ร้อนจัดน้ำยางพาราออกน้อยตลาดต้องการสูงดันราคาพุ่งแตะเกือบ 80 บาท/กก.

ร้อนจัดน้ำยางพาราออกน้อยตลาดต้องการสูงดันราคาพุ่งแตะเกือบ 80 บาท/กก.





ad1

“ร้อนจัด” ยางพารา เหลือในตลาด 20 % ปี 67 ยางเหลือประมาณ 2 ล้านตัน จาก 4.5 ล้านตัน กวาดซื้อยางพุ่งเกือบแตะ 80 บาท / กก. คาดปี 68 ยางแตะตัวเลข 3 ตัว เหตุความต้องการเพิ่มขึ้น ทั้งจากสถานการณ์สงคราม รัสเซีย ยูเครน อิสราเอล ปาเลสไตน์ ฮูตีสหรัฐ อังกฤษ ระบุ ยุทธปัจจัยสงครามมียางประกอบด้วย

นายเรืองยศ เพ็งสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อยถ้ำพรรณรา (วคยถ.) ประธานเครือข่ายแปรรูปยางกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์ยางพาราขณะนี้เข้าสู่ภาวะหน้าร้อนจัดและยางพารากำลังแตกใบอ่อนและบางพื้นที่กำลังเข้าสู่ใบแก่ส่งผลให้น้ำยางสดชะลอตัวมาก และประมาณวันที่ 15 มีนาคม 2567 จะปิดหน้าหยุดกรีด ซึ่งโดยปกติแล้วจะปิดหน้าหยุดกรีดประมาณ 31 มีนาคม 2567 แต่ถึงอย่างไรก็มีบางส่วนที่มีความจำเป็นจะต้องกรีดและจากที่เคยกรีด 3 วัน เว้น 1 วัน ก็จะปรับมาเป็นกรีด 1 วันเว้น 1 วัน และจากยางนั้นยางจะกลับมาเปิดหน้ากรีดประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 แต่ทั้งนี้จะต้องดูว่าฝนจะตกหรือไม่ แต่หากฝนยังไม่ตก ก็จะต้องปิดหน้ากรีดต่อจนกว่าฝนจะตก

นายเรืองยศ กล่าวอีกว่า โดยภาพรวมตอนนี้ยางเหลืออยู่ในตลาดประมาณ 20 % จากปริมาณผลผลิตลดน้อยลงมาก ส่งผลให้ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นและขณะเดียวกันนโยบายของรัฐบาลจะออกซอฟโลนเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเกษตรกรยางพารา ซึ่งจะให้เกษตรกรสวนยาง จะได้มีความสามารถเก็บสต๊อกเป็นแก้มลิงยาง เพื่อรอราคาที่ดีหากเกิดว่าเวลานั้นราคายางตกต่ำลง แล้วจะได้เก็บสต๊อกในแก้มลิงไว้แวค่อยออกขายได้เมื่อมีราคาที่ดี ทั้งนี้รัฐบาลมีนโยบายจะออกซอฟโลนประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจากที่ผ่าน ๆ มารัฐบาลได้มีโครงการเกี่ยวกับยางพาราให้ซอฟโลน 10,000 ล้านบาท และ 5,000 ล้านบาทมาแล้ว

“เมื่อยางราคาไม่ค่อยจะดีก็จะได้ใช้เงินซอฟโลนเข้าเก็บสต๊อกไว้ และเกษตรกรที่เป็นกลุ่มรับซื้อยางก็สามารถเก็บสต๊อกได้ถึง 20 – 30 ตัน ต่อเมื่อได้ราคาที่พอใจก็ออกขายได้ และได้แจ้งไปยังเครือข่ายแปรรูปยางแล้วว่าอย่ามีการขายยางล่วงหน้าหรือมีการเทขาย เมื่อมีราคาปรับลงคราวละ 1 และ 2 บาท / กก.ว่าอย่ากังวลหรือตกใจ เพราะจะปรับลงระยะหนึ่งแล้วก็จะต้องปรับขึ้น เป็นกลยุทธหนึ่งทางด้านการตลาด เพื่อให้มีการปล่อยและเทยางออก”

นายเรืองยศ กล่าวอีกว่า จากปัจจัยที่บ่งบอกถึงแนวโน้มยางมาจากที่มาหลายปัจจัย 1. ผลผลิตยางปริมาณไม่มากของปี 2567 คาดการณ์ว่าจะเหลือประมาณ 2 ล้านตัน จากปกติประมาณ 4.5 ล้านตัน / ปี 2. ความต้องการยางเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน สงครามปาเลสไตน์-อิสราเอล และฮูตีเยเมน สหรัฐ อังกฤษ เพราะจากยุทธปัจจัยส่วนหนึ่งก็ต้องใช้ยาง

เช่น ยานยนต์ ฯลฯ ที่จะต้องใช้ยางประกอบ การสงครามยุทธปัจจัยในส่วนต่าง ๆ จะต้องมีการที่สูญเสีจำนวนมากก็มีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนฟื้นฟูใหม่3. เรื่องของ FSC และ EUDR ของประเทศสหภาพยุโรป (EU) ที่จะเป็นแหล่งข้อมูลบ่งชี้ถึงที่มาของยางพารา ฯลฯ ที่จะสามารถส่งออกยางเข้าสู่กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) ได้ และไทยเวลานี้ได้ดำเนินการไปแล้วเสร็จประมาณ 40-50 % และในปี 2568 จะแล้วเสร็จทั้งหมด

“และจะเป็นประเทศแรกของโลก ที่นำร่องยาง FSC และ EUDR ซึ่งจะได้ราคาเป็นบวกเพิ่มขึ้น และจะถึงตัวเลข 3 ตัวในอนาคต” นายเรืองยศ กล่าว

นายกัมปนาท วงศ์ชูวรรณ ผู้จัดการ กลุ่มเกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ สถาบันเกษตรกรแปรรูปยางรายใหญ่ภาคใต้เพื่อส่งออก เปิดเผยว่า ตลาดยางขณะเกิดภาวะขาดแคลนมาก และยางไม่มีอยู่ในสต๊อกของโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปยาง จึงจำเป้นต้องหาซื้อเข้ามาเก็บสต๊อกไว้เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกตามออร์เดอร์ จึงจำเป็นต้องหาซื้อในราคาที่แข่งขันกันส่งเป็นบวกต่อราคายาง

อีกทั้งเป้าหมายในการขับเคลื่อนราคายางทางการยางแห่งประเทศไทย โดยพาะ ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (บอร์ด กยท.) มีเป้าหมายต้องการให้ยางปรับตัวขึ้น 100 บาท / กก. โดยการออกมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งการป้องกันการลักอบนำยางเข้ามาจากต่างประเทศ และสามารถบล็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“แต่ในขณะเดียวกันที่ยางปรับราคาสูงเมื่อซื้อมาแล้วขายออกก็จะมีการตลาดตอบรับหรือไม่ ส่วนนี้จะต้องวิเคราะห์เพื่อป้องกันความเสี่ยง เพาะตลาดประเทศจีนยังค่อนข้างเงียบ ตรงกันข้ามตลาดโกซีกสหภาพยุโรป และตลาดกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง มีการขับเคลื่อนจากตลาดซื้อขายล่วงหน้าญี่ปุ่น และสิงคโปร์ที่สูงขึ้น” นายกัมปนาท กล่าวและว่า

ความต้องการยางของตลาดโลกยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต้องใช้ อีกทั้งตลาดรถก็ยังมีความต้องการ และในขณะเดียวกันก็มีความต้องยางเช่นกันในอนาคต เช่น สถานการณ์สงครามรัสเซีย ยูเครน ปาเลสไตน์ อิสราเอล เพราะองค์ประกอบยุทธปัจจัยจะต้องใช้ยางเป็นส่วนประกอบ เช่น ยานพาหนะเป็นต้น และเมื่อเกิดสงครามส่วนนี้ก็ต้องมีการสูญเสีย ก็ต้องมีการลงทุน ฟื้นฟูใหม่ จึงจำเป็นต้องใช้ยางเช่นกัน