พระพ่อเผย "มด" เมียเสี่ยต้น เสนอเงิน 2 ล้าน แลกไม่ต้องผ่าศพ

พระพ่อเผย "มด" เมียเสี่ยต้น เสนอเงิน 2 ล้าน แลกไม่ต้องผ่าศพ





ad1

น้องสาวเสี่ยต้น ประกาศขอตามหาความจริง สาเหตุการตายพี่ชาย ไม่ได้หวังสมบัติพี่ ด้านพระพ่อ เผยเมียเสี่ยต้นขอไม่ให้ส่งศพชันสูตรการตาย กลัวเจอสารเร่งกล้ามเนื้อ เสนอเงิน 2 ล้าน แต่หลวงพ่อไม่รับ ขณะที่เพื่อนสนิทสงสัยรดน้ำศพไม่เปิดหน้า คลุมผ้ามิด ชี้ผิดปกติเผาวันศุกร์ ซึ่งปกติวัดจะไม่เผาศพ 

ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ (Decha&IBS) เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 พ.ค. น.ส.ณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ เจ อายุ 42 ปี น้องสาวของ นายพิชิต กลีบจินดา หรือเสี่ยต้น เจ้าของธุรกิจสอนนวดไทย ที่ถูกคนร้ายประกบยิง พื้นที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ก่อนไปเสียชีวิตปริศนาที่บ้านพักใน จ.มหาสารคาม ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังถูกกระแสสังคมกล่าวหาถึงการออกมาหาสาเหตุการตายของพี่ชาย เพราะหวังสมบัติ ว่า ตนเริ่มหาข้อมูลตั้งแต่แรก เพราะสงสัยการตาย ทำไมมีบางคนโพสต์ขายทรัพย์สินต่างๆ ของพี่ชาย เช่น บ้านที่พัฒนาการ คอนโด เป็นต้น เดิมทีพี่ชายเป็นคนสุขภาพแข็งแรง จะเสียชีวิตได้อย่างไร และเคยถูกลอบยิง จึงรวบรวมข้อมูลทั้งรูปภาพการตาย รูปภาพงานศพ รูปภาพก่อนเผา เอกสารใบมรณบัตร ไปปรึกษาทนายความรายอื่น ได้รับคำแนะนำให้เริ่มต้นจากคดีมรดกก่อน เพราะเริ่มคดีอาญาไม่ได้ เมื่อไม่มีการชันสูตรศพ

น.ส.ณัฐปภัษร์ กล่าวว่า แต่ครอบครัวยังติดใจสาเหตุการตาย จึงเข้ามาปรึกษากับทนายเดชา เพื่อปรึกษาคดีอาญาอีกครั้ง ทนายเดชาดูหลักฐานแล้วบอกว่าทำเป็นคดีอาญาได้ นำมาสู่การสืบสวนคดีในปัจจุบัน ส่วนที่สังคมกล่าวหาเรื่องหวังทรัพย์สิน ตนไม่กังวลใจ ยืนยันทำตามกฎหมายทั้งหมด ทำตามคำแนะนำของทนาย และความตั้งใจอยากพิสูจน์การตายของพี่ชาย เป็นคำถามคาใจของพ่อแม่ด้วยว่า ทำไมโดนลอบยิง ทำไมนอนตาย ยอมรับว่า ช่วงแรกที่เกิดเรื่องรู้สึกมืดแปดด้าน แต่ตอนนี้ขอสู้เพื่อพิสูจน์หาความจริง 

ต่อมา เวลา 14.50 น. วันเดียวกัน ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ (Decha&IBS) พระวสันต์ กลีบจินดา (กตคุโณ) พระพ่อของเสี่ยต้น กล่าวว่า เหตุที่ไม่เคลื่อนย้ายศพออกไปผ่าพิสูจน์ เนื่องจากครอบครัวไม่มีเงินจ้างรถและจ้างแพทย์ชันสูตร อาตมาไปเคารพศพที่บ้าน น.ส.มด ภรรยาของนายต้น ขณะกำลังจุดธูป น.ส.มด เข้ามานั่งข้างๆ และบอกว่า ถ้าเอาศพไปผ่า แล้วเจอสารที่ทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ ประกันจะไม่จ่ายเงินให้ แต่ถ้าไม่ผ่าจะได้เงินมาบ้าง และทาง น.ส.มด จะถวายให้ 2-3 ล้านบาท อาตมาจึงตอบกลับไปว่า ถ้าจะให้อาตมาขอไม่รับ แต่ขอคอนโดให้แม่ของเสี่ยต้น เพราะแม่ไม่มีที่อยู่อาศัย และขอให้ น.ส.มด สร้างกุฏิถวายพระภิกษุสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้นายต้น ขอแค่นี้

ด้านนายตั้ง สามีของ น.ส.หมวย (ไม่เปิดเผยชื่อ ในฐานะพยาน) ผู้ที่เป็นคนเห็นและถ่ายภาพหน้าศพเป็นสีคล้ำยืนยันว่า ไม่ได้ตัดแต่งภาพ ตรวจสอบต้นฉบับจากมือถือตนได้ สภาพศพดำเหมือนขี้เลน ตอนนั้นผิดสังเกตเหมือนกันว่า ตั้งแต่รดน้ำศพหรือพิธีต่างๆ ไม่มีใครเปิดผ้าคลุมศพ ลักษณะใช้ผ้าขาวห่อศพมิดเลย กระทั่งก่อนที่จะเผา จึงมีญาติโวยวายว่า ทำไมไม่เปิดหน้าเลย โดยปกติการรดน้ำศพต้องเปิดให้เห็นหน้า เพราะเป็นการส่งวิญญาณครั้งสุดท้าย พอเปิดออกมาจึงเห็นว่าดำมากและมีเลือดไหลบริเวณจมูก คนในงานเริ่มมีการพูดกัน แต่ทางภรรยาเสี่ยต้นไม่ได้พูดอะไร ส่วนที่มีการเปลี่ยนโลงศพมีจริง ตนเป็นคนยกโลงแต่ผ้าปิดอยู่ ใจก็อยากดูสภาพศพเหมือนกัน แต่เจ้าหน้าที่รีบเอาเข้าโลงใหม่ พบว่ามีการส่งกลิ่นเหม็นแล้ว นอกจากนี้ยังสังเกตว่า ทำไมรีบเผาในวันศุกร์ ตามปกติวัดมักจะไม่เผาศพวันศุกร์กัน ส่วนภาพในงานศพเห็นมีน้องสาวภรรยานายต้น แต่ไม่เจอแฟนของน้องสาวแต่อย่างใด

ขณะที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 พ.ค. เวลา 13.00 น. ตนจะพาพยานทั้งหมดไปพบพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง อีกรอบ เพื่อติดตามคดีความเชื่อมโยงการกระทำความผิดที่พื้นที่ สน.วังทองหลาง และเหตุการณ์เสียชีวิตที่ จ.มหาสารคาม เชื่อว่า ภายในสัปดาห์หน้าตำรวจน่าจะมีความคืบหน้าและทราบตัวคนร้ายลอบยิงเสี่ยต้นประมาณ 4-5 คน รวมถึงคนจ้างวานด้วย ตนมั่นใจว่าคนทำน่าจะมีความแค้นมาก เป็นความแค้นที่สะสมมานาน ทั้งทางตรงและทางอ้อมกับผู้เสียชีวิต