ปาล์มน้ำมันเมืองพัทลุงยังเคลื่อนไหลราคาปกติ 3.80 – 3.90

ปาล์มน้ำมันเมืองพัทลุงยังเคลื่อนไหลราคาปกติ 3.80 – 3.90





Image
ad1

เจ้าของสวนปาล์มน้ำมันจ.พัทลุง ระบุ “ปาล์มน้ำมัน” กด CPO เหตุมีนัยยะจึงเกิดฤดูกาลขึ้นทุก 1 ปี เป็นระยะเวลา 2 เดือน 3 เดือนและ 4 เดือนแล้วแต่บางปี ซึ่งจะเป็นผลประโยชน์มหาศาลสามารถถอนทุนคืนได้ ยืนยันปาล์มน้ำมันไม่มี 13 – 14 % ขั้นโคมาสุด 15 % 

นายโอภาส หนูชิต เจ้าของสวนปาล์มน้ำมันจ.พัทลุง และอดีตประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดพัทลุง จำกัด สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดพัทลุง และประธานคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า สถานการณ์ปาล์มน้ำมัน จ.พัทลุง ยังคงเคลื่อนไหวเป็นปกติที่ราคา 3.80 – 3.90 และ 4 บาท / กก. จะต่างกันละพื้นที่ และยังได้รับการร้องเรียนมาจากเกษตรกรปาล์มน้ำมันตั้งแต่ อ.ปาบอน อ.ตะโหมด  อ.ปากพะยูน อ.บางแก้ว ว่าในบางจุดบางพื้นที่ โรงงาน ลานเทรับซื้อปาล์มน้ำมันยังหยุดรับซื้อด้วย

โดยให้เหตุผลว่าหยุดปรับปรุงซ่อมแซมโรงงานหีบปาล์มน้ำมันจึง ได้ส่งผลกระทบต่อการขายปาล์มน้ำมัน เพระปาล์มน้ำมันเมื่อตัดแล้วก็จะต้องขายทันที หาไม่แล้วหากทิ้งค้างไว้จะส่งผลเสียหายทันทีต่อกระบวนการคุณภาพ

นายโอภาส กล่าวอีกว่า วงการปาล์มน้ำมันในรอบ 1 ปี จะเกิดเหตุมีนัยยะเป็นจำทุกปี บางปี 2 เดือน บางปี 3 เดือน และบางปี 4 เดือน ที่ส่งกระทบต่อการกดดันราคาปาล์มน้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันในเรื่องของราคา และจะส่งผลอีกมุมหนึ่งต่อผู้ประกอบการธุรกิจปาล์มน้ำมันไปในทิศทางที่ดี

“ส่วนในปี 2567 เกิดเหตุการณ์เรื่องปาล์มน้ำมันเปอร์เซ็นต์CPO ต่ำลง ซึ่งเป็นเวลาระยะ 2 เดือนมาแล้ว โดยช่วงแรกระบุว่าปาล์มน้ำมันมี CPO ต่ำประมาณ 13-14 -15 % ซึ่งที่ผ่านมาเรื่องปาล์มน้ำมันไม่เคยปรากฏว่าต่ำลงถึง 13 – 14 15% โดยขั้นต่ำสุดถือว่าขั้นโคม่าแล้ว 16 % เพราะจากโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน  ปกติปาล์มน้ำมัน 18 % ถือว่าถูกกดดันมากแล้ว เพราะปาล์มน้ำมัน  19– 20  - 22 % แต่ละเปอร์เซ็นต์ CPO เป็นเงินจำนวนมาก”

นายโอภาส กล่าวอีกว่า จากราคาปาล์มน้ำมันที่ต่ำลงก็จะส่งผลบกระทบต่อการประท้วงเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต รัฐบาลก็ต้องออกมาแทรกแซงราคา และในที่สุดก็จะตกเป็นผลประโยชน์ต่ออีกกลุ่ม เพราะเมื่อราคาถูกแทรกแซงก็ต้องปรับขึ้น ก็จะได้ขายน้ำมัน CPO ที่สูงขึ้นตามด้วย ซึ่งจากก่อนนั้นที่ได้หีบเก็บสต๊อกไว้ จากที่ซื้อมาในราคาที่ไม่สูง

หากดูราคาปาล์มน้ำมันที่ซื้อขายของ จ.พัทลุง ที่ราคา 3.80 บาท / กก. ราคา 3.90 บาท / กก. และราคา 4 บาท / กก. ทั้งนี้ขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่  ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ CPO ที่ราคา  30 – 31 บาท / กก.

“การหาค่า CPO  คือปาล์มน้ำมันดิบ 100 กก. แต่หากปาล์มน้ำมัน 14 % เท่ากับปาล์มสด 100 กก. จะได้น้ำมันปาล์มดิบ CPO จำนวน 14 กก. หากมีการซื้อปาล์มน้ำมันสด 100 กก. ในราคา 3.90 บาท / กก.  เท่ากับ 390 บาท แต่ CPO  ราคา 31 บาท / กก. ก็จะได้จากขาย CPO จำนวน 14 กก. ก็จะได้ราคา 434 บาท  ซึ่งจะได้ส่วนต่างประมาณ 44 บาท แต่หาก CPO  18 %  และ 20 %  จะเป็นเงิน 558 – 620 บาท แต่หากปาล์มน้ำมันปริมาณเป็นตันจะเป็นเงินจำนวนมหาศาล” 

นายโอภาส กล่าวอีกว่า เดิมเมื่อสมัยที่ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่  ซึ่งมีโรงงานหีบน้ำมันปาล์ม 2 โรงงาน 1 ที่ อ.อ่าวลึก และ 2 ที่ อ.คลองท่อม  บริหารโดยชาวสวนปาล์มน้ำมัน ได้เป็นตัวยืนคานเรื่องชี้วัดหาค่าเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มดิบ CPO ของแต่ละเดือน ทำให้เกษตรกรจะไม่ถูกกดดันเรื่อง CPO

แต่ปรากฏว่าชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ เกิดปัญหาภายในบางจุด ต่อซึ่งในปี 2567 ถูก DSI อยู่ระหว่างดำเนินการทางคดี และทาง DSI ได้สั่งหยุดดำเนินการกิจการไปชั่วคราวไว้ก่อน  จึงต้องยุติบทบาทไป  ดังนั้นเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันไม่มีตัวคานเรื่องการหาค่าเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มดิบ CPO  จึงได้ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันได้รับผลกระทบในที่สุด

“ประเด็นนี้จึงฝากไปยังรัฐบาล ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ DSI อนุญาตมีคำสั่งดำเนินการกิจการต่อไปได้ โดยทางคดีก็ดำเนินการว่าคดีไปจนถึงที่สุด ทั้งนี้เพื่อำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันเรื่องของเปอร์เซ็นต์ปาล์มน้ำมันดิบ OPO”  นายโอภาส กล่าว.

ส่วนประเด็นน้ำมันต่างประเทศที่จะนำเข้ามาน่าจะเดินทางได้มายากเพราะมีความเข้มกวดขันกว่าเดิมจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย แต่ที่น่าคิดเรื่องน้ำมันปาล์มระบบทรานสิตผ่านแดนไปยังต่างประเทศแล้วมีส่วนเกินเกิดตกหล่นในประเทศไทย แล้วเอาน้ำมันปาล์มดิบ CPO  มาสวมเป็น CPO ของไทยได้

“ในอดีตที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการ เพราะมีส่วนต่างประมาณ 2 – 3 บาท / กก.”

โดย...อัสวิน ภักฆวรรณ