บุกรวบ "ไฮโซโจ"เจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดังข่มขื่นเหยื่อสาวจนเครียดดิ่งตึก 4 ชั้นสาหัส

บุกรวบ "ไฮโซโจ"เจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดังข่มขื่นเหยื่อสาวจนเครียดดิ่งตึก 4 ชั้นสาหัส





ad1

ผู้เสียหายสาวกระโดดตึกจากชั้น 4 เพื่อฆ่าตัวตาย หลังเธอด่ำดิ่งอยู่กับภาพจำที่สุดเลวร้ายจากการถูก “ไฮโซโจ” นักธุรกิจเจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดังข่มขืนพร้อมคำพูดที่ยังตามหลอกหลอนเธอว่า “กูจะ ย. จนมึงตาย” ล่าสุดเธออาการครึ่งเป็นครึ่งตายอยู่ในห้อง ICU พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช. ส่งชุดสืบสวนไล่ล่าจับตัวได้โดยผู้ต้องหามีท่าทีขัดขืนการจับกุม อ้างว่า “ผู้หญิงสมยอมและยอมตกเป็นโลกใบที่ 3 เอง” ตำรวจจะเชื่อใครติดตามกันต่อไป

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ สืบนครบาล ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายวชิรวิชญ์ หรือโจ เจ้าของแบรด์ขนมกล้วยชื่อดัง อายุ 42 ปี ภูมิลำเนา แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา จ.กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.277/2567 ลงวันที่ 20 มี.ค. 67 
     
ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน”

จับกุมตัวได้ที่ คอนโดหรูย่าน ซ.นายเลิศ ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จ.กรุงเทพ

พฤติการณ์กล่าวคือ นางสาวเอ (นามสมมติ)กับร่างไร้สติในห้อง ICU ที่อาการครึ่งเป็นครึ่งตาย จากการตัดสินใจกระโดดตึกจากชั้น 4 เพื่อหวังจะลาโลกใบนี้ หลังจากที่ต้องทุกข์ทรมานดำดิ่งอยู่กับภาพจำที่สุดเลวร้ายจากการถูก “ไฮโซโจ” ย่ำยีพร้อมคำพูดที่ยังตามหลอกหลอนเธอว่า “กูจะ ย จนมึงตาย” ไม่สามารถสลัดออกจากจิตใจของเธอได้กว่า 4 วัน เรื่องราวที่สุดแสนรันทดหดหู่เกิดขึ้นที่ย่านสีลม จ.กรุงเทพฯ โดยผู้เคราะห์ร้าย เธอพักอยู่ที่บ้านพักละแวกสีลมและดำเนินชีวิตโดยปกติของเธอ และมีไฮโซโจนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดัง และขยายกิจการมาเปิดร้านขายกัญชาอยู่ข้างๆบ้านที่เธอพักอาศัย เรื่องเลวร้ายได้เกิดขึ้นตอนย่ำรุ่งของวันที่ 13 มี.ค. 67 เมื่อไฮโซโจตกอยู่ในอาการมึนเมาในร้านขายกัญชาของตัวเอง ก่อนจะบุกเข้าไปในบ้านและเข้าไปในห้องนางสาว เอ ที่นอนอยู่ 

จากนั้นได้ลงมือล่วงละเมิดเธอพร้อมตะคอกใส่หูเธออย่างโรคจิตว่า “กูจะ…จนมึงตาย”   พยายามดิ้นต่อสู้แต่ไม่สามารถสู้แรงได้ จนเธอสลบไปตอนไหนไม่รู้ เมื่อเธอได้สติตื่นมาก็พบว่าไฮโซโจยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงเดียวกับเธอ เธอรวบรวมสติก่อนจะหลบหนีออกจากบ้านอย่างสุดชีวิต มุ่งหน้าไปที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อแจ้งความในทันที เธอเดินขึ้นโรงพักด้วยท่าทีหวาดระแวงสุดขีด อาการเนื้อตัวสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัดทำให้ ร.ต.อ.หญิง วิรัญชนา แพงคำ ผู้เป็นร้อยเวรที่รับแจ้งต้องพาเธอเข้าห้องเย็น ก่อนจะเกลี้ยกล่อมเธอด้วยการเปิดเพลงให้ฟัง ชวนคุยเรื่องผู้หญิงกว่าหลายชั่วโมงจนเธอยอมเปิดใจและบรรยายเหตุการณ์พร้อมใบหน้านองน้ำตากว่า 6 ชั่วโมงในการสอบปากคำ มันหดหู่ใจจนทำให้ตำรวจหญิงผู้สอบปากคำเธอถึงกับร้องไห้ตามเธอไปด้วย  กระทั่งวันที่ 17 มี.ค. 67 เธอตัดสินใจกระโดดลงจากชั้น 4 เพื่อฆ่าตัวตาย ขณะเธอตกลงมาถึงชั้น 3 ร่างของเธอได้กระแทกเข้ากับระเบียงทำให้แรงกระแทกจากการตกลงมานั้นลดลง ทำให้เธอยังไม่เสียชีวิต แต่ก็อยู่ในอาการโคม่าครึ่งเป็นครึ่งตาย มันต้องขนาดไหนถึงทำให้หญิงสาววัย 29 ปี รายนี้ต้องถึงกับฆ่าตัวตาย 

เรื่องนี้ถึงหูของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช. ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนคดีนี้ทันที ซึ่งต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ออกหมายจับไฮโซโจ หรือ นายวชิรวิชญ์ นักธุรกิจเจ้าของแบรด์ขนมกล้วยชื่อดัง และเป็นตระกูลของนักธุรกิจชื่อดัง หลังลงพื้นที่สืบสวน พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้สืบทราบว่าไฮโซโจนี้พักอาศัยอยู่กับแฟนสาวในคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านเพลินจิต จึงนำกำลังไปซุ่มโปร่งรอจับกุม และสามารถจับกุมได้ที่ ล็อบบี้ของคอนโด ขณะกลับมาจากทานข้าวเที่ยงโดยขณะจับกุมไฮโซโจมีท่าทีขัดขืนเจ้าหน้าที่จึงเกิดการปะทะคารมกันเล็กน้อยก่อนจะยินยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมตัว

ในชั้นจับกุม นายวชิรวิชญ์ฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองเป็นเจ้าของธุรกิจแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดังที่ส่งออกขายทั่วโลก และยังเป็นทายาทนักธุรกิจ จบการศึกษาจากต่างประเทศ ส่วนทางคดียืนยันไม่ได้ข่มขืนเพราะผู้เสียหายยอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเอง  ส่วนแฟนสาวที่คบอยู่ปัจจุบันนี้ไม่ทราบว่าตนเองมีโลกใบที่ 3 พึ่งจะมาทราบวันนี้”หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป