิติตัวเลขต่างๆที่เกิดขึ้นในปีนี้ไปนำเสนอกับทางรัฐบาลให้เป็นผู้ตัดสินใจ จากที่ให้สัมภาษณ์ไม่มีประโยคไหนที่บอกว่าไม่ต่อสัญญาโมโตจีพีแต่อย่างใด ซึ่งการแข่งขันโมโตจีพีในปีนี้ เป็นปีที่ทุบสถิตติในแทบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูงเป็นประวัติศาสตร์เกินกว่า 5,000 ล้าน จำนวนผู้ชมที่สูงขึ้นเกือบ 7 เปอร์เซ็นต์ การสร้างงานที่สูงขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 52, 000 กว่าคน ที่เพิ่มสูงขึ้น38 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดนับตั้งแต่จัดงานมา
เพราะฉะนั้น ถ้าประเมินผลการจัดงานโดยภาพรวมเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ การจ้างงานและจำนวนผู้ชมที่สูงขึ้น รวมทั้งการชื่นชมในการจัดงานจากดอร์น่าก็ตาม
แน่นอนการแข่งขันการเป็นเจ้าภาพสูง เนื่องจากมีหลายๆประเทศรออยู่ ถ้าไทยไม่ตัดสินใจ ก็ยังมีหลายประเทศสนใจ ซึ่งทุกอย่างต้องมีความชัดเจนก่อน 1 ปี เพราะว่าทางฝ่านดอร์น่าจะต้องจัดการเรื่องสนามให้ลงตัว ดังนั้น ถ้าไทยไม่เป็นเจ้าภาพต่อ ทางดอร์น่าจะไปคุยกับประเทศอื่นแทน โดยในทางปฎิบัติ ทางกกท.พร้อมอยู่แล้ว จากคำชมและภาคเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้ ต้องเสนอให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจ
ขณะเดียวกัน “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงในเรื่องการจัดแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือโมโตจีพี ซึ่งหมดสัญญาในปี 2026นี้ว่า เกี่ยวกับประเด็นนี้จะให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งยังมีโอกาสและพูดคุยกันอยู่ ส่วนเหตุผลไม่ต่อสัญญาอะไรบ้างนั้น ต้องดูเรื่องตัวเลขด้วย ซึ่งจะให้กระทรวงกีฬาและท่องเที่ยวนำเสนอมา ตัวเลขข้างในเป็นอย่างไรบ้าง มีผลประเทศอย่างไร โดยทุกโครงการหากเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชนหมู่มาก คงทำต่อแน่นอนเพียงแต่ต้องดูตัวเลขก่อน จะได้สนับสนุนงบประมาณถูก ซึ่งตนมองในแง่ของธุรกิจ และเงินว่า จะทำรายได้ให้เข้าประเทศมากน้อยแค่ไหน ขอตัดสินใจแบบนั้น
ด้านตัวเลขกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจหลังจบการแข่งขัน โมโตจีพี เปิดสนามแรกที่เพิ่งปิดฉากลง ที่สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์- 2 มีนาคม ผู้เข้าร่วมงาน 222,634 คน คนไทย 172,565คน ชาวต่างชาติ 52,069 คน ,มูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 5, 043 ล้านบาท กระตุ้นการใช้จ่ายกว่า 4,268 ล้านบาท งบจัดงาน 775 ล้านบาท สร้างงาน 7,772 ตำแหน่ง และภาษีรัฐเก็บได้ 318 ล้านบาท
