บก.ปคม.บุกรวบขบวนการลักลอบขนแรงงานข้ามชาติขายแรงงานชายแดนใต้

บก.ปคม.บุกรวบขบวนการลักลอบขนแรงงานข้ามชาติขายแรงงานชายแดนใต้





Image
ad1

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม

1. นายจิตรภาณุฯ อายุ 31 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา (ของกลางลำดับที่ 1) ผู้ต้องหาที่ 1
2. นายเกรียงศักดิ์ฯ อายุ 51 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา (ของกลางลำดับที่ 2)ผู้ต้องหาที่ 2
3. นางดวงพรฯ อายุ 50 ปี นั่งโดยสารฝั่งซ้ายมากับผู้ต้องหาที่ 2 และมีหน้าที่คอยประสานงานทางโทรศัพท์กับบุคคลซึ่งมา รับ-ส่ง บุคคลต่างด้าว
และบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาที่ 4-18
โดยกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 1-3 ว่ากระทำความผิดฐาน “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการถูกจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่”

โดยกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 4-18 ว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่จับกุม หน้าห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ปคม. ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เดินทางมาพักคอยอยู่ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อรอรถมารับและเดินทางต่อไปยังสามจังหวัดชายแดนใต้ โดยต่างด้าวโดยสารมากับรถกระบะบรรทุกจำนวน 2 คัน ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ปคม. ได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ร่วมกันประชุมวางแผนทำการจับกุม โดยการวางกำลัง และเฝ้าสังเกตุการณ์ในพื้นที่ริมถนนสายเอเชีย ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสังเกตเห็นรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา และ รถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ต้องสงสัยตามที่สายลับแจ้งกำลังเลี้ยวเข้าไปรีสอร์ทดังกล่าว โดยรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา จอดบริเวณลาดจอดรถเลยหน้าห้อง A 11 ไป ส่วนรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา เข้าไปจอดหน้าห้อง A 11 หลังจากนั้น นายเกรียงศักดิ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 2 และ นางดวงพรฯ ผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งมากับรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ได้ลงมาช่วยนายจิตรภาณุฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งขับรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา จัดคนลักษณะคล้ายคนต่างด้าวทั้งหญิงและชายซึ่งนั่งโดยสารมากับรถคันดังกล่าว เพื่อนำเข้าห้องพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ปคม. แสดงตัวพร้อมบัตรเจ้าหน้าที่ขอเข้าตรวจสอบบุคคลในห้อง

จากการตรวจสอบไม่พบเอกสารประจำตัว สอบถามผู้ต้องหาที่ 1 รับว่าเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาซึ่งไม่มีเอกสารประจำตัว สอบถาม ผู้ต้องหาที่ 1 รับว่าตนเป็นคนขับรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา ซึ่งเป็นรถที่ตนใช้ขนบุคคลต่างด้าว สอบถามผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งรับว่าตนเป็นคนขับรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทำหน้าที่เป็นรถนำส่งสัญญาณให้รถขนคนต่างด้าวทราบกรณีมีการตั้งด่านอยู่ด้านหน้า สอบถามผู้ต้องหาที่ 3 รับว่าตนนั่งรถมากับผู้ต้องหาที่ 2 และทำหน้าที่คอยประสานงานขณะที่ ผู้ต้องหาที่ 2 ขับรถอยู่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับที่ 1-3 ทราบว่า ผู้ถูกจับที่ 1-3 กระทำความผิดฐาน “ให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการถูกจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ส่วนผู้ถูกจับที่ 4-18 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เชิญตัวมายัง สภ.รัตภูมิ และได้จัดหาล่ามให้ จากนั้นจึงแจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาผ่าน นายอัลซาร์ฯ ล่ามแปล ให้ผู้ถูกจับที่ 4-18 ทราบว่า ผู้ถูกจับที่ 4-18 กระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และได้จัดทำบันทึกจับกุม หลังจากนั้นจึงนำตัวผู้ถูกจับที่ 1-18 ส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 ให้การว่า ตนเองทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา ซึ่งเป็นรถที่ใช้ขนคนต่างด้าว จำนวน 15 ราย โดยได้รับการว่าจ้างมาจากผู้ต้องหาที่ 2 ก่อนขนคนต่างด้าว ผู้ต้องหาที่ 2 ได้โอนเงินให้ตนก่อนเป็นค่าน้ำมัน จำนวน 5,000 บาท

จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 2 ให้การว่า ตนเองทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ซึ่งทำหน้าที่เป็นรถนำและคอยส่งสัญญาณให้ผู้ต้องหาที่ 1 ทราบเมื่อมีการตั้งด่าน เพื่อให้ผู้ต้องหาที่ 1 หยุดคอยจนกว่าจะมีการเลิกตั้งด่าน และเดินทางต่อไป โดยตนเองได้ขับรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ไปรับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 15 คน โดยได้รับการติดต่อให้ขนต่างด้าวผ่านทางโทรศัพท์ ให้ไปรับคนต่างด้าวบริเวณทางเข้าบ้านเขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ รอยต่อ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากรับคนต่างด้าวซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ 4-18 แล้ว ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ เพื่อสอบถามว่าจะให้ไปส่งที่ใด บุคคลปลายสายแจ้งให้ไปส่งที่ห้องพักหมายเลข A 11 ในรีสอร์ทดังกล่าว ผู้ต้องหาที่ 1-3 จึงนำคนต่างด้าวเดินทางต่อมายังสอร์ทดังกล่า เมื่อมาถึง ระหว่างนำต่างด้าวเข้าห้องพัก ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ในการขนคนต่างด้าวครั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ 2 จะได้ค่าจ้าง 13,000 บาท ในการขนครั้งนี้ โดยจะมีผู้โอนเงินมาให้ผู้ต้องหาที่ 2 ก่อน จำนวน 10,000 บาท โดยโอนมายังบัญชีธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นบัญชีชื่อของผู้ต้องหาที่ 2

จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 3 ให้การว่า ตนเองเป็นภรรยาของผู้ต้องหาที่ 2 และทำหน้าที่คอยประสานงานเรื่องการขนและสถานที่พักของคนต่างด้าวระหว่างที่ผู้ต้องหาที่ 2 ขับรถ

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา