UNHCR เชิญชวนแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับผู้ลี้ภัยเนื่องในวันผู้ลี้ภัยโลก

UNHCR เชิญชวนแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับผู้ลี้ภัยเนื่องในวันผู้ลี้ภัยโลก





ad1

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) จัดงานวันผู้ลี้ภัยโลกในประเทศไทย โดยฉายไฟอย่างยิ่งใหญ่หน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน และเปิดตัวเทศกาลภาพยนตร์ผู้ลี้ภัยครั้งที่ 13 ด้วยสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของผู้ลี้ภัย เรื่อง "ALLIHOPA: THE DALKURD STORY"  โดยหน่วยงานของรัฐบาลไทย สถานเอกอัครราชทูตในกรุงเทพ หน่วยงานต่างๆขององค์การสหประชาชาติ และภาคเอกชน ได้รวมตัวกันสนับสนุนโลกที่ผู้ลี้ภัยได้รับการยอมรับ

ด้วยจำนวนของผู้คนที่ถูกบังคับให้พลัดถิ่นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากความขัดแย้งที่กระจายอยู่ทั่วโลก ผู้ลี้ภัยจึงต้องการความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหมายถึงการเปิดประตูต้อนรับ และทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างโลกที่ผู้ลี้ภัยได้รับการยอมรับ

“ผู้ลี้ภัยเหมือนกับพวกเราทุกคน ที่มีความฝัน และความหวังในชีวิต นอกจากนี้ ต้องการโอกาสเพื่อเติมเต็มศักยภาพของความเป็นมนุษย์” คุณแทมมี่ ชาร์ป ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย กล่าว “ในวันผู้ลี้ภัยโลกปีนี้ เราเฉลิมฉลองความเข้มแข็ง และความสำเร็จของผู้ลี้ภัย และยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่พวกเขาต้องเผชิญ เหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีการกระทำที่แสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันต่อผู้คนที่ถูกบังคับให้หนีเป็นสิ่งที่เล็กน้อยเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับผู้ลี้ภัยเข้าสู่สังคมท้องถิ่น หรือการรณรงค์เปลี่ยนแปลงในระดับนโยบายเพื่อช่วยคุ้มครอง และสนับสนุนผู้คนที่ถูกบังคับให้หนี”

การสนับสนุนในการรวมผู้ลี้ภัยในระบบของโรงเรียน สถานที่ทำงาน ระบบสาธารณสุข และชุมชน เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการสนับสนุนให้พวกเขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ และยังเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการเตรียมความพร้อมก่อนพวกเขาจะมีโอกาสเดินทางกลับบ้าน เมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวย หรือมีความก้าวหน้าหากมีโอกาสได้รับการตั้งถิ่นฐานในประเทศอื่น

UNHCR เปิดเทศกาลภาพยนตร์ผู้ลี้ภัยครั้งที่ 13 ด้วยสารคดีที่สร้างจากชีวิตจริงของผู้ลี้ภัยเรื่อง “ALLIHOPA: THE DALKURD STORY” ที่นำเสนอเรื่องของทีมฟุตบอลดัลเคิร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ลี้ภัยชาวเคิร์ดที่ได้รับโอกาสให้ตั้งถิ่นฐานในประเทศสวีเดน ฝ่าฝันอุปสรรคมากมาย เพื่อไต่อันดับลีคฟุตบอลของสวีเดนได้สำเร็จ 

“ผมเชื่อในพลังของการได้รับโอกาส และความสามารถของมนุษย์ที่จะเอาชนะอุปสรรคต่างๆได้” คอร์โด ดอสกี อดีตผู้ลี้ภัย และผู้กำกับภาพยนตร์กล่าว “ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องจริงของกลุ่มผู้ลี้ภัยที่เริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีอะไรเลยนอกจากความฝัน และสปิริตอันรงกล้า เรื่องราวของพวกเขาเป็นลำแสงแห่งความหวัง และการย้ำเตือนที่มีพลังว่าเมื่อได้รับโอกาส ผู้ลี้ภัยสามารถเติบโต และพัฒนาชุมชนใหม่ที่พวกเขาอาศัยอยู่ได้”

ศูนย์การค้าสยามพารากอน จะประดับไฟสีฟ้าในวันที่ 6 และ 20 มิถุนายน เพื่อระลึกถึงวันผู้ลี้ภัยโลก โดย เทศกาลภาพยนตร์ผู้ลี้ภัยครั้งที่ 13 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-20 มิถุนายน 2567 ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน ท่านสามารถจองบัตรชมภาพยนตร์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่ https://linktr.ee/rff12th