ไฟป่าสะเมิงวิกฤติพัดฝุ่นพิษเข้าเมืองเชียงใหม่ ทำ PM 2.5 พุ่งสูงปรี๊ด

ไฟป่าสะเมิงวิกฤติพัดฝุ่นพิษเข้าเมืองเชียงใหม่ ทำ PM 2.5 พุ่งสูงปรี๊ด





ad1

สถานการณ์ไฟป่าเชียงใหม่วิกฤติหนักที่สุดในรอบปี พบจุดความร้อนพุ่งสูงถึง 272 จุด ต้องระดมกำลังภาคพื้น และอากาศเข้าดับไฟป่าสะเมิง ล่าสุดควันไฟถูกลมพัดเข้ามาสะสมในตัวเมือง ทำให้เช้านี้ทั้งกลิ่นควันไฟ และ PM 2.5 พุ่งสูงปรี๊ด

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่เข้ามาสู่จุดที่วิกฤติหนักที่สุดในรอบปีอีกครั้งหลังจากที่เช้านี้พบว่า รายงานจุดความร้อนจากไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 272 จุด ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบปีนี้แล้ว โดยพื้นที่อำเภอสะเมิงมากที่สุด 84 จุด รองลงมาที่อำเภอเชียงดาว 42 จุด แม่แจ่ม 34 จุด อมก๋อย 20 จุด แม่แตง 18 จุดฮอด 16 จุด และกระจายตามอำเภอต่างๆ อีก 11 อำเภอ ทั้งนี้พบว่าสถานการณ์ไฟป่าวิกฤติหนักที่สุดต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 3 คือพื้นที่อำเภอสะเมิง 

นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เผยว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พบว่ามีการลักลอบเผาป่าในพื้นที่อำเภอสะเมิงกระจายเต็มพื้นที่ทั้งในส่วนของ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสะเมิง รวมทั้งพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนขาน พบว่ามีการลักลอบเข้าไปจุดไฟเผาป่าในใจกลางป่าลึก และมีการเผากระจายพร้อมกันหลายจุดด้วยกัน ซึ่งก็ไม่ทราบเหตุผลว่าเหตุใดมีการลักลอบเผาป่าพร้อมกันและกระจายเต็มพื้นที่เช่นนี้ ซึ่งยากแก่การเข้าไปดับพร้อมกันทุกจุดด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ และความยากลำบากในการเข้าแต่ละพื้นที่ด้วย

โดยเช้านี้ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ขึ้น ฮ.กระทรวงทรัพย์ฯ บินสำรวจจุดไฟป่าที่กระจายอยู่เพื่อประเมินสถานการณ์ว่าจุดไหนวิกฤติ และจะมีการวางแผนดับไฟให้จบเร็วที่สุด ตอนนี้กำลังภาคพื้นดินทั้งเสือไฟ เหยี่ยวไฟ จำนวน 200 นาย เข้าพื้นที่หมดแล้ว เตรียมประสานวางแผนเข้าดับไฟร่วมกับหน่วยงานอื่นที่สนับสนุนทางอากาศ ทั้งนี้ต้องเร่งควบคุมสถานการณ์ให้เร็วที่สุด เนื่องจากพบว่ากระแสลมได้พัดเอาควันไฟป่า จากพื้นที่อำเภอสะเมิงลอยเข้ามายังเขตเศรษฐกิจ คือพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่อย่างหนัก ทำให้คุณภาพอากาศเชียงใหม่เช้านี้พบว่ามีหมอกควันหนาแน่นมากขึ้นกว่าทุกวัน ดอยสุเทพหายไปจากพื้นที่เนื่องจากถูกหมอกควันขาวหนาทึบบดบัง มาพร้อมกับกลิ่นควันไฟป่าที่รุนแรง ทำให้หลายคนมีอาการแสบตา แสบคอ แสบจมูกอย่างหนักเมื่อต้องอยู่ในที่โล่งแจ้งนอกอาคาร

ตอนนี้นอกจากจะต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าดับไฟป่าแล้วยังต้องวางแผนป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าไปเผาป่าเพิ่มเติม พร้อมย้ำขอความร่วมมือประชาชนอย่าซ้ำเติมประชาชนชาวเชียงใหม่กันเองด้วยการเผาป่าเลย ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ขณะที่ ค่าฝุ่น PM 2.5 ของเชียงใหม่ พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีของกรมควบคุมมลพิษที่ติดตั้งอยู่ ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด

พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 10.00 น. วันนี้ อยู่ที่ 77.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 72.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 79.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 57.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 121.4 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 165.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับจากค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและมีผลกระทบต่อสุขภาพ