สงครามยิว-ฮามาสดันทองพุ่งแห่เทขายเก็งกำไรคึกคัก

สงครามยิว-ฮามาสดันทองพุ่งแห่เทขายเก็งกำไรคึกคัก





ad1

บรรยากาศภายในร้านทองต่างๆ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ได้มีประชาชนนำทองคำ ทั้งทองรูปพรรณ และทองคำแท่ง มาขายกันอย่างคึกคัก ภายหลังจากที่ช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทองรูปพรรณ ราคาบาทละ 34,700 บาท ทองคำแท่ง ราคาบาทละ 34,200 บาท  และมีแนวโน้มขยับราคาเพิ่มสูงขึ้นไม่หยุดเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ที่ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนที่มีทองคำอยู่ในมือ พากันแห่นำทองคำมาขายกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ร้านทองต่างๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณโดยรอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ซึ่งมีร้านทองตั้งอยู่กว่า 20 ร้าน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่ร้านทองกรุงเทพ ตราหัวใจคู่ ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีประชาชนชาวโคราช นำทองมาขายกันอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา มาคอยดูแลความปลอดภัยร้านทองอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันโจร ผู้ร้าย ที่อาจจะฉวยโอกาสช่วงราคาทองคำพุ่งสูง มาก่อเหตุวิ่งราวทองคำได้ในช่วงนี้

นางพวง ตวงกระโทก อายุ 66 ปี หนึ่งในประชาชนที่นำทองคำมาขาย กล่าวว่า ภายหลังจากที่ราคาทองคำแพงขึ้นถึงบาทละ 34,200 บาท ทำให้อดใจไม่ไหว วันนี้ตนเองจึงได้นำสร้อยคอทองคำที่เก็บไว้นานกว่า 10 ปี น้ำหนัก 2 บาท มาขาย แล้วเปลี่ยนเป็นเส้นละ 1 บาทแทน เพื่อนำเงินที่ขายได้ไปใช้จ่ายในครอบครัว เท่ากับเป็นการขายไปครึ่งหนึ่ง ไม่อยากขายออกหมด เพราะรู้สึกเสียดาย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ช่วงที่ราคาทองขึ้นมาถึงบาทละ 20,000 บาท ตนเองก็ได้นำทองคำหนักกว่า 2 บาท มาขายไปได้เงินเป็นแสนมาแล้ว ตอนนี้มารู้สึกเสียดายในภายหลัง ไม่คิดว่าราคาทองคำจะแพงได้ถึงขนาดนี้เลย

ด้านนายสุเทพ ณัฐกานต์กนก ผู้บริหารร้านทองกรุงเทพ ตราหัวใจคู่ เปิดเผยว่า การที่ราคาทองคำแพงถึงขนาดนี้ เพราะเกิดจากภาวะสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ทำให้นักลงทุนทั่วโลกไม่เชื่อมั่นกับเศรษฐกิจ จึงพากันหันมาเก็บทองคำแทนทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูงกว่า ดังนั้นจึงทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ถึงวันนี้ทองคำแท่งราคามาแตะที่บาทละ 34,200 บาทแล้ว และคาดว่าถ้าสงครามยังคงยืดเยื้ออยู่เช่นนี้ ราคาทองคำก็น่าจะขยับขึ้นไปถึงบาทละ 35,000 บาท ซึ่งปีนี้ถือว่าราคาทองคำมีการปรับราคาสูงขึ้นถึง 4,350 บาทไปแล้ว โดยมาพีคสุดช่วงเกิดภาวะสงคราม ซึ่งเป็นช่วงใกล้จะปลายปีพอดี ทั้งที่ปกติแล้วราคาทองคำจะพีคสุดช่วงเทศกาลปีใหม่ และตรุษจีน ดังนั้นช่วงนี้ที่ราคาทองคำพุ่งสูง ก็ทำให้มีประชาชนนำทองคำมาขายกันเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันหากดูสถิติตั้งแต่ต้นปี 66 ถึงขณะนี้ ภาพรวมทางร้านทองของตนเองมียอดขายลดลงมากกว่า 30% เลยทีเดียว แต่หากสถานการณ์สงครามจบลง ก็คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงตามกลไกของตลาด ถึงอย่างไรก็ตาม ตนเองแนะนำว่าทองคำถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่น่าซื้อเก็บไว้มากที่สุด เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ มีแต่จะปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง สังเกตได้จากเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ราคาทองคำอยู่เพียงบาทละ 20,000 บาทเท่านั้น แต่ตอนนี้พุ่งสูงถึงบาทละ 34,200 บาทแล้ว ดังนั้นถ้ามีกำลังพอก็ควรแบ่งเงินจำนวนหนึ่งซื้อทองคำเก็บไว้จะดีที่สุด

โดย...ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา