สมาคมคลองไทยยื่นหนังสื่อนายกฯเสนอ “ตั้งคณะกรรมการแห่งชาติคลองไทย”


สมาคมคลองไทย พบ นายกรัฐมนตรี ที่ “ทะเลน้อย” ยื่นหนังสือเรียนเสนอ “ตั้งคณะกรรมการแห่งชาติคลองไทย” ศึกษาความเป็นไปได้ คนไทยจะเป็นเจ้าของหุ้นทุกครัวเรือน คนไทยทั้งประเทศได้ตำแหน่งาน 500,000 ถึง 1 ล้านตำแหน่ง โค้วต้าของจังหวัดชายแดนภาคใต้ 200,000 ตำแหน่ง ท้าทายเศรษฐกิจโลก คนกลุ่มเปราะบางส่วนใหญ่ของประเทศ
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 นายณรงค์ ซุ้มทอง ประธานอำนวยการศึกษาความเป็นไปได้คลองไทย เชื่อมทะเลอ่าวไทย-ทะเลอันดามัน 5 จังหวัดภาคใต้ จ.พัทลุง สงขลา ตรัง นครศรีธรรมราช ตรัง และ จ.กระบี่ เปิดเผยว่า นายกสมาคมคลองไทยเพื่อการศึกษาและพัฒนา มี พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป นายกสมาคมคลองไทย ซึ่งทางสมาคมคลองไทยได้ยื่นหนังสือถึง ฯพณฯ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ตำบลทะเลน้อย อ.ควนขุน จ.พัทลุง ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 คราวมาตรวจราชการที่ทะเลน้อยที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการยื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเรียนนายกรัฐมนตรี ได้มีการพิจารณาเห็นชอบในการดำเนินการตั้งคณะกรรมการแห่งชาติคลองไทย ขึ้นมาเพื่อดำเนินการแสวงหาศึกษาความเป็นไปได้ในขุดคลองไทยเชื่อมระหว่างทะเลอ่าวไทยกับทะเลอันดามัน
เขตแนวคลอง 9 A ระยะยาว 135 กม. ความกว้าง 300-400 เมตร และความลึก 15-18 เมตร เ โดยต้นทางที่ทะเลอ่าวไทย บ้านท่าบอน อ.ระโนด จ.สงขลา ปลายทางที่พอร์ทท่าเรืออ่าวลึก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า การออกแบบคณะกรรมการแห่งชาติคลองไทย เพื่อทำหน้าที่ศึกษาความเป็นไปในการขุดคลองไทยครอบคลุมทุกมิติรอบด้าน การศึกษาผลดีผลเสีย ระบบสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศ ธรณี น้ำ การลงทุน การคุ้มทุน ผลกระทบทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลกระทบต่อศิลปวัฒนธรรม ชุมชน โดยดำเนินการให้เป็นไปด้วยความโปร่งใสโดยแต่ละมิติแต่ละจะต้องมีการจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญผู้ชำนาญการ
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า การศึกษาคลองไทยที่ผ่านมา ดำเนินการศึกษาโดยภาคประชาชนประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิผู้เชี่ยวชาญตามทมสาขาต่าง ๆ ก็ตาม แต่เป็นกระบวนการดำเนินการของภาคเอกชน จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการ นอกจากเป็นขบวนการศึกษาความเป็นไปได้ของทางการ ที่ได้จัดถูกจัดตั้งอย่างถูกต้องตามขั้นตอนของภาครัฐ
“ซึ่งทั้งหมดจะเป็นภาระหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่จะดำเนินการใด ๆ หรือจะมอบหมายให้หน่วยงาน คณะใดดำเนินการ อำนาจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี”
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่สมาคลองไทย นำเรียนเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการแห่งชาติคลองไทย เพราะมั่นใจในศักยภาพหน้าที่ตามกฎหมายของนายกรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมาคลองไทย โครงการศึกษาความเป็นไปได้อยู่ในกระบวนการพิจารณาชั้นวุฒิสภา (สว.) และได้มีการนำญัตติเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร (สส.) เพื่อพิจารณา และในที่สุดได้ สส.ได้เสนอดตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาความเป็นไปได้คลองไทย (กมธ.) จำนวน 49 คน แต่พอเสนอญัตติเข้าสู่การพิจารณาของสภา เพื่อความเห็นชอบ สส.กลับมีการเบี้ยวประชุม จนไม่ผ่านสภา ในที่สุด
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า สมาคมคลองไทยและภาคประชาชน จึงยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี นส.แพธารทอง ชินวิตร นายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการ
นายณรงค์ กล่าวว่า คลองไทย เบื้องต้นที่เห็นได้ชัดคือทะเลอ่าวไทยมีสินค้าทางเรือที่เคลื่อนไหวฝั่ฃอาวไทยประมาณ 300,000 ล้านตัน / ปี ยังไม่รวมถึง ผ่านด่านชายแดนไทย มาเลเซีย จ.สงขลา จ.สตูล ฯลฯ โดยข้อมูลของกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม หากคลองไทยสามารถลงทุนขุดได้ จะสามารถรองรับขนส่งสินค้าได้ทั่วโลก ประเทศไทย จะสามารถสร้างแรงงานได้ถึง 500,000 -1 ล้านคน โดยมีเป้าหมายแรกจะเป็นโควต้าแรงงานจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ 200,000 คน ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ฯลฯ และอีก 300,000 คน จากทั่วประเทศ
“ส่วนประชาชนในครัวเรือนจาก 5 จังหวัด เช่น จ.พัทลุง ตรัง สงขลา นครศรีธรรมราช กระบี่ ที่อยู่บริเวณแนวการขุดคลองไทยได้รับผลกระทบ ทั้งหมดจะได้รับการเยียวยาอย่างคุ้มค่า และได้รับการดูแลตลอดชีวิต”
นายณรงค์ กล่าวอีกว่า และประการสำคัญ ประเทศไทย ประชาชนไทย จะหลุดพ้นไปจากความท้าทายทางเศราฐกิจที่มีคนเป็นกลุ่มเปราะบากยากจนเป็นส่วนใหญ่ของประเทศจะได้หลุดพ้น และโครงการคลองไทยจะต้องเป็นของคนไทยโดยคนไทยทุกครัวเรือนจะเป็นสิทธิมีสิทธิถือหุ้นเป็นหุ้นส่วนกันทุกครัวเรือนทั้งทั้งประเทศ
“สื่อมวลชน ฯลฯ จะทำการศึกษาสำรวจแนวเขตคลองไทย 9 A ได้ ทางสมาคมคลองไทย จะมีการอำนวยความสะดวกบริการ” นายณรงค์ กล่าว.