เทศบาลเมืองเมืองพลเตือนพ่อค้า-แม่ค้า อนุโลมให้ขายชั่วคราวหวั่นเกิดข้อพิพาทซ้ำ

เทศบาลเมืองเมืองพลเตือนพ่อค้า-แม่ค้า อนุโลมให้ขายชั่วคราวหวั่นเกิดข้อพิพาทซ้ำ





ad1

ขอนแก่น-เทศบาลเมืองเมืองพล เตือนพ่อค้า-แม่ค้า อนุโลม ให้ขาย แต่ไม่อนุญาตให้ขายถาวร หลังเกิดข้อพิพาทพ่อค้าขายส้มโอ ปะทะแม่ค้าขายเสื้อผ้า  หากเกิดปัญหาซ้ำดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดทันที

นายสันติ บุญหล้า รองปลัดเทศบาลเมืองเมืองพล พร้อมด้วย นายอำนาจ พิมพ์แหวน หัวหน้างานรักษาความสงบและหัวหน้างานเทศกิจเทศบาลเมืองเมืองพล และเจ้าหน้าที่ จาก สภ.พล  ลงพื้นที่ จัดระเบียบ และตักเตือน พ่อค้า-แม่ค้า ที่ค้าขายอยู่บนฟุตบาทและจอดรถขายสินค้าอยู่บนถนนพานิชเจริญ  ในเขตเทศบาลเมืองเมืองพลหลังเกิดข้อพิพาทระหว่งพ่อค้าขายส้มโอ กับ แม่ค้าขายเสื้อผ้า จนมีปากเสียงและเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียมาในช่วงที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการออกหนังสือตักเตือนมอบให้กับ น.ส.แสงเทียน หรือคำแพง แสงตาว อายุ 49 ปี  เจ้าของร้านคำแพง ขายสินค้ามือสองและจำหน่ายเสื้อผ้า และยังคงมีการตักเตือน นายทวี สมบูรณ์สูงเนิน หรือนะโม อายุ 50 ปี พ่อค้าที่จอดรถยนต์ขายส้มโอบนถนน  พร้อมทั้งการอธิบายถึงรายละเอียดของกฎระเบียบที่ควรปฏิบัติตาม มาตรา 20 ห้ามมิให้ผู้ใด ขายหรือจําหน่ายสินค้าซึ่งบรรทุกบนรถยนต์ รถจักรยานยนต์หรือล้อเลื่อน บนถนนหรือในสถานสาธารณะ

นายสันติ บุญหล้า รองปลัดทศบาลเมืองเมืองพล  กล่าวว่า หลังจากมีการเผยแพร่คลิปภาพในโซเชียลมีเดียที่พบว่า พ่อค้า-แม่ค้ามีปากเสียงกัน กรณีที่มีการขยายร้านค้าขายแล้วมีรถยนต์พ่อค้ามาจอดขายส้มโอหน้าร้าน ซึ่งการโต้เถียงกันนั้น มีคำพูดว่า เก็บเงิน จ่ายเงินให้ทางเทศบาลเมืองเมืองพล  ซึ่งจากคลิปดังกล่าว คนดูคลิปอาจเข้าใจผิดคิดว่า เทศบาลเมืองเมืองพล มีการเรียกเก็บเงินกับพ่อค้าแม่ค้า หรือคนต่างพื้นที่ ที่เข้ามาค้าขายในเขตเทศบาลเมืองเมืองพล  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเทศบาลเมืองเมืองพล ไม่มีการเรียกเก็บหรือให้ใครเก็บเงินให้  เพราะประชาชนทุกคนต่างทำมาหากิน  แม้ในจุดที่จอดรถค้าขาย  ถึงจะเป็นการค้าขายที่สุจริต แต่ค้าขายในจุดที่เป็นผิวการจราจร ตามระเบียบแล้วไม่สามารถทำได้  เทศบาลเมืองเมืองพลอนุโลม แต่ไม่ได้อนุญาต

"เมื่อเกิดปัญหาข้อโต้แย้งและทะเลาะกัน เทศบาลเมืองเมืองพลก็ต้องแก้ไข ให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ เอื้อเฟื้อและมีน้ำใจต่อกัน  อีกทั้งการจอดรถ หรือการค้าขาย บนฟุตบาทหรือจอดรถขายบนถนนริมฟุตบาทนั้น ไม่สามารถทำได้ เพราะกีดขวางการจราจรและทางเท้า แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีการระบาดของโควิด 19 เทศบาลเมืองเมืองพลก็ให้ประชาชนค้าขายได้  เพื่อจะได้มีรายได้มาลี้ยงครอบครัว และในการลงพื้นที่ตักเตือนแล้ว หากทั้งสองฝ่ายยังเกิดปัญหากันอีก เจ้าหน้าที่เทศกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎระเบียบและกฎหมาย"

 ขณะที่ น.ส.แสงเทียน หรือคำแพง แสงตาว อายุ 49 ปี  เจ้าของร้านคำแพง ขายสินค้ามือสอง กล่าวว่า หลังมีคลิปออกมาในโซเชียล ก็มีเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาเรียกตนกับคู่กรณีคือพ่อค้าขายส้มโอไปพูดคุยที่สภ.พล  แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ เพราะตนยังยืนยันว่า ร้านค้า หากมีรถจอดบังหน้าร้าน ก็ค้าขายลำบาก จึงขอร้องให้พ่อค้าส้มโอเลื่อนรถออก และขอยืนยันว่าไม่ได้เรียกเก็บเงิน  ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่มารตักเตือนถึงร้าน และให้จัดระเบียบร้านค้า ไม่ให้ลุกล้ำฟุตบาท และกีดขวางการจราจรนั้น ช่วงนี้ไม่มีฝนตกลงมาก็จะรีบดำเนินการให้

ด้านนายทวี สมบูรณ์สูงเนิน อายุ 50 ปี หรือนะโม  พ่อค้าขายส้มโอบนถนนนั้น ในวันนี้นายนะโมไม่อยู่ที่ร้าน มีเพียงลูกชายขายอยู่คนเดียว  จากการสอบถามทราบว่า พ่อไปซื้อส้มโอที่จังหวัดชัยภูมิ  ส่วนปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างจอดรถขายส้มโอนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่มาตักเตือนก็จะปฏิบัติตาม เพราะค้าขายก็ไม่อยากมีปัญหากับใคร