ชาวนาโคราชเฮ พายุฝนช่วยเติมน้ำให้นาข้าวรอดหลังฝนทิ้งช่วงนาน

พายุโซนร้อน "ซูลิก" ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เช่น จังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

จากฝนตกลงมาช่วงนี้ทำให้เกษตรกรต่างรู้สึกใจชื้น ที่มีน้ำฝนมาช่วยเติมน้ำทำการเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมา ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงและมีฝนตกน้อย แม้ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูฝน ทำให้ปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำมีน้อย อีกทั้งปริมาณน้ำในลำน้ำต่างๆ ก็มีน้อย เพราะเกษตรกรแย่งกันสูบน้ำไปทำการเกษตร  เพื่อไม่ให้ต้นข้าวนาปีที่เพาะปลูกเอาไว้ยืนต้นตาย ในขณะที่เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน ก็แทบไม่มีน้ำทำการเกษตร ต้องรอน้ำฝนเพียงอย่างเดียว

นายสุริยา หลอมทอง อายุ 60ปี เกษตรกรรายหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 242  ม.3 บ้านส่วน ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา  บอกว่า “มีที่นาอยู่ใน ม.16 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ที่อยู่ท้ายเขื่อนพิมาย  ตอนนี้ยังปลูกข้าวนาปรัง เป็นข้าวหอมมะลิ ตั้งต้นเดือนกันยายน 2567 บนเนื้อที่ 30ไร่ ซึ่งชาวนาแถบนี้จะปลูกข้าวนาปีช้ากว่าปกติ  เพราะต้องรอน้ำฝน

แต่ตนได้เตรียมเครื่องสูบน้ำเข้านาไว้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีน้ำให้สูบ ที่ผ่านมา สภาพอากาศค่อนข้างแล้ง มีฝนตกน้อยมาก ชาวนาที่หว่านข้าวนาปรังเอาไว้ ก็แย่งกันสูบน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติไปใส่ในนาข้าว จนระดับน้ำในลำน้ำต่ำมาก ไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาได้ นาข้าวก็เริ่มขาดน้ำ จนจะยืนต้นตายอยู่แล้ว 

อย่างไรก็ตามในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ เริ่มมีฝนตกลงมาช่วย ทำให้ต้นข้าวฟื้นขึ้นใหม่  มีน้ำมาเลี้ยงนาข้าวให้งอกงาม ก็รู้สึกดีใจและใจชื้นขึ้นมาบ้างที่นาข้าวไม่เสียหาย   แต่ก็กังวลว่า มีการคาดการณ์ว่า ช่วงเดือนตุลาคมจะมีพายุเข้ามา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมนาข้าวเสียหายได้ ก็ต้องติดตามสถานการณ์ดูอีกที

โดย...ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา