สาวและเยาวชนกว่า37 ราย ทยอยแจ้งความ ถูกมือดีนำภาพหน้าโพสต์ขายบริการทางเพศ


อุทัยธานี-สาวและเยาวชนกว่า37 ราย ทยอยแจ้งความ ถูกมือดีนำภาพหน้าไปตัดต่อลงทวิตเตอร์ โพสต์ขายบริการทางเพศ ได้รับความเสียหายต่อหน้าที่การงาน จนท เชิญผู้ต้องสงสัยให้ปากคำ
สภ.ห้วยคต อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี หลังได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียหายรายหนึ่งชื่อนางสาวเอ นามสมมุติ อายุ 18 ปี ชาวอ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พร้อมกับเพื่อนที่มาด้วยกันหลายคนได้เข้าแจ้งความแล้ว 10 กว่าราย กำลังทยอยเดินทางมาแจ้งความโดยรวม 37 ราย ว่า ถูกมือดีนำภาพหน้าในเฟสบุ๊ค ไปตัดต่อนำภาพ ไปโพสต์ลงทางทวิตเตอร์ ด้วยถ้อยคำหวาดเสียวโดยไม่ระบุตัวตนภาพโปรไฟล์ คล้ายกับขายบริการทางเพศ รวมถึงผู้เสียหายอีกหลายรายคน ที่อยู่อำเภอห้วยคตรวมถึงเยาวชนวัยเรียนและวัยทำงานอยู่นอกพื้นที่และต่างจังหวัดที่เป็นชาวอ.ห้วยคตจ.อุทัยธานี กว่า 37 ราย กำลังทยอยเดินทางมาเข้าแจ้งความที่สภ.ห้วยคต เนื่องจากได้รับความเสียหายและได้รับความอับอาย เนื่องจากบางคนนั้นได้ทำงานอย่างสุจริต แต่กลับถูกนำภาพไปโพสต์เชิงขายบริการ และรวมถึงนักเรียนและเยาวชนในเขตอำเภอห้วยคตเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สภ.ห้วยคต ได้เชิญตัว นายซี (นามสมมุติ)อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นชาวอ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ให้เดินทางมาสอบปากคำ เนื่องจากเป็นหนึ่งในนั้นซึ่งเป็นอดีตแฟนเก่าของผู้เสียหายของนางสาวเอ ล่าสุดในซีได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองนั้นบริสุทธิ์ใจ และตนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นได้ตกเป็นผู้เสียหายเช่นกัน เนื่องจากตนเองยอมรับว่าเคยเป็นอดีตแฟนเก่า ของผู้เสียหาย ที่ถูกมือดีไม่ทราบว่าเป็นใคร ได้นำภาพของผู้เสียหายหลายราย ไปโพสต์ลงทวิตเตอร์ หรือทางออนไลน์ ในทางที่เสียหาย คล้ายกับขายบริการทางเพศ ซึ่งตนเองนั้นไม่ได้กระทำการดังกล่าวและบริสุทธิ์ใจ ถึงได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวและมาชี้แจงกับเรื่องดังกล่าวว่าตนเองไม่มีส่วนรู้เห็น ถึงจะเคยเป็นอดีตแฟนเก่ากับผู้เสียหายก็ตาม และตนเองก็ยืนยันว่าตนเองคาดว่าตนเองก็เป็นผู้เสียหายเช่นกัน หากถูกมือดีนำข้อมูลของตนเอง ไปติดต่อกับอดีตแฟนเก่าหรือเพื่อนๆของแฟนเก่าจนทำให้ตัวตนเองนั้น ถูกเป็นผู้ต้องสงสัย ทั้งนี้ตนเองบริสุทธิ์ใจจึงได้เดินทางมาให้ปากคำด้วยความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่ดังกล่าว หากทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว หากตนเองไม่ได้กระทำความผิดจริง ตนเองก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่กล่าวหากับตนเองต่อไป
ทั้งนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ห้วยคต ได้เร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าทั้งสองฝ่ายเป็นผู้เสียหายหรือไม่ หรือถูกมิจฉาชีพนำภาพไปโพสต์เพื่อหารายได้ อยู่ระหว่างจนท.ดำเนินการการตรวจสอบ เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป