ระทึก!ชาวบ้านลานสักหนีช้างคลั่งว่ายน้ำหมดแรงดับ 1 รอด 1


อุทัยธานี- ระทึก!! หนีช้าง ว่ายลงน้ำหมดแรงดับ 1 อีกรายพายเรือหนีไปได้ ด้วยอาการผวานำส่งรพ.(อีกหนึ่งรายเผย รอดตายไม่ได้ไปด้วย หลังภรรยาผู้เสียชีวิตคาใจที่เพื่อนไม่รอรับผู้ตายกลับมาด้วย)
เมื่อวันที่ 13 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานช่วงเช้า ที่วัดโปร่งสามสิบ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จากกรณี ตี 1 ที่ผ่านมา ของวันที่ 12 พ.ค.2567 สถานีตำรวจภูธรลานสักได้รับแจ้งว่าพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย เสียชีวิตติดเกาะ สภาพขาจมน้ำส่วนอีกครึ่งตัวเกยตื้น ที่เกาะทรัพย์ดงเย็น อ่างเก็บน้ำเขื่อนระบำ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ หมู่ 11 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
จนท.ตำรวจ.ประสานไปยังหน่วยกู้ภัยอุทัยธานี จุดลานสัก รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพบเป็นเขื่อนน้ำระบำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ชาวบ้านออกหาปลาตามเขื่อนได้ แต่บริเวณนั้นเป็นติดกับเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างห่างจากพื้นที่ ที่ชาวบ้านำรถไปจอด ประมาณ 2-3 กิโลเมตร กว่าจะไปที่เกาะทรัพย์ดงเย็น ที่ผู้ตายเสียชีวิต ซึ่งการเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพบศพช่วงเวลากลางดึก โดยใช้เรือเครื่องยนต์ นำพาไปยังจุดเกิดเหตุ พบศพเป็นชาย สภาพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้น ห่างออกไป จากผู้ตายประมาณ 100-200 เมตร พบกระติกใส่ปลา แห เสื้อ ของผู้ตาย อุปกรณ์หาปลา ถูกเท้าช้างเหยียบจนแบน อยู่ในที่เกิดเหตุ
ทราบต่อมาว่าผู้ตายชื่อนายกล่ำ ชาวหล่ม อายุ 70 ปี บ้าน102 /2 หมู่ 18 บ้านเขาไม้นวล ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ส่วนอีกรายที่ไปกับผู้ตายได้เร่งพายเรือกลับมาก่อน ชื่อนายคำพัน อายุ 67 บ้านเลขที่ 79 หมู่ 3 บ้านโป่งสามสิบ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งอยู่คนละหมู่บ้านกัน ได้วิ่งหนีตาย ขึ้นเรือเร่งพายเรือกลับมาก่อน จนถึงฝั่ง ได้รีบโทรหาญาติๆให้พาไปหาหมอ เนื่องจากเหนื่อยล้าจนหมดแรงคล้ายคนหวาดผวา ต้องทำการรักษาตัวเป็นการเร่งด่วน
พร้อมกับสอบถามน.ส.สุวนันท์ บุญประดับ จนท.กู้ภัยอุทัยธานี จุดลานสัก ได้เปิดเผยว่า ขณะเข้าไปรับศพผู้ตาย ใช้เวลาการเดินทางด้วยความยากลำบาก เนื่องจากต้องเดินทางสัญจรทางเรือ เพียงอย่างเดียวบวกกับเวลากลางคืน พร้อมไปพบร่องรอยของเท้าช้าง และอุปกรณ์หาปลาของผู้เสียชีวิต ถูกช้างเหยียบได้รับความเสียหาย สภาพศพร่างกายของผู้ตาย ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใด
จากการสอบถามนายสัมฤทธิ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/22 หมู่ 18 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นหนึ่งในนั้นที่นัดกันแล้ว แล้วไปไม่ทัน เนื่องจากทางผู้เสียชีวิตได้ล่องเรือออกไปกับนายคำพัน ก่อนหน้าแล้ว ได้เปิดเผยว่า ผู้ตายนั้น ก่อนวันจะไปออกหาปลา ได้มานัดหมายกับตนเองก่อน ว่าจะชวนกันออกไปหาปลา ก่อนหนึ่งวัน ว่าจะไปในช่วงเช้ามืด ของวันเกิดเหตุ แต่ตนเองไปไม่ทัน ตนเองจึงได้ไปหาปลาอีกที่หนึ่ง จนไม่เกิดเรื่อง ว่าตนเองถือว่าครั้งนี้โชคดี ที่ไม่ได้ไปกับเค้า ทราบภายหลังว่า ผู้ตายกับนายคำพันที่ไปด้วยกัน คาดว่าจะหนีสัตว์อะไรบางอย่าง หรือหนีช้าง ต่างคนต่างหนี จนเป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตไม่ได้กลับมาด้วยกับนายคำพัน เนื่องจากนายคำพันเวลานั้นคาดว่า ไม่พบผู้ตาย จึงได้ลงเรือเร่งพายหนีเอาตัวรอด
จากการสอบถามภรรยาของผู้ตายชื่อนางลำไย อายุ 70 ปี ได้เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนชอบหาปลามาเลี้ยงครอบครัวครัว แต่วันเกิดเหตุได้ไปกับเพื่อน ตนเองก็ไม่มราบว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น มาทราบอีกที สามีตนเองก็นอนเกยตื้นเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ตนเองไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ เนื่องร่างกายสามีไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย แต่เพียงคาใจว่าเพื่อนที่ไปด้วยกันทำไมถึงไม่เอาสามีกลับมาด้วย ทั้งไปที่ชวนกันไปหาปลากัน แต่หนีรอดกลับมาเพียงผู้เดียว
สาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ คาดว่า ผู้เสียชีวิต และผู้ที่รอดชีวิต คาดน่าจะไปเจอช้างป่า ออกมาจากเขตป่าห้ามสัตว์ป่า ซึ่งอยู่ใกล้กับบริเวณเขื่อนน้ำ ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งที่ข้ามไป ประมาณ2-3 กิโลเมตร ขณะที่กำลังหาปลา คาดว่าผู้ตายพบเจอช้าง แล้วเกิดความตกใจกลัว แล้ววิ่งหนีลงน้ำ จนว่ายน้ำเหนื่อยไปไม่ไหว ไปติดอยู่ที่เกาะ ห่างจากจุดที่ช้างเหยียบอุปกรณ์หาปลา ประมาณ เกือบ 200 เมตร ส่วนอีกรายหนีตายเอาชีวิตรอดได้พายเรือออกมาได้ ส่วนผู้ตาย คาดว่าหมดแรง จนเกิดหัวใจวาย หยุดเต้นเฉียบพลัน เกิดเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทางญาติได้อัญเชิญพระไปเชิญดวงวิญญาณของผู้ตายในที่เกิดเหตุ