เอกชนแม่ขรีหนุนรัฐบาลขุดคลองระบายน้ำป้องกัน "ภาคใต้"น้ำท่วมซ้ำซาก-ศก.พังพินาศ

เอกชนแม่ขรีหนุนรัฐบาลขุดคลองระบายน้ำป้องกัน "ภาคใต้"น้ำท่วมซ้ำซาก-ศก.พังพินาศ





Image
ad1

ภาคเอกชนผวา ! น้ำท่วมใต้ “แม่ขรี” ศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าพัทลุงตอนล่าง กระอัก  บริษัทประกันกังวลความเสี่ยงสูงจากปัจจัย“น้ำท่วมซ้ำซาก” ผู้ประกอบการ การค้ากระอักตาม เทศบาลตำบลแม่ขรี วอนรัฐสนับสนุนขุดลอกคลอง ห้วยแหล่งรองรับน้ำป้องกันน้ำท่วมซ้ำซากเมืองเศรษฐกิจการค้า หาไม่แล้วเสียหายนับร้อยล้านบาท

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการการค้ารายใหญ่เขตเทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง  เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหนักในบางพื้นที่ทางจังหวัดภาคใต้ และ จ.พัทลุงในหลายพื้นที่และจากที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้ส่งผลต่อบริษัทประกันภัยเกิดความเสี่ยงสูง โดยบางบริษัทยังไม่ได้รับทำประกันต่อ ลักษณะยังไม่ได้รับคำตอบรับว่าจะได้หรือไม่ได้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการการค้าแทบทุกแขนง ต้องเกิดความกังวล จึงได้ส่งผลให้ไม่สามารถนำสินค้าปริมาณมากมาเก็บในสต๊อกได้ เช่น กลุ่มค้าปลีกค้าส่ง กลุ่มค้าปลีกค้าส่งข้าวสาร กลุ่มค้าปลีกค้าส่งปุ๋ย กลุ่มเครื่องยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ 

“บางรายได้ทำประกันภัยไปแล้วเมื่อปีก่อนแต่เมื่อถูกน้ำท่วมปีที่แล้วก็ไม่ต่อให้ เลยต้องไปทำประกันยังจังหวัดอื่น นอกนั้นไม่ได้ทำประกัน ประมาณการค้าที่สำคัญที่ทำประกันภัยอยู่ประมาณ 10 %  ต่างไม่ถูกตอบรับ และบางผู้ประกอบการทางตัวแทนบริษัทประกันภัยไปศึกษาดูพื้นที่ ที่ตั้ง และคลังสินค้าแล้วก็ยังไม่ตอบรับกลับ”  แหล่งข่าว กล่าว

ดร.สมบัติ ชนะสิทธิ์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า สภาพปัจจุบันปริมาณน้ำฝนจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนและจะท่วมทุกปีทางภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.พัทลุง ภาคใต้ จึงเกิดปรากฎการณ์ว่าทางบริษัทประกันภัยบางราย จึงได้มีการบริหารจัดการความเสี่ยงใหม่ จึงได้มีนโยบายที่ยังไม่มีการต่อกรมธรรม์เพราะความเสี่ยงสูง  ซึ่งหากเป็นไปสภาพนี้จะเกิดความกังวลกับผู้ประกอบการ และนักลงทุนที่จะเปิดประกอบการ

ดร.สมบัติ กล่าวว่า ทั้งนี้เพราะปัจจุบันเมื่อเข้าสู่หน้าฝนน้ำฝนก็จะปริมาณมากและน้ำจะท่วมหนัก แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งก็เกิดแล้งหนักและยาว ซึ่งจะเห็นจากปีที่ผ่าน ๆ มา ทั้งน้ำท่วมทั้งภัยแล้ง ต่างส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพต่อเศรษฐกิจทันที

ดังนั้นภาวะผู้นำ โดยนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนจะต้องภาวะผู้นำจะต้องคิดเป็นคิดเป็นทำเป็นในการแก้ไขปัญหาวิกฤติภัยพิบัติ  หน้าน้ำท่วม หน้าแล้งเกิดภัยแล้ง และเรื่องทางเศรษฐกิจเรื่องปากท้องและอาชีพ 

“จะต้องคิด วางแผนและทำเรื่องการป้องกันน้ำท่วมและภัยแล้ง เพราะปัจจุบันน้ำฝนจะปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปีและจะเกิดน้ำท่วมหนักจนได้รับความเสียหายทางทรัพย์สินและชีวิต ยามฤดูแล้งก็แห้งแล้งจัดลากยาวจนการเกษตรได้รับความเสียหาย ต่างผลกระทบหนัก” ดร.สมบัติ กล่าว

นายกรกฎ เตติรานนท์  ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (จ.พัทลุง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา)กล่าวว่า กลุ่มหอการค้าจังหวัดจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เกี่ยวกับการประกันความเสี่ยงจากบริษัทประกัน ยังไม่ได้รับรายงานจากผู้ประกอบการธุรกิจการค้า ในพื้นที่ย่านการค้าในพื้นที่ แต่ในส่วนภาคการเกษตรนั้นทางกระทรวง รัฐบาล จะเป็นผู้รับประกันและเคลมผู้ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงอยู่แล้ว

“อาจจะเป็นไปได้ว่าทางบริษัทประกันอาจจะมีการพิจารณาปรับปรุงอัตราเพิ่มค่าประกันความเสี่ยงในพื้นที่ประสบภัย  ใหม่ ผู้เอาประกันต่างมีความต้องการบริหารจัดการความเสี่ยง และทางบริษัทประกันก็มีการบริหารจัดความเสี่ยงเช่นกัน”

นายกรกฎ กล่าวอีกว่า แต่หากเมื่อบริษัทประกันกังวล ก็จะเกิดภาพลักษณ์มาก และนั้นหมายความว่าก็จะส่งผลกระทบประเทศเรื่องความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภัยพิบัติก็จะผลต่อการลงทุน

“รัฐบาลก็จะต้องตอบคำถามใหม่”

ทางด้าน นายสำราญ สุบรรณวงศ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า เขตเทศบาลตำบลแม่ขรี ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจธุรกิจการค้า จ.พัทลุงตอนล่าง  โดยได้รับข้อมูลจากผู้ประกอบการว่าจะมีผู้ทำประกันภัยภาพรวม ๆ มีประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด ดังนั้นก็จะเกิดความกังวลต่อผู้ประกอบการ

นายสำราญ สำหรับเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ทางเทศบาล ตำบลแม่ขรี ได้มีการวางแผนออกแบบเพื่อป้องกันน้ำท่วมให้เกิดประสิทธิภาพตลอดมา  จากที่เทศบาลตำบลแม่ขรีปกติน้ำไม่เคยท่วมมาร่วม 40 – 50 ปี แต่ปรากฏว่าได้เกิดน้ำท่วมเมื่อปีที่ผ่านๆ มา  เพราะฝนตกหนักและยาวปริมาณน้ำฝนก็เพิ่มขึ้นมาก และหากน้ำฝนมากกว่า 170 มม. จะเกิดน้ำท่วมแต่ก็สามารถระบายได้เร็วและไม่ได้เกิดความเสียหาย แต่หากน้ำฝนปริมาณมากและตกหนักต่อเนื่อง เขตเทศบาลตำบลแม่ขรี ไม่อาจจะต้านทานป้องกันน้ำจากรอบนอกทุกด้าน 

แนวทางออกคือหน่วยเหนือและรัฐบาลที่จะให้การสนับสนุน โดยตามลำพังและกำลังของเทศบาลตำบลแม่ขรี จะไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะไม่มีงบประมาณที่เพียงพอ จะต้องการใช้งบประมาณมากไม่ต่ำกว่า 40 -50 ล้านบาทเป็นขั้นต่ำ ในการขุดลอกแหล่งรับน้ำและระบายน้ำ เช่น ห้วยแม่ขรี กับห้วยน้ำบริเวณโรงพยาบาลตะโหมด และบริเวณลำห้วยก็จะทำการปรับภูมิทัศน์ เป็นพื้นที่พักผ่อน ออกกำลังกาย ส่วนน้ำในลำห้วยก็สามารถบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดีเพื่อนำน้ำไปใช้ประโยชน์ได้

“ขอการสนับสนุนจากรัฐบาลในการป้องกันน้ำท่วมเพื่อรักษาศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้า จ.พัทลุงตอนล่าง หาไม่แล้วหากเกิดฝนตกหนักมีน้ำฝนปริมาณมากก็จะเกิดน้ำท่วมหนักทันที แล้วจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจการค้าอย่างใหญ่หลวง ที่มีมูลค่านับร้อยล้านบาท”

นายสำราญ  กล่าวอีก  เพื่อเป็นการสร้างแหล่งที่รองรับน้ำและระบายน้ำได้อย่างรวดกเร็วด้วยการขุดลอกลำห้วยแม่ขรี ที่ห้วยมีความยาวประมาณ 700 เมตร กว้าง 5 เมตร และ 7 เมตร และจะต้องขุดลึกประมาณ 3 เมตร  ซึ่งจะใช้วิศวกรผู้เชี่ยวชาญชำนาญการน้ำต้องออกแบบ  จึงจะสามารถแก้ไขเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าได้.