กลับอำนาจฯก็ตกงานแถมหนี้ค้ำคอนับแสน ยอมเสี่ยงชีวิตทำงานฝ่าไฟสงครามอิสราเอล

กลับอำนาจฯก็ตกงานแถมหนี้ค้ำคอนับแสน ยอมเสี่ยงชีวิตทำงานฝ่าไฟสงครามอิสราเอล





ad1

อำนาจเจริญ-แรงงานไทยลั่นจะขอสู้ตายไม่ยอมกลับบ้านเกิดเพราะมีภาระรับผิดชอบหาเงินใช้หนี้นายทุนที่ยืมนับแสนบาทแถมยังต้องส่งน้องสาวให้เรียนจบพยาบาลตามคำสัญญาที่รับปากไว้

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566  นายณัฐพล  ศรีบุญญเรือง  อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่ 9849   หมู่ที่ 1  บ้านหนองมะแซว  ต.หนองมะแซว อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ  ชึ่งทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอล ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่บ้านหนองมะแซว ทางวีดีโอคอล ทั้งน้ำตาว่า  ตนจะยังอยู่ที่อิสราเอล พอสู้ได้ อยู่ได้ ถึงแม้ คุณแม่อยากให้กลับ ก็ตาม ตนจะขอสู้ต่อไป เพราะตนมีภาระต้องรับผิดชอบ เนื่องจากกู้หนี้ยืมสินมาทำงานที่อิสราเอล เป็นเงิน 140,000 บาท แล้วตนพึ่งมาทำงานแค่ 2-3 เดือน จะให้ตนกลับได้อย่างไร

หากกลับมาใครจะรับผิดชอบเรื่องหนี้สิน อีกทั้งยังต้องรับผิดชอบ น้องที่เรียนสอบติดพยาบาล ชึ่งตนได้รับปากกับน้องสาวแล้ว ว่าต้องส่งน้อง เรียน จนจบ ครบ 4 ปี ทนได้รับปากเป็นหมั่นเป็นหมายกับน้องสาวไว้แล้ว หากตนกลับมาตอนนี้ ก็ขาดทุน เงินใช้หนี้ก็ไม่มี มิหน่ำซ้ำอยู่บ้านก็ไม่มีงานทำน้องก็ไม่ได้เรียนพยาบาลแน่นอน งานที่อำนาจเจริญหายาก ค่าแรงก็ถูกมาก ตนจะกัดฟัน สู้ต่อไป ก่อนนอนทุกคืนตนกราบไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตน นับถือและนำมาด้วย ตนจะระลึกถึง ไม่ว่าจะเป็นพระมงคลมิ่งเมือง องค์พระเหลาเทพนิมิตร องค์พระศรีเจริญ ซึ่งตนเชื่อว่า ตนจะคลาดแคล้ว กับภยันอันตรายทั้งปวง

ตนจะ ตั้งใจทำงานให้นายจ้างรัก และเชื่อมั่น ตนเอง ซึ่งที่ตนอยู่นี้นายจ้างก็ดีมากๆ ได้ข่าวว่าจะขึ้นค่าแรงให้ตนด้วย ตนและเพื่อนๆก็จะขอสู้ต่อไป คุณแม่และญาติพี่น้องไม่ต้องเป็นห่วง เชื่อว่า เราทำความดีพระย่อมคุ้มครอง สิ่งที่ตนตั้งใจไว้คือส่งเงินให้แม่มีเงินเก็บ มีกินมีใช้ ยามแก่เฒ่าชรา และจะส่งน้องเรียนจนสำเร็จพยาบาล และตนมีจะต้องมีเงินเก็บสักก้อนหนึ่งจึงจะ หวนกลับมา ยังบ้านเกิดอำนาจเจริญ เพราะตนปีนี้อายุเพิ่ง 32 ปี เพราะหากตนกลับมาช่วงนี้ ตนมาอยู่ที่อำนาจเจริญ ไม่รู้จะทำงานอะไร ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนส่งให้น้อง ยิ่งฐานะบ้านของตน มีความเป็นอยู่ ก็ยากจนอยู่แล้ว

"จังหวัดอำนาจเจริญ เขานับว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่จนที่สุดในประเทศไทย อันนี้จริงเท็จใช่ไหมตนก็ไม่ทราบ ว่าตนได้ยินเขาพูดมาเช่นนี้ อย่างไรก็ตามตนก็จะขอสู้ ให้ตนมีเงินมีทอง และส่งน้องเรียนจนจบ เก็บเงินได้อีกสักก้อนหนึ่ง จึงจะหวนกลับบ้านเกิดเพื่อสร้างหลักสร้างฐาน มีเงินมีทอง พออยู่พอกินพอใช้ไปตลอดชีวิตครอบครัวของพวกตน ตนยอมรับว่าคิดถึงบ้าน มาก บางวันนอนไม่หลับแต่กลับไม่ได้  ที่อิสราเอลไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน จะได้ยิน แต่เสียงจรวด สู้รบกัน ทางอากาศ แต่ก็ต้องสู้ เพราะเงินตัวเดียวที่จะทำให้ น้องของตนเรียนจบ มีเงินเดือน และเพื่อแม่ของตนมีเงินใช้จ่าย ในช่วงบั้นปลายชีวิตของท่าน เท่านี้ตนก็ภูมิใจที่เกิดมาเป็นคน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูล แรงงานจังหวัดอำนาจเจริญ ทราบว่า มีชาวจังหวัดอำนาจเจริญ ไปใช้แรงงานอยู่ในประเทศ อิสราเอล จำนวน 80 คน เป็นชาย 78 คน เป็นหญิง 2 คน เดินทางกลับจังหวัดอำนาจเจริญแล้วจำนวน 8 คน จากจำนวน 80 คน

ภาพข่าว นายทิพกร   หวานอ่อน   ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอำนาจเจริญ   รายงาน